ทุกข์ของสาวอกโต กลัวแฟนขาดใจตายคาอก!!!

ส่วนวันนี้ ทุกครั้งที่จะมีเซ็กซ์กับ คริส วิลกูส อดีตสามีที่หวนกลับมาคืนดีกันใหม่ เธอก็ "กลัว" ว่าจะฆ่าเขาตายโดยไม่ตั้งใจเข้าสักวัน!!!

"มาร์กกลัวมากจนไม่กล้ามี เซ็กซ์กับฉัน และฉันก็ไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีก" แคลร์เล่าถึงอดีตแฟนเก่าที่ต้องเลิกรากันไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เพราะ "หน้าอก" ของเธอเป็นต้นเหตุเพียงอย่างเดียวเท่านั้นจริงๆ

ส่วนกับคริ สอดีตสามี และพ่อของลูกๆ ทั้งสาม ที่ "รีเทิร์น" กลับมาอยู่ด้วยกันใหม่ แคลร์เล่าว่า เธอเองกลับเป็นฝ่ายผวา และกลัวมากว่าจะทำให้คริสขาดใจตายคาอก เพราะถูกหน้าอกของเธอทับจนหายใจไม่ออกไม่วันใดก็วันหนึ่ง!!!

"คริ สชอบมาหอม มาเล่นหน้าอกฉัน แต่ฉันมักจะเกร็ง และรู้สึกกลัวขึ้นมาทุกครั้ง เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับมาร์ก มีครั้งหนึ่งคริสต้องตบขาฉัน ให้ฉันรู้ตัว เพื่อให้ฉันลุกขึ้นจากตัวเขา หลังจากเขาเริ่มหายใจไม่ออก ฉันดีใจที่คริสชอบทรวงอกของฉัน แต่ฉันก็กลัวทุกครั้ง จนไม่กล้ามีเซ็กซ์กับเขา"

แคลร์เล่าว่า เธอเริ่มสังเกตว่าหน้าอกเธอมีขนาดใหญ่กว่าเพื่อนๆ ตอนอายุ 11 ขวบ และเริ่มใส่เสื้อชั้นในตัวแรกด้วยไซซ์ ซี (C) เธอเคยนอนคว่ำ เพื่อ "นอนทับ" หน้าอก ไม่ให้โตขึ้น ด้วยความคิดตามประสาเด็กๆ เคยไปหาหมอมาแล้ว แต่หมอก็บอกไม่ได้ และไม่พบด้วยว่าร่างกายเธอมีสิ่งใดผิดปกติ แต่เธอคิดเองว่าอาจเป็นเพราะร่างกายเธอมี ฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงเกินไป

"ฉัน เคยอ่านจากอินเตอร์เน็ตว่าระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูงทำให้หน้าอกเจริญเติบ โต ฉันเลยเดาว่ากรณีของฉันน่าจะเป็นเพราะฮอร์โมนเอสโตรเจน"

"ฉันเคยไปหาหมอ แต่หมอก็ไม่พบว่ามีสิ่งใดผิดปกติ ตอนนี้ ฉันกลัวเหลือเกินว่าหน้าอกฉันมันจะโตขึ้นอีกเรื่อยๆ"

แคลร์ เล่าด้วยว่า เธอเคยคิดจะไปผ่าตัดทำศัลยกรรมหน้าอกให้เล็กลง แต่ก็กลัวการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม เธอก็ว่า เธอยังคิดถึงเรื่องผ่าตัดอยู่ โดยระหว่างนี้ หมอแนะนำให้เธอลดน้ำหนักก่อนจะเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมให้หน้าอกเล็กลง

เธอ ยังเล่าว่า ทุกวันนี้เธอยังมีปัญหาเรื่องซื้อเสื้อชั้นใน เพราะตามห้าง หรือร้านค้าส่วนใหญ่ ไม่มีเสื้อชั้นในไซซ์ของเธอ ทำให้เธอต้องสั่งตัด และต้องเสียเงินค่าตัดถึงตัวละ 200 ปอนด์ หรือราว 9,000 บาท

อย่างไรก็ตาม หน้าอกที่ใหญ่บิ๊กบึ้มคู่นี้ ก็ทำให้แคลร์มีอาชีพเป็นนางแบบ เคยเปลือยอก ถ่ายแบบให้กับเว็บไซต์หลายเว็บมาแล้ว

"ฉันมีแฟนคลับเยอะอยู่ในเยอรมนี ก็ยังนับว่าดีที่ฉันยังทำเงินจากอาชีพนี้ได้"

(ที่มา:มติชนรายวัน 15 เมษายน 2556)