ขยันเดินดีกว่าเน้นเข้ายิม!

ผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายโดยเน้นการเข้ายิม อย่าเพิ่งมั่นใจว่า การทุ่มเทเวลาช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น 30 นาที หรือ 1-2 ชั่วโมง เพื่อออกกำลังกายให้ได้เหงื่อนั้น จะทำให้คุณปลอดภัยจากความผิดปกติหรือโรคที่เกิดจากระบบเผาผลาญ อย่าง โรคอ้วน โรคเบาหวาน ไปได้?

ที่กล่าวเช่นนั้น เพราะมีการวิจัยจากมหาวิทยาลัยมาสทริค ของประเทศฮอลแลนด์แดนกังหันลม ชี้ว่า อันที่จริงแล้ว การเป็นคนขยันเดินนั้นจะส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว มากกว่าการเน้นแต่เพียงออกกำลังกายหนักๆ ในยิมเสียอีก

การเดิน ซึ่งเปรียบเสมือนการออกกำลังกายเบาๆ แต่มีความต่อเนื่องในเรื่องการเผาผลาญพลังงานนั้น ดีกว่าการออกกำลังกายหนักๆ ตรงที่ การออกกำลังกายเบาๆ ช่วยเพิ่มความไวของอินซูลินในการจัดการกับระดับไขมันในเลือดได้ดี ทั้งนี้เหตุที่ไม่ควรมองข้ามเรื่องอัตราการเผาผลาญไขมันโดยอินซูลินนั้น เพราะสิ่งนี้คือตัวชี้วัดความเสี่ยงของการเกิดโรคอ้วน และเบาหวาน

ก่อนหน้านี้ทีมวิจัยทำการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุระหว่าง 19-24 ปี โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีสมาชิก 18 คน สำหรับกลุ่มแรก ให้นั่งทำโน่นทำนี้นาน 14 ชั่วโมง และไม่ให้ออกกำลังกาย ส่วนกลุ่มต่อมา ให้นั่ง 13 ชั่วโมง แต่ให้ออกกำลังกายหนักๆ 1 ชั่วโมง และกลุ่มสุดท้าย ให้นั่งแค่ 6 ชั่วโมง ก่อนจะให้ไปเดินเล่นชิลๆ อีก 4 ชั่วโมง และยืนทำอะไรต่อมิอะไรอีกราว 2 ชั่วโมง

ผลที่ได้ คือ กลุ่มสุดท้าย ซึ่งมีโอกาสได้ออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการเดิน ยืน แต่นั่งน้อยหน่อยนั้น มีอัตราการเผาผลาญคอเลสเตอรอลและไขมันได้ดีกว่า แถมยังถือว่าดีกว่าสองกลุ่มที่เหลือด้วย

จากผลที่ปรากฏ ทีมวิจัยนำมาวิเคราะห์ว่า การที่บางคนเน้นออกกำลังกายจัดเต็มเพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง และแม้จะทำเป็นประจำทุกวัน แต่ทว่าช่วงเวลาส่วนใหญ่ของวัน คนๆ นั้นกลับไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว ไม่ค่อยได้ใช้พลังงาน มีพฤติกรรมเกียจคร้าน เช่น ชอบนั่ง ชอบนอน และไม่ชอบเดิน หากเป็นดังที่กล่าวมานี้ การลงแรงออกกำลังกายเพียงชั่วครู่ก็ยังไม่เพียงพอช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลินได้

ออกกำลังกายอย่างเดียวคงไม่พอ ถ้าไม่อยากอ้วน ไม่อยากป่วยเบาหวาน ก็ต้องเดิน เดิน เดิน.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์