ฤกษ์ดี... ผ่าท้องคลอดลูก
ต้องยอมรับกันว่า วิถีชีวิตของคนไทยส่วนใหญ่ผูกติดอยู่กับความเชื่อเรื่อง "ฤกษ์งามยามดี" มาแต่ครั้งโบราณกาล ไม่ว่าจะเป็นงานมงคล เช่น งานบวช งานแต่ง งานขึ้นบ้านใหม่ และงานอวมงคลอย่างงานศพ หรือแม้กระทั่งการเดินทางออกจากบ้านไปทำธุระสำคัญที่ไหน หลายคนมักจะพยายามเลือกใช้กำหนดการตามช่วงเวลาที่ดีที่สุดต่อชะตาชีวิตของคนคนนั้น เพื่อให้เป็นนิมิตหมายอันดีเยี่ยมในการเริ่มต้นทำสิ่งต่าง ๆ ให้ออกมาง่ายดาย ราบรื่น และสะดวก
เพียงแต่การมองหาฤกษ์ยามของคนส่วนใหญ่ มักจะเป็นการนำไปใช้ในกิจกรรมหรือเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในระหว่างทางของการดำเนินชีวิต ซึ่งส่งผลเพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น เมื่อเทียบกับช่วงชีวิตของคนหนึ่งคน
ดังนั้นคงจะเป็นการดีกว่า หากนำความเชื่อเรื่องฤกษ์งามยามดีเข้ามาใช้ปูทาง และเตรียมการไปสู่สิ่งที่ดีกว่าในอนาคตกันตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นก้าวแรกของชีวิต ด้วยวิธีการ "ดูฤกษ์ผ่าท้องทำคลอด" ซึ่งคนส่วนใหญ่นิยมผ่าออกมากกว่าคลอดตามธรรมชาติ
"อาจารย์บุศรินทร์ ปัทมาคม" โหรชื่อดังแห่งเมืองไทยผู้ให้ความสนใจและศึกษาในเรื่องนี้ ย้อนที่มาที่ไปให้ฟังว่า ศาสตร์การหาฤกษ์ผ่าท้องคลอดความจริงมีมานานแล้ว แต่ก่อนหน้านี้คนที่ให้ฤกษ์ส่วนมากดูดวงไม่เป็น ให้เป็นแต่ฤกษ์เท่านั้น
ดังนั้นคนที่เหมาะกับการให้ฤกษ์จึงควรจะเป็นคนที่ดูดวงเป็นประกอบด้วย เพื่อจะได้อธิบายเรื่องราวต่าง ๆ และหาวิธีแนะนำที่ถูกต้องได้อย่างละเอียด
"ด้วยความที่ผมทำอาชีพโหรและเรียนรู้ในศาสตร์นี้มานานถึง 40 กว่าปี ทำให้ผมเรียนรู้ว่าทุกคนล้วนแต่มีวิบากกรรมติดตัวมาตั้งแต่เกิด ผมจึงคิดว่าคงจะเป็นการดีกว่านี้ ถ้าเราเริ่มต้นด้วยฤกษ์และดวงชะตาที่ดี จึงน่าจะดีต่อชีวิตมากที่สุด"
โดยกลุ่มคนที่สนใจหาฤกษ์ทำคลอดทั้งหมดคือ กลุ่มพ่อแม่ที่มีความต้องการผ่าตัดทำคลอดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เนื่องจากมีความจำเป็นต้องผ่าไม่อยากเจ็บท้อง หรือไม่ต้องการให้ช่องคลอดฉีกขาด ส่วนเรื่องของฤกษ์เป็นเพียงแค่การเสริมลงไปเท่านั้น หากตกลงกับแพทย์ผู้ทำคลอดรู้เรื่อง
"การให้ฤกษ์จะต้องให้โดยนับจากวันครบกำหนดคลอดถอยหลังไปประมาณ 1 เดือน ระหว่างเดือนนั้นเราสามารถเลือกได้ทุกวัน แต่ต้องเลือกวันที่ดีที่สุดเท่านั้นเอง ยกตัวอย่าง ถ้าครบกำหนดเดือนกุมภาพันธ์ นับถอยหลังไปเดือนมกราคม สามารถผ่าได้ทั้งเดือน"
วิธีการดูฤกษ์ผ่าตัดทำคลอด อาจารย์บุศรินทร์อธิบายว่า ไม่จำเป็นต้องนำวันเดือนปีเกิดของพ่อ-แม่มาอ้างอิงแต่อย่างใด แต่จะใช้วิธีการคำนวณช่วงเวลาในแต่ละเดือนว่ามีดาวดีหรือดาวเสียตกลงในช่วงไหนของวัน เพื่อให้ได้วันและเวลาที่สามารถหนุนเสริมดวงชะตาของเด็กที่กำลังจะเกิดมาได้ดีที่สุด
"หลักสำคัญในการหาฤกษ์ผ่าท้องทำคลอดของผม คือเด็กที่เกิดมาจะต้องมีชะตาที่โตแล้วรวย มีความมั่นคง แกร่ง และเก่ง ส่วนในเรื่องที่จะหาช่วงเวลาเกิดที่ชะตาต้องกับพ่อแม่นั้นแทบจะไม่จำเป็นต้องสนใจเลย เพราะเต็มที่พ่อแม่ก็อยู่กับลูกได้เพียงแค่ 25-30 ปี และหลังจากนั้นเด็กจะต้องโตขึ้นไปสู้ชีวิตด้วยตัวเอง แต่หากต้องการแบบนั้นจริง ๆ ก็ต้องยอมรับว่า เด็กที่เกิดมาอาจจะดวงถูกชะตาแต่ไม่รวย หรือดวงถูกชะตาแต่เด็กป่วยง่าย"
สำหรับเด็กที่เกิดตามฤกษ์ผ่าคลอดแทบทั้งหมดจะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง มีความคิดเป็นของตัวเอง ปรับตัวเข้ากับคนรอบข้างได้ง่าย เลี้ยงค่อนข้างยาก ซนมากกว่าเด็กทั่วไป
"ถึงเด็กกลุ่มนี้จะเลี้ยงยากกว่าเด็กปกติ แต่ในอนาคตจะกลายเป็นเด็กที่ประสบความสำเร็จสูงอย่างแน่นอน ผมยืนยันได้จากการศึกษาและติดตามผลชีวิตของเด็กที่ให้ฤกษ์ไปตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา"
หากถามว่าช่วงเวลาใดที่เหมาะสมกับการผ่าคลอดมากที่สุด อาจารย์บุศรินทร์ยอมรับว่า ไม่สามารถชี้ชัดลงไปอย่างแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากต้องดูกันไปตามช่วงเวลา ณ ขณะนั้น ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามการโคจรของดวงดาวในแต่ละวันว่าจะตกลงในช่วงชะตาที่ดีเยี่ยมสำหรับการผ่าหรือร้ายแย่จนไม่ควรทำคลอด
"แต่ที่พอจะบอกได้ตอนนี้คือ วันจันทร์กับอังคารถือว่าเป็นฤกษ์เกิดที่ดีที่สุด โดยวันจันทร์สำหรับผู้หญิง ส่วนวันอังคารสำหรับผู้ชาย"
อย่างไรก็ตาม โหรบุศรินทร์ชี้แจงว่า การหาฤกษ์ผ่าตัดทำคลอดแบบนี้ไม่นับว่าเป็นการฝืนลิขิตฟ้าแม้แต่น้อย เพราะเป็นการมอบสิ่งที่ดีกว่าให้กับเด็กที่เกิดมา
"การให้ฤกษ์ชนิดนี้จะออกมาดีทั้งหมดหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าบุญที่ติดตัวมาจะมีมากหรือน้อยเพียงใด อีกอย่างหนึ่งคือการจะให้ผลออกมาดีทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ อาจจะต้องมีเสียบ้างในบางครั้ง เพียงแต่ถ้าได้รับฤกษ์การผ่าท้องไปแล้ว คงจะช่วยลดเรื่องแย่ ๆ ลงไปได้อย่างแน่นอน" อาจารย์บุศรินทร์ปิดท้าย
เพียงแต่การมองหาฤกษ์ยามของคนส่วนใหญ่ มักจะเป็นการนำไปใช้ในกิจกรรมหรือเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในระหว่างทางของการดำเนินชีวิต ซึ่งส่งผลเพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น เมื่อเทียบกับช่วงชีวิตของคนหนึ่งคน
ดังนั้นคงจะเป็นการดีกว่า หากนำความเชื่อเรื่องฤกษ์งามยามดีเข้ามาใช้ปูทาง และเตรียมการไปสู่สิ่งที่ดีกว่าในอนาคตกันตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นก้าวแรกของชีวิต ด้วยวิธีการ "ดูฤกษ์ผ่าท้องทำคลอด" ซึ่งคนส่วนใหญ่นิยมผ่าออกมากกว่าคลอดตามธรรมชาติ
"อาจารย์บุศรินทร์ ปัทมาคม" โหรชื่อดังแห่งเมืองไทยผู้ให้ความสนใจและศึกษาในเรื่องนี้ ย้อนที่มาที่ไปให้ฟังว่า ศาสตร์การหาฤกษ์ผ่าท้องคลอดความจริงมีมานานแล้ว แต่ก่อนหน้านี้คนที่ให้ฤกษ์ส่วนมากดูดวงไม่เป็น ให้เป็นแต่ฤกษ์เท่านั้น
ดังนั้นคนที่เหมาะกับการให้ฤกษ์จึงควรจะเป็นคนที่ดูดวงเป็นประกอบด้วย เพื่อจะได้อธิบายเรื่องราวต่าง ๆ และหาวิธีแนะนำที่ถูกต้องได้อย่างละเอียด
"ด้วยความที่ผมทำอาชีพโหรและเรียนรู้ในศาสตร์นี้มานานถึง 40 กว่าปี ทำให้ผมเรียนรู้ว่าทุกคนล้วนแต่มีวิบากกรรมติดตัวมาตั้งแต่เกิด ผมจึงคิดว่าคงจะเป็นการดีกว่านี้ ถ้าเราเริ่มต้นด้วยฤกษ์และดวงชะตาที่ดี จึงน่าจะดีต่อชีวิตมากที่สุด"
โดยกลุ่มคนที่สนใจหาฤกษ์ทำคลอดทั้งหมดคือ กลุ่มพ่อแม่ที่มีความต้องการผ่าตัดทำคลอดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เนื่องจากมีความจำเป็นต้องผ่าไม่อยากเจ็บท้อง หรือไม่ต้องการให้ช่องคลอดฉีกขาด ส่วนเรื่องของฤกษ์เป็นเพียงแค่การเสริมลงไปเท่านั้น หากตกลงกับแพทย์ผู้ทำคลอดรู้เรื่อง
"การให้ฤกษ์จะต้องให้โดยนับจากวันครบกำหนดคลอดถอยหลังไปประมาณ 1 เดือน ระหว่างเดือนนั้นเราสามารถเลือกได้ทุกวัน แต่ต้องเลือกวันที่ดีที่สุดเท่านั้นเอง ยกตัวอย่าง ถ้าครบกำหนดเดือนกุมภาพันธ์ นับถอยหลังไปเดือนมกราคม สามารถผ่าได้ทั้งเดือน"
วิธีการดูฤกษ์ผ่าตัดทำคลอด อาจารย์บุศรินทร์อธิบายว่า ไม่จำเป็นต้องนำวันเดือนปีเกิดของพ่อ-แม่มาอ้างอิงแต่อย่างใด แต่จะใช้วิธีการคำนวณช่วงเวลาในแต่ละเดือนว่ามีดาวดีหรือดาวเสียตกลงในช่วงไหนของวัน เพื่อให้ได้วันและเวลาที่สามารถหนุนเสริมดวงชะตาของเด็กที่กำลังจะเกิดมาได้ดีที่สุด
"หลักสำคัญในการหาฤกษ์ผ่าท้องทำคลอดของผม คือเด็กที่เกิดมาจะต้องมีชะตาที่โตแล้วรวย มีความมั่นคง แกร่ง และเก่ง ส่วนในเรื่องที่จะหาช่วงเวลาเกิดที่ชะตาต้องกับพ่อแม่นั้นแทบจะไม่จำเป็นต้องสนใจเลย เพราะเต็มที่พ่อแม่ก็อยู่กับลูกได้เพียงแค่ 25-30 ปี และหลังจากนั้นเด็กจะต้องโตขึ้นไปสู้ชีวิตด้วยตัวเอง แต่หากต้องการแบบนั้นจริง ๆ ก็ต้องยอมรับว่า เด็กที่เกิดมาอาจจะดวงถูกชะตาแต่ไม่รวย หรือดวงถูกชะตาแต่เด็กป่วยง่าย"
สำหรับเด็กที่เกิดตามฤกษ์ผ่าคลอดแทบทั้งหมดจะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง มีความคิดเป็นของตัวเอง ปรับตัวเข้ากับคนรอบข้างได้ง่าย เลี้ยงค่อนข้างยาก ซนมากกว่าเด็กทั่วไป
"ถึงเด็กกลุ่มนี้จะเลี้ยงยากกว่าเด็กปกติ แต่ในอนาคตจะกลายเป็นเด็กที่ประสบความสำเร็จสูงอย่างแน่นอน ผมยืนยันได้จากการศึกษาและติดตามผลชีวิตของเด็กที่ให้ฤกษ์ไปตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา"
หากถามว่าช่วงเวลาใดที่เหมาะสมกับการผ่าคลอดมากที่สุด อาจารย์บุศรินทร์ยอมรับว่า ไม่สามารถชี้ชัดลงไปอย่างแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากต้องดูกันไปตามช่วงเวลา ณ ขณะนั้น ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามการโคจรของดวงดาวในแต่ละวันว่าจะตกลงในช่วงชะตาที่ดีเยี่ยมสำหรับการผ่าหรือร้ายแย่จนไม่ควรทำคลอด
"แต่ที่พอจะบอกได้ตอนนี้คือ วันจันทร์กับอังคารถือว่าเป็นฤกษ์เกิดที่ดีที่สุด โดยวันจันทร์สำหรับผู้หญิง ส่วนวันอังคารสำหรับผู้ชาย"
อย่างไรก็ตาม โหรบุศรินทร์ชี้แจงว่า การหาฤกษ์ผ่าตัดทำคลอดแบบนี้ไม่นับว่าเป็นการฝืนลิขิตฟ้าแม้แต่น้อย เพราะเป็นการมอบสิ่งที่ดีกว่าให้กับเด็กที่เกิดมา
"การให้ฤกษ์ชนิดนี้จะออกมาดีทั้งหมดหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าบุญที่ติดตัวมาจะมีมากหรือน้อยเพียงใด อีกอย่างหนึ่งคือการจะให้ผลออกมาดีทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ อาจจะต้องมีเสียบ้างในบางครั้ง เพียงแต่ถ้าได้รับฤกษ์การผ่าท้องไปแล้ว คงจะช่วยลดเรื่องแย่ ๆ ลงไปได้อย่างแน่นอน" อาจารย์บุศรินทร์ปิดท้าย
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!