คนส่วนใหญ่มักคิดกันว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนเรารวยหรือไม่รวยมีอยู่แค่ 3 สิ่ง คือเงินทุน ความรู้ และโอกาส แต่จริงๆ แล้วยังมีสิ่งสำคัญยิ่งกว่า นั่นก็คือ “นิสัยและรูปแบบการใช้ชีวิต” ของคนๆ นั้น ในแวดวงการเงินพบว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไม่รวย ไม่มั่งคั่งล้วนเกิดจากพฤติกรรมหรือค่านิยมการใช้ชีวิตแบบผิดๆ ซึ่งจำเป็นต้องละ เลิก และปรับเปลี่ยนให้ได้เสียก่อน และนิสัยไม่ดีเหล่านี้มีอยู่ด้วยกัน 11 เรื่อง ดังนี้
1.กลัวและไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง คนส่วนใหญ่มักคิดว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ดีอยู่แล้ว จึงชอบที่จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ และไม่ขวนขวายที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในชีวิต
2.ไม่ขยัน แถมขี้เกียจอีกต่างหาก ชอบใช้เวลาอย่างไม่มีคุณค่า โดยลืมนึกไปว่าเวลาในชีวิตคนเรามีจำกัดมาก เวลาทำงานก็อยากมีเวลาว่าง แต่ไม่เคยคิดที่จะใช้เวลาว่างนั้นให้เกิดประโยชน์กับชีวิตของตัวเองเลย
3.หน้าใหญ่และฟุ้งเฟ้อ ชอบเอาเวลาไปท่องเที่ยว สันทนาการและใช้จ่ายเกินตัวแบบคนรวย จริงๆ แล้วถ้าจะทำแบบนี้ก็ไม่น่าเกียจถ้ามีเงินเหลือเฟือและทำนานๆ ครั้ง แต่ปัญหาก็คือคนที่ทำบ่อยๆ กลับไม่ใช่คนรวยซะอย่างนั้น
4.ชอบซื้อของแพงตามแฟชั่น เช่น ซื้อรถยนต์ มือถือ แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊คอย่างไม่ฉลาด เช่น เลือกสเปคเวอร์ๆ เพียงเพื่ออวดหรือเกทับกัน ทั้งๆ ที่สินทรัพย์เหล่านี้ขาดทุนทันทีตั้งแต่ซื้อ และยิ่งถือนานก็จะล้าสมัยและเสื่อมค่าลง ถ้าลองเปลี่ยนค่านิยมใช้รถหรูมาเป็นรถอีโคคาร์แทน ขณะที่มือถือ แท็บเล็ตและโน้ตบุ๊ค เลือกใช้ในสเปคที่เหมาะกับการใช้งานและยี่ห้อรองลงมา เพียงเท่านี้ก็จะทำให้มีเงินเก็บเพิ่มขึ้นเป็นหลักแสนหลักล้านได้
5.นิยมเช่าบ้านแทนที่จะซื้อ ถ้าเลิกเช่าและหันมาซื้อบ้านแทนยิ่งทำเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดค่าเช่าได้แล้ว ยังสามารถนำมาให้คนเช่าต่อซึ่งสร้างรายได้ได้ด้วย ดอกเบี้ยผ่อนซื้อ สามารถใช้เป็นค่าลดหย่อนภาษีปีละ 100,000 บาท ที่สำคัญที่สุดคือบ้านถือครองนานๆ ยังเพิ่มค่าได้ แถมยังเป็นการออมภาคบังคับชั้นดีที่ทำให้คนเราเงินเก็บได้ด้วย
6.มีลูกเยอะ หลายคนฟังแล้วอาจไม่เชื่อว่าการมีลูกเพียงแค่ 1 คนสามารถทำให้คนจนลงได้นานถึง 20 ปี ดังนั้นหากยังไม่พร้อมจริงๆ ก็ไม่ควรคิดมีลูก และควรมีลูกแต่เพียงพอดีเท่านั้น ยกเว้นฐานะมั่นคงหรือมีเงินเหลือจริงๆ
7.ชอบกู้ยืมเงินมาใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ หนุ่มสาวสมัยนี้มีค่านิยมผิดๆ คือชอบกู้ยืมเงินเพื่อจับจ่ายหรือซื้อของฟุ่มเฟือย บางคนกู้มาท่องเที่ยว ทำให้มีรายจ่ายเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น และบั่นทอนโอกาสกู้ยืมลงด้วย
8.ไม่ฉลาดในการจ่ายเงินซื้อของ ชอบซื้อของราคาเต็ม และหน้าบางไม่ชอบต่อรอง ถ้าลองเปลี่ยนมาซื้อของในห้างราคาถูก ตลาดหรือข้างถนนแทน เช่น ซื้อของตลาดนัดชิ้นละ 25 บาท หากต่อรองได้ 20 บาท เท่ากับลดค่าใช้จ่ายลงได้ถึง 20% ถ้ารวมกันเยอะๆ ทั้งเดือนก็จะลดค่าใช้จ่ายลงได้อย่างเห็นน้ำเห็นเนื้อทีเดียว
9.ชอบถือครองทรัพย์สินที่ไม่เป็นประโยชน์ ส่วนใหญ่เป็นของสะสมฟุ่มเฟือยราคาแพง ที่ใช้ประโยชน์ได้เพียงแค่ชื่นชมส่วนตัว สนองตอบความชอบของตัวเองเป็นสำคัญ เช่น กระเป๋า น้ำหอม และรองเท้าแบรนด์เนมราคาแพง ฯลฯ ขอให้ระลึกไว้เสมอว่าสิ่งเหล่านี้เหมาะสมที่จะทำต่อเมื่อรวยแล้วเท่านั้น
10.ไม่เคยคิดที่จะเก็บออม และแสวงหาความรู้เพิ่มเติมในหัวสมองเลย ขอให้ระลึกไว้เสมอว่าถ้าไม่มีเงินออม ไม่มีความรู้ ก็จะไม่มีการลงทุนเกิดขึ้น นั่นเท่ากับเป็นการปิดโอกาสความรวยไปโดยปริยาย ทั้งนี้คนส่วนใหญ่เมื่อหาเงินมาได้สิ่งแรกที่ชอบคิดกันก็คือจะใช้เงินก้อนนั้นอย่างไร จริงๆ แล้วสิ่งที่ควรคิดก่อนคือการออมต่างหาก
11.ชอบให้คนกู้ยืมเงิน ส่วนใหญ่มักเป็นผลมาจากการชอบคุยโวโอ้อวดว่าตัวเองมีเงิน ขอให้ตระหนักอยู่เสมอว่าเงินทองเป็นของหายาก ต้องใช้อย่างมีประสิทธิภาพและระมัดระวัง ทั้งนี้ตัวเองก็มีความจำเป็นต้องใช้เงินมาช่วยสร้างความมั่นคง มั่งคั่งให้กับตัวเองอยู่แล้ว จึงเป็นการไม่ฉลาดเลยที่จะให้คนกู้ยืมง่ายๆ โดยไม่มีหลักประกันใดๆ