ด้านผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ส่วนประวัติศาสตร์ธรรมชาติกล่าวว่าหัวแรดสตาฟทั้ง 4 หัวนั้น มี 3 หัวที่มาจากเคนยา
และอีกหนึ่งหัวเป็นหัวของแรดซึ่งสูญพันธ์ไปแล้วซึ่งพบในซูดาน และแรดทั้ง 4 ตัวนี้ได้ถูกฆ่าตายมาหลายร้อยปีแล้ว โดยเมื่อปีที่แล้วทางพิพิธภัณฑ์ได้ถอดหัวแรดทั้ง 4 ออกจากส่วนจัดแสดงและนำมาเก็บรักษาในห้องเก็บของที่มียามเฝ้าระวังความปลอดภัยให้ไกลจากเงื้อมมือขโมย
ทั้งนี้หากนอแรดทั้ง 8 นอ ถูกขายในตลาดมืดเพื่อสกัดเอาผงจากนอแรด หากประมาณจากน้ำหนักจะสามารถขายได้เป็นเงินกว่า 15 ล้านบาท
โดย 3 ใน 5 สายพันธุ์แรดในแอฟริกาและเอเชียใต้ ได้ถูกล่าเพื่อเอานอแรดจนเกือบใกล้สูญพันธุ์แล้ว เพราะนอแรดมีราคาแลกเปลี่ยนที่ค่อนข้างสูงเนื่องจากเป็นยาสำคัญในการแพทย์ดั้งเดิมของเอเชีย โดยเฉพาะในจีนและเวียดนาม ซึ่งเชื่อกันว่าผงที่สกัดจากนอแรกนั้นมีคุณสมบัติเป็นยาโด็ป และสามารถรักษาโรคมะเร็งให้หายขาดได้
แต่ในทางวิทยาศาสตร์แล้ว นอแรดนั้นประกอบด้วยโปรตีนเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีความสำคัญต่อผิวหนังและเส้นผม และยังไม่มีการระบุถึงคุณสมบัติทางการแพทย์แต่อย่างใด