ด้วยชีวิตในสังคมที่เร่งรีบในปัจจุบัน ทำให้ใครหลายคนหันมารับประทานอาหารนอกบ้านกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ ร้านอาหาร ภัตตาคาร หรือในโรงแรม ซึ่งการกินข้าวนอกบ้านนั้นทำให้สะดวก รวดเร็ว เลือกกินอะไรก็ได้ตามใจชอบ แถมไม่ต้องมานั่งล้างจานอีก แต่ความสบายก็ต้องแลกกับข้อเสียที่ตามมา คือ เราไม่มีทางรู้เลยว่าเค้าจะเอาอะไรมาให้เรากินบ้าง
เพื่อความอร่อยทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ แน่นอนว่าหนึ่งในเครื่องปรุงนั้นก็คือ ผงชูรส นั่นเอง แทบจะเป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำอาหารเลยทีเดียว มีนักวิชาการบางท่านได้บอกไว้ว่า ปริมาณที่เหมาะสมของการใช้ผงชูรส คือ ประมาณปลายช้อนเท่านั้น แต่เท่าที่เคยเห็นแม่ครัวส่วนใหญ่ก็ตวัดกันเป็นช้อนๆ แน่นอนว่าหากกินเรื่อยๆ สะสมไปในระยะยาวเป็นอันตรายแน่นอน
จุดเริ่มต้นของ "ผงชูรส" มาจากประเทศญี่ปุ่นค่ะ เกิดจากการค้นพบรสชาติที่สกัดได้จากสาหร่ายทะเล เรียกว่า รสอูมามิ หรือ รสอร่อย ซึ่งค้นพบมาเป็นร้อยๆ ปีแล้ว หลังจากนั้นก็เริ่มมีการผลิตผงชูรสในระบบอุตสาหกรรมมากขึ้น แต่ในภายหลังได้เปลี่ยนทั้งวัตถุดิบและวิธีการผลิต ปัจจุบันผงชูรสผลิตจากแป้งมันสำปะหลัง ผ่านกระบวนการทางเคมีหลายขั้นตอนทั้งหมักและใช้สารเคมีหลายตัว เพราะฉะนั้นกินเข้าไปมากๆ เป็นอันตรายแน่นอน แม้ว่าส่วนประกอบหลักจะมาจากธรรมชาติก็ตาม
การรับผงชูรสเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป ส่งผลเสียหลายอย่าง ในระยะสั้นที่เห็นผลได้ทันทีก็คือ จะรู้สึกลิ้นชา หิวน้ำมากๆ อาการนี้เกิดขึ้นได้บ่อยๆ แต่หากเกิดแพ้หรือกินมากเกินไปจนที่ร่างกายจะรับได้ก็ยังมีอาการอื่นๆ อีก เช่น ร้อนที่หน้า แน่นหน้าอก ปวดหัว อยากอาเจียน มีผื่นขึ้น หรือไมเกรนขึ้นได้เลยทีเดียว
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ก็คงไม่มีใครอยากรับประทานอาหารที่ใส่ผงชูรสแล้วใช่มั๊ยคะ แต่ในชีวิตประจำวันเราเลี่ยงค่อนข้างยาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารตามร้านต่างๆ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือแม้แต่ขนมคบเคี้ยว เพราะฉะนั้นทางเลี่ยงง่ายที่สุดคือ ถ้ามีโอกาสก็ลองทำกับข้าวทานเองที่บ้าน แล้วลองไม่ใส่ผงชูรสดูบ้าง ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่มาทานอาหารที่อาจจะไม่อร่อยที่สุด แต่ปลอดภัยที่สุดกันดูค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก www.pharm.su.ac.th, www.doctor.or.th และ www.dek-d.com

Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday