ใคร ๆ ก็บอกว่ากินผักนั้นดีและมีประโยชน์ แต่ในเมื่อเราไม่ชอบ ทำอย่างไรล่ะถึงจะกินผักได้
ควรกินผักมากแค่ไหน
ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าควรจะกินผักมากขนาดไหน สิ่งที่คุณต้องดูก็คือจานของคุณ ครึ่งหนึ่งของจานควรจะเป็นผัก (หรือผักผสมกับผลไม้) หลายคนทำพลาดคือ เลือกระหว่างผักกับผลไม้ ผลก็คือกินผลไม้มากเกินไป แต่กินผักน้อย พยายามใส่ใจและเลือกกินผักให้มากขึ้น โดยให้มีผักและผลไม้หลาย ๆ ชนิด เพื่อให้คุณได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุมากที่สุด
เมื่อคุณทราบเป้าหมายแล้วก็ผ่อนเพลาให้ตัวเองบ้างนะ ไม่ต้องเพอร์เฟคท์นักก็ได้ มันก็เหมือนกับการปาเป้านั่นแหละ ถ้าคุณปาถูกตรงกลางอาจจะได้คะแนนเต็มก็จริง แต่ถ้าถูกที่อื่นก็ได้คะแนนเหมือนกัน
หยุดเอาแต่ใจเหมือนเด็ก
ถ้าคุณรู้สึกว่าพอเป็นเรื่องผักแล้ว คุณเหมือนเด็ก 7 ขวบที่ไม่ยอมกินผักสักทีก็อย่าเพิ่งยอมแพ้ ซึ่งมันมีเหตุผลที่คุณไม่ยอมกินผักอยู่สามอย่าง หลัก ๆ คือ คุณมีอดีตฝังใจ คุณไม่ชอบรสชาติของผัก คุณไม่ชอบสัมผัสของผัก อาจจะเป็นเพราะคุณถูกจับให้นั่งอยู่กับที่จนกว่าจะกินผักหมด อาจเป็นเพราะผักดอง ทำให้คุณหมดอารมณ์ตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรก็ตามลืมมันเสียเถิด เพราะความผิดอาจจะอยู่กับอาหารจานนั้นจานเดียวก็ได้
ให้คะแนนในแต่ละมื้อ
หากคุณมีปัญหากับการกินผักให้ได้อย่างน้อยครึ่งจานต่อวัน ลองใช้วิธีที่กล่าวมาแล้วค่อยให้คะแนนตัวเองเต็ม 5 คะแนน หากผักไม่ถึงครึ่งจาน ลดลง 1 คะแนน ถ้าผลไม้เยอะกว่าผักลดลงอีก 1 คะแนน ถ้าผักน้อยกว่า ¼ ของจาน ลดลงอีก 1 คะแนน ถ้ากินข้าวขาวแทนที่จะเป็นธัญพืชก็ให้ลดอีก 1 คะแนน และถ้ากินเนื้อสัตว์แปรรูปหรือเนื้อติดมันก็ลดลงอีก 1 คะแนน เช่นกัน แต่ถ้าเป็น 0 คะแนน ล่ะก็ต้องเริ่มใหม่นะจ๊ะ
ตั้งโปรแกรมเสียใหม่
ปัญหาหลัก ๆ ที่ทำให้คนไม่อยากกินผักคือ ความขม ซึ่งเรามีต่อมรับรสขมเอาไว้ตรวจจับสารพิษทั้งหลาย นี่คือสาเหตุว่า ทำไมคนส่วนใหญ่ไม่ชอบรสขม และต้องเติมน้ำตาลหรือนมเพื่อลดความขมลง และร้อยละ 25 ของคนทั่วไปนั้นมีประสาทรับรสไวเป็นพิเศษ โดยเฉพาะรสขม ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เราไม่กินผัก
แทนที่จะ หลีกเลี่ยงผัก ลองใช้สิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับรสขมดีกว่า นั่นก็คือรสหวาน ซึ่งอาจจะเป็นน้ำผึ้ง สับปะรด ลูกเกด หรือแม้แต่บัตเตอร์สก็อตซ์ก็จะช่วยได้ หรือหากชอบรสจัดจ้านก็ควรใส่พริก ชอบรสเค็มก็ใส่ชีส หรือใส่ซอสถั่วเหลืองสักนิดก็ได้ กระเทียมหรือน้ำมันมะกอกก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณต้องกินผักเท่านั้น ก็ให้เลือกผักอ่อน ๆ ที่ไม่ค่อยขม อย่างเช่น ยอดคะน้า ผักโขมเบบี้ หรือกินผักขม ๆ คู่กับผักหวาน ๆ อย่างเช่น แครอท มะเขือเทศ อะโวคาโด แตงกวา บีทรูต มันฝรั่ง
สำหรับปัญหาเรื่องรสสัมผัสนั้น หลายคนปล่อยให้ผักสุกนานเกินไปจนกระทั่งเละ และเมื่อเละก็จะขมขึ้นอีก ผักส่วนใหญ่ควรจะสุกภายใน 3-7 นาที แต่ถ้าไม่อยากให้ผักเละก็ให้ล้างด้วยน้ำเย็นจัดก่อน
Tip : Salad Habit
สร้างนิสัยกินสลัดหนึ่งถ้วยก่อนกินมื้อหลัก จะช่วยให้คุณกินผักได้มากขึ้นแน่ ๆ และกินข้าวน้อยลงด้วย