การนั่งอ่านแทบเบล็ตก่อนนอนนั้นมีผลเสียต่อสุขภาพ


ในช่วงยุคสมัยที่หลอดไฟเพิ่งถูกประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาใหม่ โทมัส เอดิสันได้ให้คำมั่นสัญญากับประชาชนว่าสิ่งประดิษฐ์จะไม่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพหรือรบกวนการนอนหลับแต่อย่างใด

แต่เมื่อเราได้เริ่มขยับก้าวไปสู่สังคมที่เสียบปลั๊กตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันมากขึ้นเรื่อยๆนั้น Charles Czeisler ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชานด้านการนอนหลับได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคำมั่นสัญญานั้นอีกครั้งหนึ่ง

ยิ่งเราทำให้ชีวิตของเราสว่างไสวขึ้นมากเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนว่าเราจะยิ่งนอนน้อยลงไปเท่านั้น” Czeisler ได้กล่าวบทแสดงข้อคิดเห็นไว้ในวารสาร Nature “เมื่อต้นทุนในการผลิตแสงสว่างนั้นลดต่ำลงไปกว่าร้อยเท่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การบริโภคแสงสว่างก็เพิ่มขึ้นไปตามๆกัน ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงระหว่างปี 1950 และปี 2000 นั้นต้นทุนของการผลิตแสงสว่างลดลงไป 6 เท่า ซึ่งทำให้อัตราการบริโภคต่อหัวของชาวอังกฤษนั้นเพิ่มขึ้นมาถึงสี่เท่าเลยทีเดียว และการเพิ่มขึ้นของการบริโภคแสงสว่างนี้ได้มาคู่ขนานกับการเพิ่มขึ้นของภาวะการอดนอนเช่นเดียวกัน”

ซึ่งนี่หมายความว่าเราควรจะหันมาอ่านหนังสือที่ทำจากกระดาษก่อนตะวันจะตกดินแทนทีจะดาวน์โหลดนวนิยายมาอ่านบนแทบเบล็ตของตัวเองในเวลากลางคืนหรอกหรือ? ถ้าตามหลักแล้วก็คงจะต้องตอบว่าใช่

“เทคโนโลยีได้แยกเราออกจากวิถีชีวิต 24 ชั่วโมงแบบปกติและกลายเป็นว่าร่างกายของเราได้เกิดการวิวัฒนาการซึ่งส่งผลให้เรานอนช้าลง แล้วก็หันมาใช้คาเฟอีนช่วยในตอนเช้าเพื่อที่จะทำให้เราตื่นเช้าที่สุดเท่าที่เราเคยตื่นได้ ซึ่งเป็นการลดทอนเวลาในการนอนลงไป”

คนอเมริกันระหว่าง 50 ถึง 70 ล้านคนนั้นได้ประสบกับปัญหาด้านสุขภาพและความปลอดภัยจากภาวะการอดนอนและปัญหาด้านการนอนหลับ ซึ่งเป็นข้อมูลที่อ้างอิงจากการประมาณการโดยสถาบันการแพทย์ของสหรัฐฯ 

แต่ในขณะที่เทคโนโลยีนั้นถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา มันก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาได้เช่นกัน โดย Czeisler กล่าวว่าหลอดไฟ  LED นั้นมักจะปล่อยแสดงที่มีส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็นสีน้ำเงิน ซึ่งมีผลในการก่อกวนกิจวัตรร่างกายและการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินของร่างกายมากกว่า  ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไปที่จะเปลี่ยนให้หลอดไฟนั้นปล่อยแสงอมสีแดงหรือส้มมากขึ้นหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลย์ของร่างกายให้เป็นไปตามธรรมชาติของกิจวัตรร่างกายในแต่ละวันด้วย

การนั่งอ่านแทบเบล็ตก่อนนอนนั้นมีผลเสียต่อสุขภาพ


ขอบคุณ : vcharkarn


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์