หลักการลดน้ำหนัก คือ ต้องลดไขมันที่มีอยู่ในร่างกาย ไม่ใช่ลดกล้ามเนื้อ... อย่าหยุดกินอาหาร แต่ต้องเลือกกินสารอาหารที่ให้พลังงานซึ่งมีอยู่ ๓ กลุ่มเท่านั้นคือ ไขมัน แป้ง และโปรตีน
ถ้าหยุดกินอาหารจะทำให้ ร่างกายเสียทั้งโปรตีน (กล้ามเนื้อ) ไขมัน และแป้ง แป้งมีอยู่ในปริมาณจำกัดคือ อยู่ในรูปแบบของไกลโคเจน ที่ตับ ๑๐๐ กรัม ที่กล้ามเนื้ออีก ๔๐๐ กรัม หรือรวมแล้วเป็นพลังงานเพียง ๒,๐๐๐ กิโล-แคลอรี (๕๐๐ กรัม x ๔) ร่างกายมีไขมันเป็นพลังงานถึงแสนกิโลแคลอรี
วิธีการลดน้ำหนักจึงต้องเลือกกินอาหาร เน้นหนัก ไปทางพืช ผัก ถั่ว เห็ด เต้าหู้ ปลา พยายามหลีกเลี่ยงมันสัตว์ หนังสัตว์ เครื่องใน ไข่แดง ของทอด น้ำหวาน ของหวาน กะทิ น้ำตาล เพราะเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานมาก แม้แต่ข้าวหรือขนมปัง ถ้ากินมากเกินไป เมื่อถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายก็จะถูกเปลี่ยนไปเป็นไขมัน
วิธีการกินอาหารจึงต้องค่อยๆ กิน ดื่มน้ำมากๆ ก่อนหรือระหว่างกินอาหาร เริ่มต้นด้วยการกินซุปผัก ๑-๒ จาน เคี้ยวช้าๆ พูดคุยบ้าง หลังจากนั้นกินสลัดผักมากๆ อย่าใช้น้ำสลัดที่หวาน กินผักหลายๆ ชนิด เช่น ผักกาดแก้ว มะเขือเทศ หัวหอม เพราะพืช ผัก เป็นแหล่งอาหารที่ดี มีไขมันประเภทดีและมีพลังงานน้อย กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน
หลังจากนั้นจึงกิน (ถ้ายังไม่อิ่ม) ปลาทะเล (แต่พยายามหลีกเลี่ยงไข่ปลา) พยายามกินปลาที่ต้ม นึ่ง ลวก แทนที่จะทอด ถ้าเบื่อปลา จะเปลี่ยนเป็นเนื้อสัตว์อื่นก็ต้องเลือกไก่ที่เอาหนังออก (หนังมีไขมันมาก)
คนที่ชอบกินข้าวก็อาจกินข้าวได้บ้าง (๑ จาน) กับปลาหรือไก่ ควรค่อยๆ เคี้ยว ค่อยๆ กิน กินไปพูดคุยไป ดื่ม น้ำไป ที่แนะนำให้ทำเช่นนี้เพราะร่างกายมนุษย์ก็แปลก กว่าจะรู้ตัวว่าอิ่มจะต้องใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาที ด้วยเหตุนี้เองถ้ารีบกินเร็วไป จะกินได้มากภายใน ๒๐ นาที ก่อนที่จะรู้ตัวว่าอิ่ม แต่ถ้าค่อยๆ กินจะพบว่าภายใน ๒๐ นาทีเรายังไม่ค่อยได้กินอะไรมากปรากฏว่าอิ่มแล้ว
หลังอาหารไม่น่าจะกินของหวาน ถ้าจะกินของหวานให้เลือกกินผลไม้ที่ไม่หวานจัด การกินอาหารแต่ละวันจะต้องแบ่งออกเป็น ๓ มื้อ แทนที่จะกินมื้อเดียว จะช่วยทำให้ร่างกายมีน้ำหนักเบากว่า เพราะการกินอาหารแต่ละมื้อร่างกายใช้พลังงานเผาผลาญ ดูดซึมอาหารมาก นั่นคือ มื้อเช้าร้อยละ ๒๕ ของพลังงานทั้งหมดที่จะกินต่อวัน มื้อกลางวันร้อยละ ๕๐ และมื้อเย็นร้อยละ ๒๕ (อย่างน้อย ๓-๔ ชั่วโมงก่อนนอน) และพยายามออกกำลังกายภายใน ๒ ชั่วโมงก่อนอาหารมื้อเย็น
การคุมอาหารอย่างเดียวพบว่าลดน้ำหนักได้ยาก แต่ถ้าออกกำลังกายด้วยจะสามารถช่วยทำให้ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น การออกกำลังกายจะช่วยป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อ และยังช่วยทำให้ร่างกายมีกล้ามเนื้อมากขึ้นกว่าเก่าด้วย ฉะนั้นควรคุมอาหารควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย ถ้าออกกำลังกายโดยไม่คุมอาหาร ออกกำลังกาย เท่าไหร่ก็จะไม่สามารถลดน้ำหนักได้ เพราะขนมปัง ๑ แผ่น หรือไข่ไก่ ๑ ฟอง จะให้พลังงาน ๑๐๐ กิโลแคลอรี ซึ่งถ้าร่างกายจะเผาผลาญ ๑๐๐ กิโลแคลอรี เราจะต้องเดินหรือวิ่ง ๑ ไมล์!
ฉะนั้น ถ้ากินเต็มที่อาจจะต้องวิ่งถึง ๒๐ ไมล์ เพื่อที่จะเผาผลาญพลังงานที่กินหรือดื่มเข้าไปจากการกินอาหารเพียงมื้อเดียว! พยายามลดน้ำหนักตัวเพียงครึ่งถึง ๑ กิโลกรัมต่อสัปดาห์ และชั่งน้ำหนักทุกวันในเวลาเดียวกัน เช่น ชั่งช่วงเช้าหลังเข้าห้องน้ำ เพื่อที่จะดูว่าน้ำหนักไม่เพิ่มหรือลดเกินไป
ถึงแม้ฮิปโพเครตีสบิดาของวงการแพทย์ชาวกรีกได้กล่าวไว้หลายพันปีแล้ว แต่ยังเป็นคำกล่าวที่ยังเป็นความจริงอยู่จนถึงทุกวันนี้ และเป็นการแนะนำที่ดีที่สุด ถ้าทุกๆ คนทำตามนี้ได้จะป้องกัน ลดการเกิดโรคต่างๆ ได้มากมาย เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ สมอง ความดันเลือดสูง เบาหวาน มะเร็ง กระดูกพรุน อ้วน และภาวะแทรกซ้อนต่างๆ อาจจะตามมา
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าถ้าจะกินก็ควรจะกินให้เป็น และถ้าจะเป็นโรคต้องเป็นโรคที่ยังป้องกันไม่ได้