ในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา ผู้เขียนได้ฟังเพลงในระหว่างการเดินทาง แต่แล้วก็สะดุดกับเพลงหนึ่งที่ชื่อเพลง “เพียงครึ่งใจ” ของ The Innocent ที่เริ่มต้นว่า “....อยากเปิดใจเธอจะเจอใจใครซ่อนในรักอยู่ หัวใจหดหู่รักเคยชื่นชูกลับห่าง ใยเธอทำใจฝืนรักเคยชื่นเพียงคืนจืดจาง รักเลือนรางเธอวางท่า กลับเมินเฉยเลยเปลี่ยนแปลง....”
ทำให้นึกถึงหนังสือที่ผู้เขียนได้เคยอ่าน แล้วคิดเป็นโจทก์อุทาหรณ์ขึ้นมาว่า บทเพลงนี้ฟังดูแล้ว หากเป็นเพียงคู่รักกันธรรมดาย่อมเป็นการส่งสัญญาณแล้วว่าความรักอาจจะถึงทางตัน แต่หากมองในมุมของคู่สามี-ภรรยาที่จดทะเบียนสมรส ไม่ว่าฝ่ายสามีหรือภรรยา หากจับได้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งมีใครซ่อนอยู่ในใจหรือนอกใจ และถึงขนาดเป็นการเลี้ยงดูในฐานะสามีหรือภรรยา ย่อมเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
ทั้งนี้เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้กำหนดเกี่ยวกับเหตุฟ้องหย่าระหว่างสามีภรรยาไว้ว่า “เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้ ได้แก่ สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้” ซึ่งนอกจากจะฟ้องหย่าและศาลมีคำพิพากษาให้หย่าแล้ว มีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากทั้งคู่สมรสที่ได้อุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี และจากฝ่ายที่แสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามีหรือภรรยาของตนได้อีกด้วย (คำพิพากษาฎีกาที่ 4014/2530) แม้หากไม่มีการหย่าก็สามารถเรียกค่าทดแทน จากฝ่ายที่แสดงตน โดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามีหรือภรรยาของตนได้ (คำพิพากษาฎีกาที่ 6516/๒๕๕๒) โดยระยะเวลาเหตุที่ฟ้องหย่าจึงยังคงมีอยู่ตลอดมา โดยไม่สำคัญว่าฝ่ายสามีหรือภรรยาที่มิได้นอกใจนั้นจะรู้ข้อเท็จจริงการนอกใจดังกล่าวก่อนฟ้องเกิน 1 ปีหรือไม่ สิทธิฟ้องร้องย่อมไม่ระงับไปหาอีกฝ่ายยังคงอุปการะเลี้ยงดูและยกย่องผู้อื่นเยี่ยงสามีหรือภรรยา (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4678/2552)
ดังนั้นหากปล่อยให้รักและความผูกพันระหว่างสามีภรรยาจืดจางลงเมื่อไร สิ่งที่หลงเหลือไว้กับสำหรับรักเพียงครึ่งใจของระหว่างสามีภรรยาในตอนสุดท้ายนั้นอาจเป็นเพียงใบหย่า.............และรอยรักเก่าเท่านั้น
นางสาวศศิวิมล ถาวรพงศ์สถิตย์
สำนักกฎหมาย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
https://www.facebook.com/สำนักกฎหมาย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง