งานการศึกษาจากวารสาร Epilepsia ชี้ให้เห็นว่าประวัติของครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นโรคลมบ้าหมูชัดเจน สามารถเพิ่มโอกาสของการปวดศีรษะข้างเดียวหรือการเป็นไมเกรนอย่างรุนแรง บรรดานักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย นครนิวยอร์ก (Columbia University, New York) ได้ทำการวิเคราะห์ครอบครัว 500 ครอบครัวที่มีญาติสนิทสองคนหรือมากกว่านั้นที่มีโรคลมบ้าหมู
ผลการศึกษา อาจหมายความว่าการดำรงอยู่ของลักษณะถ่ายทอดทางพันธุกรรมเป็นสาเหตุของทั้งอาการไมเกรนและลมบ้าหมู
การศึกษาที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นว่า ผู้คนที่เป็นลมบ้าหมู มีความเป็นไปได้มากกว่ากลุ่มคนทั่วไป ที่จะมีอาการปวดศีรษะเพียงข้างเดียวหรือไมเกรน แต่ยังไม่ชัดเจนว่ามีสาเหตุมาจากลักษณะทางพันธุกรรมร่วมกัน
นักวิจัยคณะนี้พบว่าผู้คนที่มีญาติสนิทจำนวนสามคนหรือมากกว่านั้นที่มีอาการชัก มีความเป็นไปได้มากกว่าสองเท่าที่จะประสบกับอาการไมเกรนแบบมีอาการนำ (Migraine with aura) มากกว่าผู้ป่วย จากครอบครัวที่มีสมาชิกจำนวนน้อยกว่าที่มีอาการชัก
ไมเกรนแบบมีอาการนำ คือ อาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ซึ่งจะนำหน้าด้วยอาการเช่น มองเห็นแสงไฟกระพริบ สูญเสียการมองเห็นชั่วคราว มีปัญหาในเรื่องการพูด หรืออาการชาที่หน้า
ดร. เมโลดี วินาเวอร์ (Melodie Winawer) ผู้นำการศึกษาครั้งนี้ จากศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University Medical Centre) กล่าวว่า ผลการศึกษามีนัยหลายๆ อย่างสำหรับผู้ป่วยโรคลมบ้าหมู
“การศึกษาของเราแสดงให้เห็นว่า มีพื้นฐานทางพันธุกรรมที่น่าเชื่อถือ สำหรับไมเกรนและลมบ้าหมู เพราะว่าอัตราการเป็นไมเกรนเพิ่มขึ้นในผู้คนที่มีญาติสนิทที่เป็นโรคลมบ้าหมู” และกล่าวอีกว่า การศึกษาเพิ่มเติมมากขึ้นของอาการผิดปกติต่าง ๆ บวกกับโรคลมบ้าหมูสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ที่เป็นโรคลมบ้าหมูได้
การศึกษาครั้งนี้ ทางคณะผู้วิจัยได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจาก โครงการ Epilepsy Phenome/Genome Project ซึ่งเป็นการศึกษาผู้ป่วยโรคลมบ้าหมูและครอบครัวของพวกเขาจากศูนย์การแพทย์ 27 แห่งในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
“การมีความเข้าใจที่ดีขึ้น ในเรื่องความเชื่อมโยงทางลักษณะพันธุกรรมระหว่างโรคลมบ้าหมู และความเจ็บป่วยอื่น ๆ เป็นเรื่องที่ดี มันหมายถึงว่าหลาย ๆ ขั้นตอน สามารถนำไปใช้เพื่อปรับปรุงการวินิจฉัยและการรักษา เพื่อคนที่ป่วยเป็นโรคลมบ้าหมู และความเจ็บป่วยร่วมอื่น ๆ โดยการเข้าใจการทำงานทำงานของพันธุกรรมว่าทำงานอย่างไร การรักษาที่ตรงเป้ามากขึ้น สามารถได้รับการพัฒนาได้ในอนาคต”
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
