การรับประทานอาหารนั้นแน่นอนว่าย่อมสัมพันธ์กับการทำงานของสมอง อันที่จริงแล้วมีคนถึงกับกล่าวว่า สมองเป็นอวัยวะที่ตะกละตะกลามที่สุดในร่างกายของเราเลยทีเดียว สิ่งที่เรากินจึงส่งผลกระทบไปยังความคิด และพฤติกรรมของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นักวิชาการด้านอาหารของญี่ปุ่นแนะนำว่า ในหนึ่งวันควรแบ่งมื้ออาหารออกเป็น 3 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็น และรักษาความสมดุลในแต่ละมื้อให้ดี เพราะด้วยความเร่งรีบในชีวิตประจำวันของคนสมัยใหม่ทำให้หลายๆ คนงดมื้อเช้า หรือบางคนห่วงสวย ต้องการลดอาหารก็จะงดมื้อเย็นเสีย ทำให้สมองไม่ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ
ขณะที่ช่วงพักกลางวัน บ่อยครั้งที่สาวออฟฟิศจะบอกตัวเองว่างานยุ่ง ไม่ต้องลงไปพักก็แล้วกัน แต่การพักกลางวันนั้นอันที่จริงไม่ได้เป็นการพักรับประทานอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นการพักสมองของคุณด้วย ในหนึ่งชั่วโมงนี้ร่างกายควรได้รับทั้งสารอาหารและออกซิเจนอย่างเพียงพอ (อากาศจากเครื่องปรับอากาศในตึกมีออกซิเจนไม่เพียงพอต่อชีวิตนับหมื่นในตึก) เพื่อให้การทำงานในช่วงบ่ายเป็นไปได้อย่างกระปรี้กระเปร่า ไม่หงุดหงิดง่าย
สำหรับอาหารที่รับประทานนั้นก็ควรงให้ครบห้าหมู่ มีทั้งเนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ โดยเฉพาะท่านที่ย่างเข้าสู่วัยกลางคนก็ควรเลือกรับประทานเนื้อสัตว์จำพวกปลามากกว่าเนื้อหมูหรือวัวที่ย่อยยาก มิฉะนั้นจะทำให้ง่วงในช่วงบ่าย เพราะร่างกายต้องทุ่มเทพลังงานให้กับการย่อยมากเกินไป
วิตามินที่ช่วยบำรุงสมองนั้นได้แก่ วิตามิน B1 B6 และ B12 ช่วยดูแลการทำงานของสมอง นอกจากนี้ B12 ยังช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ วิตามิน A เป็นอาหารสมอง ส่วนวิตามินC และ E ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
โคเอนไซม์ คิว10 ช่วยรักษาสมดุลในการทำงานของสมอง สำหรับอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อสมองเหล่านี้ ได้แก่ เห็ด ถั่ว ข้าวซ้อมมือ ผัก และผลไม้ ส่วนจังค์ฟู้ด หรืออาหารขยะที่ชาวอเมริกันนิยมกันนั้นอาจทำให้สมองของคุณด้อยประสิทธิภาพลงเร็วกว่าที่ควร
ขอเสริมอีกนิดอย่างที่ได้กล่าวกันไปแล้วว่า ออกซิเจนนั้นเป็นหนึ่งในอาหารสมองที่สำคัญ แต่หลายๆ คนมักหายใจอย่างไม่มีประสิทธิภาพ บางท่านอาจจะงงว่าเราก็หายใจกันอยู่ทุกวินาที ไฉนจึงบอกว่าไม่มีประสิทธิภาพ แต่อย่าลืมว่าเราเพียงหายใจตามความเคยชินของตัวเองเท่านั้น ยกตัวอย่างสาวบางคนติดจะแขม่วหน้าท้องไว้เสมอ ก็จะทำให้หายใจไม่ลึก แถมมนุษย์ยุคใหม่ยังมีแนวโน้มจะหายใจถี่ สั้น ตามการดำรงชีวิตที่เร่งรีบ ทำให้ร่างกายไม่ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
เรื่องการฝึกหายใจจึงเริ่มมีคนให้ความสนใจมากขึ้น ทุกเช้าหลังตื่นนอนให้ฝึกหายใจลึกๆ 5-10 ครั้ง ก็นับเป็นการเริ่มต้นวันที่ดี อ้อ! การนั่งสมาธิก็เป็นการฝึกหายใจได้ดีอีกวิธีหนึ่งนะคะ ไม่ว่าใครก็อยากมีสมองที่ดี ทำงานให้กับเราอย่างซื่อสัตย์ ยืนยาวกันทั้งนั้น มาเริ่มเอาใจใส่ ‘สมอง’ ของตัวเองและคนรอบข้างเสียแต่วันนี้เถอะค่ะ



กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday