ถ้าเทียบกันแล้ว ผู้หญิงจะให้ความสำคัญและสนใจสุขภาพในช่องปากมากกว่าผู้ชาย โดยจะไปรับการตรวจฟันทุก 6 เดือนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดกับฟันและเหงือก ขณะที่ผู้ชายมักไปหาหมอฟันเมื่อมีอาการปวดฟันแล้ว ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วพวกเขามีโอกาสที่จะมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟันมากกว่าผู้หญิง
มีสถิติที่น่าสนใจสำหรับพฤติกรรมในการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากของผู้ชายอเมริกันมาเล่าให้ฟังว่า ผู้ชายจะแปรงฟัน 1.9 ครั้งต่อวัน และสูญเสียฟัน 5.4 ซี่ก่อนอายุ 72 ปี แต่ถ้าสูบบุหรี่จะสูญเสียฟัน 12 ซี่ก่อนอายุ 72 ปี และผู้ชายมีโอกาสเป็นมะเร็งช่องปาก ลำคอ และเกิดโรคเหงือกอักเสบง่ายกว่าผู้หญิง
กิน ดื่ม สูบ ต้นเหตุเหงือกอักเสบ
พฤติกรรมที่ทำให้เกิดเหงือกอักเสบง่ายมากในผู้ชายก็คือ
- กิน ทั้งกินมากและกินไม่เลือก แถมยังทำความสะอาดไม่ดี
- ดื่มเหล้า เมาหลับ ไม่ใส่ใจจะแปรงฟัน
- สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่จัดเป็นสาเหตุให้เหงือกอ่อนแอ ไม่แข็งแรง และเป็นสาเหตุชักนำให้เป็นมะเร็งในช่องปากได้
ซึ่งทั้ง 3 ข้อนี้ช่วยส่งเสริมให้เกิดโรคเหงือกอักเสบได้ง่ายๆ เพราะเมื่อแปรงฟันไม่สะอาด คราบอาหารที่ค้างอยู่ ซึ่งเกาะแน่นที่ตัวฟันและเหงือก จะแปรเปลี่ยนเป็นคราบหินปูน อันเป็นที่สะสมของแบคทีเรียซึ่งจะปล่อยกรดไปทำลายเหงือกและละลายกระดูกที่หุ้มฟัน สิ่งที่ตามมาก็คือเกิดช่องว่างระหว่างเหงือกและฟัน เหมือนกระเป๋า เมื่อเศษอาหารยิ่งเข้าไปขังในกระเป๋ามากขึ้น กระดูกก็จะสบายตัวเพิ่มขึ้น จะเห็นได้ว่าเมื่อเกิดลักษณะกระเป๋าแล้ว แปรงฟันอย่างไรก็จะไม่เกลี้ยง เพราะแปรงเข้าไม่ถึง ดังนั้นหากท่านมีอาการสำคัญต่อไปนี้ ต้องรีบหาหมอฟันเลยครับ อย่ารอช้า เพราะสุดท้ายของการรักษาโรคเหงือก มักจบที่การถอนฟัน
โดยอาการสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าเหงือกมีปัญหาก็คือ
- เหงือกบวม มีสีแดงจัด
- มีกลิ่นปาก
- ฟันโยก ฟันคลอน ฟันห่าง
ระวังยาที่รับประทาน
ผู้ชายที่อายุเกิน 40 มักมีปัญหาสุขภาพแทรก เช่น มีโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ซึ่งทำให้ต้องรับประทานยาเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นยาละลายลิ่มเลือด หรือกลุ่มยาที่ควบคุมโรคเหล่านี้ และยาเหล่านั้นมักจะมีผลข้างเคียงในการยับยั้งการไหลของน้ำลาย หรือทำให้น้ำลายไหลน้อยลง ซึ่งมีผลทำให้ฟันผุง่ายขึ้น และอย่าลืมแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบทุกครั้งที่มีการทำฟันหากคุณรับประทานยาเหล่านี้อยู่
ระวังมะเร็งในช่องปาก
เราพบว่าผู้ชายมีโอกาสเป็นมะเร็งในช่องปากมากกว่าผู้หญิงถึง 2 เท่า และ 95% จะเป็นผู้ชายอายุมากกว่า 40 ปี อันเนื่องมาจากการสูบบุหรี่
โดยหลายคนที่สูบบุหรี่อยู่อาจจะไม่ค่อยกลัวมะเร็ง เพราะไม่ทราบว่าในการรักษาโรคมะเร็งในช่องปากนั้น หากมีการผ่าตัดเกิดขึ้น เราจะต้องสูญเสียอวัยวะบางส่วนของใบหน้าออกไปด้วย เช่น ถ้าเป็นมะเร็งที่ขากรรไกรก็ต้องตัดขากรรไกรออก แน่นอนรูปหน้าก็จะต้องบิดเบี้ยวไป จึงอยากฝากข้อมูลนี้ไว้เตือนใจสำหรับท่านที่ยังตัดใจเลิกไม่ได้ เพราะแม้ว่าการแพทย์จะก้าวหน้าขึ้นจนสามารถผ่าตัดรักษามะเร็งช่องปากได้ก็จริง แต่ใบหน้าของท่านคงไม่กลับมาเหมือนเดิม ดังนั้นหากยังเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้จริงๆ ก็ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพในช่องปากอย่างสม่ำเสมอ เพราะทันตแพทย์จะเป็นผู้พบรายแรกๆ เสมอ หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
ระวังอุบัติเหตุจากกีฬา
ผู้ชายที่ชอบเล่นกีฬาที่มีการกระทบกระแทก กีฬาที่ต้องใช้กำลังและผาดโผน ควรจะต้องใส่ใจกับเรื่องฟันให้มาก เพราะถ้าพลาด จังหวะไม่ดี ฟันของท่านอาจจะหลุดหรือหักได้ ถ้าจะให้ดี ท่านทั้งหลายที่ชอบเล่นฟุตบอล บาสเกตบอล ขี่จักรยานเสือภูเขา สเก็ตบอร์ด ต่อยมวย คาราเต้ ควรมี mouth guard เพื่อกันกระแทก ซึ่งทันตแพทย์สามารถทำให้ฟิตกับฟันของแต่ละท่านได้เป็นอย่างดี
สุขภาพช่องปากจะดีได้ ถ้าคุณผู้ชาย
- แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอหลังอาหารทุกมื้อด้วยยาสีฟันฟลูโอไรด์
- เลือกรับประทานอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพฟัน เลี่ยงอาหารหวาน แป้ง อาหารเหนียวติดฟัน
- พบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน
ที่มา...HealthToday