ปิดไฟ 1 ชม.ประหยัดได้จริงหรือ?


ปิดไฟ 1 ชม.ประหยัดได้จริงหรือ?

พลังงานไฟฟ้าที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ถ้าเพียงช่วยกันแม้คนละนิดคนละหน่อย อย่างแค่ดับไฟคนละดวง

 เลิกใช้อุปกรณ์ หรือลดการใช้ฟ้าฟ้าด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ก็จะส่งผลให้โลกได้พักบ้าง

คงไม่อาจปฏิเสธว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ "อุณหภูมิโลกร้อนขึ้น" เกิดจากการเผาผลาญพลังงานทั่วโลก ที่ผ่านมาหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างรณรงค์ให้ทุกคนหันมาประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะ "ไฟฟ้า" บ่อยครั้งที่เรามักจะเผลอใช้พลังงานแบบ "ลืมตัว" และมักจะคิดเสมอว่า "มีเงินพอจ่าย" โดยไม่ทันฉุกคิดต่อว่า พลังงานเหล่านี้ล้วนใช้แล้วหมดไปทั้งสิ้น และแม้จะสรรหาแหล่งอื่นมาทดแทน แต่ก็เชื่อเถอะย่อมไม่เต็มประสิทธิภาพ 100 เปอร์เซ็นต์เช่นเดิม 

จุดนี้เองทำให้การรณรงค์ลดใช้พลังงานไฟฟ้าเริ่มตื่นตัวมากขึ้น กิจกรรมการปิดไฟ 1 ชั่วโมงทั่วประเทศ เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2013) จึงยังคงเป็นแคมเปญใหญ่ อย่างปีนี้กำหนดให้วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2556 เวลา 20.30 - 21.30 น. เป็นช่วงเวลาที่ทั่วประเทศจะลดการใช้พลังงานไฟฟ้าพร้อมๆ กัน

หลายคนอาจจะระคนปนสงสัยว่า การดับไฟแค่ 1 ชั่วโมง จะส่งผลมากน้อยแค่ไหนในการลดการใช้พลังงาน และจะช่วยทำให้โลกของเราเย็นขึ้นได้จริงหรือ "แดง" ดร.สมศักดิ์ ชลาชล มือกรรไกรชื่อดังบอกเลยว่า สามารถช่วยประหยัดพลังงานของชาติได้แน่นอน อย่างน้อยๆ ก็จะทำให้ทุกคนตระหนักว่า ตอนนี้ใช้ไฟฟ้าเกินความจำเป็นหรือไม่ ที่สำคัญกฎกติกามารยาททางสังคม เมื่อมีขึ้นมาแล้วทุกคนก็ควรจะทำตาม

 "ทุกวันนี้เราเพลิดเพลินกับการใช้พลังงานกันมากจนเคยตัว เราต้องมีวินัยในการใช้บ้าง เพราะหากไม่มีพลังงานต้องกระทบกับเศรษฐกิจแน่นอน สำหรับเราต้องบอกว่าอาจจะสุรุ่ยสุร่ายในการใช้จ่ายเงิน แต่เรื่องในบ้านหรือเวลาไปร้าน จะเป็นคนขี้บ่นมากเรื่องการใช้ไฟ ต้องปิดไฟทุกครั้งที่ไม่ใช้ คนไทยมีนิสัยเหมือนการใช้บัตรเครดิต รูดไปก่อนแล้วค่อยมาคิดทีหลัง ผลที่ตามมาก็เสียหายเกินกว่าจะกู้กลับคืน ดังนั้นการปิดไฟถึงแม้จะเป็นเพียง 1 ชั่วโมง แต่ถ้าเราทำพร้อมๆ กัน แค่ดวงเล็กๆ รวมกันก็กลายเป็นการลดใช้พลังงานอย่างมหาศาล สำหรับคนที่ใช้ไฟมากก็ควรจะปิดไฟมากกว่า 1 ดวง สำหรับคนที่ใช้ไฟน้อยอยู่แล้ว ก็พิจารณาตามความเหมาะสม จริงๆ อยากจะให้มีการรณรงค์แบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วอาจจะเพิ่มขึ้นเป็นทุกๆ 6 เดือน หรือทุก 1 เดือน จะได้กระตุ้นให้คนไทยหันมาใส่ใจด้านพลังงานกันมากขึ้น" ดร.สมศักดิ์ กล่าว

ไม่ต่างกับ "จอย" อวัสดา ปกมนตรี สุดแสวง ที่ยืนยันหนักแน่นว่า การปิดไฟแม้เพียง 1 ชั่วโมงก็สามารถช่วยชาติประหยัดพลังงานได้มาก ยิ่งมีโอกาสได้เรียนกับสถาบันวิทยาการพลังงาน พร้อมทั้งได้ฟังการบรรยายเกี่ยวกับการผลิตพลังงานไฟฟ้า ทำให้รู้ว่าไม่ว่าจะใช้พลังงานอะไรในประเทศ ล้วนแล้วแต่เป็นพลังงานที่ใช้แล้วหมดไปทั้งสิ้น

  "ต้องเข้าใจก่อนว่าพลังงานไฟฟ้าหลักของเรา มาจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป หลายคนมักจะมองว่าทำไมไม่หันมาใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อทดแทนพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป พลังงานทดแทนเหล่านี้ไม่สามารถผลิตพลังงานเพื่อตอบสนองการใช้งานของเราได้ 100 เปอร์เซ็นต์นั่นเอง เลยเป็นเหตุผลที่เราต้องประหยัด เพียง 1 ชั่วโมงก็เป็นการประหยัดทรัพยากรธรรมชาติได้ทางหนึ่ง  ถึงตอนนี้อากาศจะร้อนถ้าให้นอนไม่เปิดแอร์อาจจะทนไม่ไหว แต่เราก็หันมาประหยัดไฟวิธีอื่นแทนได้ เช่น ปิดแอร์ก่อนตื่นหรือก่อนออกไปทำงานสัก 1 ชั่วโมง ความเย็นก็ยังอยู่ เราต้องเห็นคุณค่าของพลังงานให้มากขึ้นประหยัดกันให้เป็นนิจดีที่สุด" สาวรักสิ่งแวดล้อม แนะ

 ถึงจะไม่ทราบข่าวเรื่องนี้มาก่อน แต่สาวสวย "กิ๊ก" มรกต พูลพล ธิดาแรงงาน ประจำปี 2555 ก็เชื่อมั่นเช่นกันว่า การปิดไฟ 1 ชั่วโมงต้องช่วยชาติประหยัดพลังงานได้อย่างแน่นอน พร้อมชักชวนให้คนไทยหันมาร่วมมือกันด้วย เพราะหากเป็นหน้าที่ของใครคนหนึ่งความสำเร็จก็คงจะไม่เกิด ในทางตรงกันข้ามถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจกันประเทศไทยก็จะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ ส่วนตัวเองทุกวันนี้ช่วยประหยัดไฟด้วยการเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส และทุกครั้งก่อนออกจากบ้านจะถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เพื่อเป็นการประหยัดไฟอีกทางหนึ่งด้วย

หันมาฟังมุมมองของผู้บริหารแหล่งช็อปปิ้งกันบ้าง โดย ชำนาญ เมธปรีชากุล รองประธานกรรมการบริหารการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เล่าว่า ในส่วนของค่ายเดอะมอลล์กรุ๊ป ได้ทำการณรงค์ประหยัดพลังงานกันมาอย่างต่อเนื่อง อย่างในส่วนของออฟฟิศในตอนกลางวันจะมีการรณรงค์ให้ปิดไฟ 1 ชั่วโมง รวมทั้งรณรงค์ให้พนักงานปิดคอมพิวเตอร์ช่วงพักเที่ยง โดยจะมีตัวอักษรวิ่งที่เครื่องคอมพ์ ของพนักงานทุกคน ส่วนภายในห้างสรรพสินค้าก็มีการปรับอุณหภูมิให้อยู่ที่ 25 องศาฯ และปิดแอร์ก่อนห้างปิด 1 ชั่วโมง

 "ยิ่งรัฐบาลขอความร่วมมือหรือยิ่งในโครงการรณรงค์ปิดไฟ 1 ชั่วโมงที่จะมีขึ้นในวันนี้ ที่ห้างเราทำได้และทำแล้วคือการเปลี่ยนหลอดไฟในป้ายโฆษณาหรือป้ายไฟต่างๆ ที่มีอยู่ให้มีวัตต์น้อยลง ซึ่งเรื่องราวๆ ต่างๆ เหล่านี้ที่ทำมาเห็นได้ชัดว่าประหยัดค่าไฟลงได้ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเรื่องเหล่านี้เราไม่ได้ทำตามกระแส แต่ทำเพื่อประโยชน์และสิ่งแวดล้อมที่จะอยู่กันเราตลอดไปมากกว่า" ผู้บริหารห้างดัง ให้ความเห็น

ธาตรี ริ้วเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์การ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)  ย้ำว่ากิจกรรมนี้ไม่สูญเปล่าแน่นอน พร้อมกับอธิบายว่า มูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือที่รู้จักกันในนาม "FEED" เป็นเจ้าภาพหลักโดยตรง ซึ่งจุดประสงค์คือการใช้วันดังกล่าวเป็นสัญญาลักษณ์ของการรณรงค์และสร้างความตระหนักในเรื่องการประหยัดการใช้ไฟฟ้าจากคนทั้งโลก พลังงานไฟฟ้าที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้  ถ้าเพียงช่วยกันแม้คนละนิดคนละหน่อย แค่ดับไฟคนละดวง เลิกใช้อุปกรณ์ หรือลดการใช้ฟ้าฟ้าด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งก็จะส่งผลให้โลกได้พักบ้าง

"การผลิตไฟฟ้าแต่ละครั้งต้องใช้ทรัพยากรจากโลกทั้งสิ้น ดังนั้นอะไรประหยัดได้ก็ควรประหยัด เพื่อให้ทรัพยากรอยู่ได้นานขึ้น ก่อให้เกิดประโยชน์ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ผู้คนไม่เพลิดเพลินกับการใช้ไฟฟ้าจนลืมนึกถึงที่มาของการได้มาซึ่งพลังงานไฟฟ้า อย่าง วันที่  23 มีนาคมของทุกๆ ปี แต่ละประเทศจะมีข้อมูลว่าใครลดลงได้แค่ไหน สมมุติว่าใน 1 ปีปิดไฟฟ้า 1 ดวงแค่ชั่วโมงเดียวยังลดได้ x หน่วย แต่ถ้าทำได้ทุกวันจะช่วยลดได้เท่าไหร่ แล้วถ้าไม่ใช่แค่ดวงเดียวล่ะ ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องสูญเปล่าและเกิดประโยชน์แน่นอน และที่น่าสนใจคือกิจกรรมในปีนี้ยังมีคอนเซ็ปต์ในเชิงท้าท้าย...I will if You will...เพื่อให้เกิดแรงจูงใจหรือ การแข่งขันกันว่าใครจะมีวิธีการประหยัดไฟฟ้าได้มากกว่ากันด้วย" ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์การ กฟฝ. ให้ความมั่นใจ 

อย่างไรก็ตาม การปิดไฟ 1 ชั่วโมง มีเมืองที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 5,216 เมืองใน 147 ประเทศทั่วโลก ร่วมรณรงค์ปิดไฟ ตั้งแต่เวลา 20.30-21.30 น. ซึ่งข้อมูลจากปี 2555 กิจกรรมดังกล่าวในพื้นที่กรุงเทพฯ  สามารถประหยัดไฟฟ้าได้ 1,528 เมกะวัตต์ ลดค่าใช้จ่ายในการผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 4,374,475 บาท และลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 815 ตัน

  ...รู้อย่างนี้แล้ว คุณจะไม่ช่วยปิดไฟลดพลังงานกันหรือ...


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์