ดูความต่าง 9 ลักษณะคน แก้ปมความขัดแย้ง ใครเป็นแบบไหนจากศาสตร์อิสลาม


ในภาวะที่บ้านเมืองเราเกิดความแตกแยก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะหลายๆ สาเหตุ แต่หนึ่งในนั้นแน่นอนว่าเป็นเพราะเราทั้งหลายไม่เข้าใจซึ่งกันและกันมากพอ

ดังนั้น เมื่อมีปัญหาไม่เข้าใจกับคนอื่นๆ ส่วนหนึ่งก็ต้องกลับมาดูที่ปัญหาว่า ทำไมคนอื่นไม่เข้าใจเรา แล้วเราเข้าใจตัวเองดีขนาดไหน 

อาจจะฟังดูเป็นความซับซ้อนหรือเป็นปรัชญา แต่จริงๆแล้วนี่คือเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง และศาสตร์ "นพลักษณ์ (Enneagram)" คือคำตอบ ที่จะทำให้รู้จักตนเอง และผู้อื่นมากขึ้น

"นพลักษณ์" เป็นองค์ความรู้โบราณ เกิดขึ้นมานานนับสหัสวรรษ โดยอาจารย์ "กลุ่มซูฟี" ซึ่งเป็นนักภาวนาในศาสนาอิสลามได้ศึกษาบุคลิกภาพ พฤติกรรมของมนุษย์ และพัฒนาเป็นศาสตร์ที่มีการถ่ายทอด ในวงเฉพาะครู อาจารย์ (ทางจิตวิญญาณ) กับลูกศิษย์เท่านั้น อาจารย์จะแนะนำให้ลูกศิษย์ซึ่งมีบุคลิกลักษณะ พื้นฐานนิสัยใจคอที่แตกต่างกันไป ให้แต่ละคนได้รู้จักตนเองทั้งด้านบวกและด้านลบ เพื่อเป็นพื้นฐานนำไปสู่การยกระดับจิตวิญญาณของตน

ว่ากันง่ายๆ นพลักษณ์คือศาสตร์แห่งการรู้จักตัวเองซึ่งเป็นโจทย์ของแต่ละคนที่มักจะมีอิทธิพลต่อชีวิตเราอยู่เสมอ ซึ่งมีการแบ่งประเภทแห่งบุคลิกภาพพื้นฐาน ทั้งอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดและการกระทำ โดยจัดแบ่งออกเป็น 9 ลักษณะบุคลิกภาพ ดังนี้

คนลักษณ์ 1 คนสมบูรณ์แบบ หรือคนเนี้ยบ (The Perfectionist) วิพากษ์ทั้งตนเองและผู้อื่นเสมอ คิดในใจเสมอว่าอะไร "ควร" และ "ไม่ควร" จริงจังกับความรับผิดชอบ ปรารถนาจะให้สิ่งที่ทำปราศจากข้อบกพร่อง ยากที่ปล่อยให้ตนรู้เพลิดเพลินเพียงเพื่อมีความสุขเพราะจะกำกับพฤติกรรมของตนเองด้วยมาตราฐานที่สูง และมักรู้สึกว่าต้องทำอะไรๆ มากกว่านี้อีก เป็นนักจัดการชั้นยอด ซึ่งสามารถชี้จุดบกพร่องได้ทันที และบอกได้ว่าต้องแก้ไข อะไร อย่างไร จึงจะถูกต้องและจะเป็นเดือดเป็นแค้นถ้าใครไม่เดินตามกฎ โดยเฉพาะหากหลีกเลี่ยงซึ่งๆ หน้า 

คนลักษณ์ 2 ผู้ให้ (The Giver) ฝังใจว่าต้องให้ผู้อื่นอย่างเต็มที่เสียก่อนก่อนที่จะได้รับความรักจึงใส่ใจ ช่วยเหลืออุ้มชูและมุ่งสร้างความสัมพันธ์กับครนพิเศษแต่อดไม่ได้ที่จะถือตัว เรียกร้องและจุ้นจ้านจนบางครั้งเป็นหัวเรือใหญ่จอมบงการเขา "ให้" เพื่อจะ "ได้" แต่บางครั้งก็ทำด้วยความเอาใจใส่และเกื้อหนุนอย่างจริงใจ ด้วยมีธรรมชาติที่เห็นใจเข้าใจผู้อื่น สามารถให้ในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจริงๆ เพื่อความสำเร็จและความผาสุก

คนลักษณ์ 3 นักแสดง (The Performer) เป็นพวกบ้างานที่มีพลังเปี่ยมล้น เขาต่อสู้สุดชีวิตเพื่อความสำเร็จ เพื่อให้ได้มาซึ่งสถานภาพและการยอมรับ มีนิสัยแข่งขันสูง แต่เป็นเพราะรักการท้าทายความสามารถของตนมากกว่าจะคิดเอาชนะผู้อื่น มุ่งสัมฤทธิผลในทุกสถานะ เช่น เป็นบิดามารดาที่ประสบความสำเร็จ เป็นคู่ครองที่เชิดหน้าชูตา นักธุรกิจทะลุเป้า แม้ไม่อาจสัมผัสความรู้สึกที่แท้จริงของตนเพราะกลัวว่าจะขัดขวางความสำเร็จ แต่ถ้าจำเป็นก็สามารถแสดงอารมณ์ได้อย่างเหมาะสมดีเยี่ยม จดจ่อมุ่งมั่นสู่เป้าหมายจนตลอดลอดฝั่ง สามารถเป็นผู้นำที่วิเศษ ปลุกพลังพรรคพวกให้เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้

คนลักษณ์ 4 คนโศกซึ้ง (The Romantic) มีอารมณ์ศิลปิน หมกหมุ่นในอารมณ์ แสวงหาคู่อุดมคติหรืองานอันเป็นแก่นแท้ ความหมายแห่งชีวิต มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความรู้สึกว่าบางสิ่งที่จำเป็นในชีวิตขาดหายไป รู้สึกว่าตนเองจะสมบูรณ์พร้อมถ้าค้นพบคู่ที่แท้จริง ทำให้มีแนวโน้มที่จะยึดถือสิ่งที่ห่างไกลเป็นอุดมคติและตำหนิสิ่งที่มีอยู่เป็นของธรรมดาๆ สุดขั้วตกขอบไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นด้านไหนของชีวิต แม้ว่าตนเองจะตกหลุมอารมณ์ปางตายเพียงใด แต่เขาก็สามารถเข้าใจและเกื้อหนุนผู้อื่นที่กำลังระทมทุกข์ทางอารมณ์ได้อย่างดีเยี่ยม

คนลักษณ์ 5 นักสังเกตการณ์ (The Observer) หลบเลี่ยงภาวะที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ทุกชนิด ดำเนินชีวิตโดยวางตัวอยู่ห่างๆ เฝ้าจับตาสังเกตการณ์ มากกว่านำตนเองเข้าไปข้องแวะ ปกป้องตนจากโลกที่เอาแต่เรียกร้องและให้เพียงเศษเสี้ยว จึงหาเท่าที่ใช้ อยู่อย่างพอเพียง ไม่เรียกร้อง คิดวิเคราะห์ ชอบความเป็นส่วนตัวมาก แบ่งแยกชีวิตออกเป็นส่วนๆ ถึงจะไม่ชอบตารางระเบียบที่ตายตัว แต่ก็ชอบรู้เรื่องล่วงหน้าว่าใครคาดหวังอะไรจากเขา ทั้งเรื่องงานและการพักผ่อนเขาสามารถเป็นผู้ตัดสินใจและนักคิดสร้างสรรค์ได้อย่างวิเศษ

คนลักษณ์6นักปุจฉาผู้ภักดี (The Royal Skeptic) มองโลกว่าโลกคุกคามจึงต้องกราดหาแหล่งต้นตอแห่งการคุมคาม และจินตนาการไปถึงผลร้ายสุดสุด เพื่อจะได้ป้องกันได้ทันท่วงที คอยระวังและหาความมั่งคงจากโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายไว้ใจได้เพียงตนเองเท่านั้น ซักไซ้ไล่เลียงไม่ว่าเพื่อนสนิทหรือใครที่สงสัย กังวล จับผิด บางคนชอบเก็บตัว และปกป้องตนเองจากภาวะคุกคามต่างๆ แต่บางส่วนก็ปกป้องตนเองโดยพุ่งพรวดออกไปเผชิญเสียเลย เลยกลายเป็นเรื่องก้าวร้าวไปโดยไม่เจตนา แต่ถ้าทำให้เขาไว้ใจได้เมื่อใดเขาจะเป็นมิตรที่ซื่อสัตย์และผูกพันกับกลุ่มที่เชื่อได้เลยว่าร่วมเป็นร่วมตาย

คนลักษณ์7 ผู้เสพสุดยอด (The Epicure) เป็นคนมองโลกได้แง่ดี กระฉับกระเฉง มีเสน่ห์และหลบหลีกเก่ง เกลียดชังการถูกบังคับ เที่ยวหาแต่เรื่องเบิกบานแต่โอกาส มีความสุขและตื่นตาตื่นใจ และหลีกหนีความเจ็บปวดไม่ผูกพัน ตอบสนองแต่ตนเอง เป็นพวกมุ่งอนาคต และมีแผนในใจ ซึ่งรวมทุกๆ อย่างที่เขาต้องการและมักปรับแผนให้ทันปัจจุบันเมื่อมีทางเลือกใหม่ๆ ผ่านเข้ามา จะชื่นบานอยู่กับประสบการณ์ใหม่ๆ คนใหม่ๆ ความคิดใหม่ๆ และสามารถเป็นนักสร้างเครือข่าย

คนลักษณ์ 8 ผู้ปกป้อง (The Protector) เปี่ยมด้วยความเข้มแข็งมีพลังเพื่อเผชิญหน้ากับความยุ่งยากในโลก เป็นธรรมและตรงๆ เน้นการกระทำและความชัดเจนแต่มักกระทบกระทั่ง รุนแรงเกินไปและไม่ทันได้คิด ไม่ปล่อยให้ตนเองถูกควบคุมแต่อาจครอบงำผู้อื่น และสามารถใช้พลังอำนาจของตน เพื่อสนันสนุนสิ่งที่เห็นว่ามีคุณค่าอย่างจงรักภักดีและไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

คนลักษณ์ 9 ผู้ประสานไมตรี (The Mediator) มีคุณค่าอยู่ที่การกลมกลืนเข้ากับทุกๆ คนประสานใครต่อใครเข้าด้วยกันจนหลงลืมตนเอง ชอบสบายๆ และไปเรื่อยๆ แต่หนีความขัดแย้งไม่ตัดสินและดื้อเงียบ ในภาวะกดดันอาจจะดื้อดึงดันทุรังแถมโกรธเกรี้ยวขึ้นมาได้ และชอบผัดผ่อนสิ่งที่จำเป็นต้องทำ (ของตนเอง) จนถึงนาทีสุดท้าย


วิเชียร ตั้งอุทัยศักด์ นายกสมาคมนพลักษณ์ไทย ได้เล่าให้ฟังถึงประโยชน์ของการเรียนรู้นพลักษณ์ว่า ประโยชน์เบื้องต้นอย่างน้อยที่สุดสามประการ คือ นพลักษณ์ไม่ได้บอกให้เรารู้จักตนเองอย่างเดียว ยังแนะนำว่ายังมีคนที่แตกต่างจากเรา น้อยที่สุดมีเก้าลักษณะที่จะเป็นตัวอย่างให้มาพิจารณาดูว่าทั้งเก้าลักษณะนั้นมันมีความแตกต่างกันอย่างไร มีเนื้อหาภายใน หรือคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างไร ทำให้เข้าใจคนอื่นมากขึ้นและเรียนรู้วิธีที่จะอยู่ร่วมกับคนที่มีลักษณะนิสัยต่างจากเราได้อย่างมีความสุข 

"ประการที่สองคือ การค้นพบรู้จักตัวเราเองมากขึ้นจะทำให้เรามีพลังและรู้ว่าควรดำเนินชีวิตอย่างไร และประการสุดท้ายคือ นอกจากเรื่องของกาอยู่ร่วมกับคนอื่นได้เพราะเห็นความแตกต่างระหว่างคนเก้าแบบแล้ว จะทำให้รู้สึกว่ามีพื้นที่ให้แก่กันได้มากขึ้นเมื่อเข้าใจความแตกต่างและส่งผลให้มีพลังที่อยู่กับตัวเองได้และมีพลังที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่นรับฟังผู้อื่นได้มากขึ้น"วิเชียรกล่าว

นายกสมาคมนพลักษณ์ไทยกล่าวทิ้งท้ายว่า นพลักษณ์สามารถนำไปใช้เพื่อลดความรุนแรงของสถานการณ์ความขัดแย้งในสังคมไทยปัจจุบันได้ เพราะว่าความขัดแย้งในสังคมไทย ส่วนหนึ่งเพราะความแตกต่างทางด้านความคิดในสังคม เช่น เราคิดต่อสังคมว่าควรเป็นในรูปแบบนั้น คิดว่าการปกครองควรเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นความคิดที่เหมือนกับไปจับยึดเอาวิธีคิดใดวิธีหนึ่ง แต่เบื้องหลังของคนที่คิดวิธีการเหล่านั้น ถ้าสามารถรู้จักตนเอง รู้จักคนอื่นว่าทำไมถึงคิดอย่างนั้น จะช่วยผ่อนเป็นเบาได้

นี่คือศาสตร์นพลักษณ์ เพื่อความเข้าใจตนเองและผู้อื่นที่อาจช่วยให้เข้าใจตนเอง เข้าใจคนอื่น และแก้ปัญหาความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ในสังคมไทย

ดูความต่าง 9 ลักษณะคน แก้ปมความขัดแย้ง ใครเป็นแบบไหนจากศาสตร์อิสลาม

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์