![บริบทมนุษย์เงินเดือน](img7/151381.jpg)
บริบทมนุษย์เงินเดือน
ถ้าคุณ...ยังคงดำรงชีวิตวนเวียนอยู่ในวัฎจักรชีวิตของมนุษย์เงินเดือน คุณควรอ่าน...
มนุษย์เงินเดือน คือ.."มนุษย์เงินเดือน" เป็นคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งของสังคมไทย เป็นคนที่มีศักยภาพสูง แต่หลายคนไม่ได้ดึง เอาศักยภาพที่มีอยู่มาใช้อย่างเต็มที่ ซึ่งแต่ละคนก็มีเหตุผลแตกต่างกันไป เช่น ทำมากไปก็ได้เงินเดือน เท่าเดิม ไม่มีโอกาสได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่เพราะข้อจำกัดของตำแหน่งหน้าที่ ทำมากทำน้อยเราก็ไม่ได้มีแต่นายจ้างเท่านั้นที่ได้นอกจากนี้มนุษย์เงินเดือนเกือบทุกคนอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ว่า จะเป็นชีวิตการทำงาน หรือชีวิตส่วนตัว บางคนพยายามดิ้นรนหาหนทางที่จะก้าวไปสู่เป้าหมาย บางคน โชคดีก็ไปถึงฝัน.. แต่อีกหลายคนที่ยังคงวนเวียนอยู่ในวัฎจักรของความฝันของตน ที่ยังไม่เป็นจริง..
มนุษย์เงินเดือนมืออาชีพ"มนุษย์เงินเดือน” อาชีพนี้ดีอย่างไร? ..
ได้รับรายได้แน่นอนเท่ากันทุกเดือน
ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ โดยไม่ต้องลงทุนเอง
มีสังคมกว้าง ทันโลกทันเหตุการณ์
มีสวัสดิการดีกว่าคนทำกิจการส่วนตัว
ไม่มีล้มละลาย...
ทำงานเพียงหน้าที่ที่รับผิดชอบ
เบื่อเมื่อไร เปลี่ยนได้ทันที
มีวันหยุดเยอะ แถมหยุดแล้วได้เงินอีก
ข้อคิดสำหรับชีวิตการเป็นลูกจ้าง
ต้องเข้าใจบทบาทในหน้าที่นั้นอย่างถ่องแท้
ต้องปรับอารมณ์ให้เข้ากับบทบาทของงานในตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย
ต้องพร้อมที่จะซ้อมบทบาทใหม่อยู่ตลอดเวลา
ต้องคิดว่า “ทุกครั้งที่ทำเต็มที่ เราได้มากกว่าองค์กร”
ต้องมีจรรยาบรรณ
ต้องไม่เอาผลตอบแทนเป็นตัวนำ เพราะจะทำให้บทบาทการแสดงเปลี่ยนไป
มนุษย์เงินเดือนมือใหม่ ควรจะปรับตัวอย่างไร ?
เปิดการทักทายกับทุกคน
จดจำบุคคลสำคัญในองค์กรให้ได้
เรียนลัดจากคนเก่าและเอกสาร
อย่าคบคนเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพียงกลุ่มเดียว
ฟังและถามให้มากกว่าพูด
เก็บข้อมูลโดยการจดบันทึก
เข้าร่วมกิจกรรมให้มากที่สุด
อย่าเพิ่งแสดงความคิดเห็นในเชิงลบ
เทคนิคการเปลี่ยนแนวคิดให้เป็นบวก
คิดเข้าข้างตัวเอง..
คบเพื่อนคิดบวก..
คิดถึงสิ่งที่แย่กว่า..
คิดว่าโอกาสที่มีคุณค่าคือจุดเล็กๆ ที่คนทั่วไปมองข้าม
สรุป : การคิดบวกถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับคนที่อยากจะเป็น “มนุษย์เงินเดือนมืออาชีพ” คนคิดลบเปรียบเสมือนถังขยะที่เก็บแต่สิ่งที่ไร้ค่าในขณะที่…คนคิดบวกเปรียบเสมือนคลังสมบัติที่เก็บแต่สิ่งที่ล้ำค่า จงทำงานให้มากกว่าเงินเดือน
เหตุผลสำคัญที่สนับสนุนแนวคิดนี้ คือ
ทำมาก...ได้ประสบการณ์มาก
ทำมาก... ได้สร้างผลงานให้ปรากฏ
ทำมาก…มีโอกาสเป็นบุคคลสำคัญขององค์กรมาก
ทำมาก...สบายในภายหลัง
เส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ
ความก้าวหน้าในอาชีพของ “มนุษย์เงินเดือน” มักจะถูกกำหนดโดยองค์กร หรือเรียกว่าระบบ “เส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ” การเติบโตในเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพจะขึ้นอยู่กับปัจจัย 2 อย่าง คือ
1.ปัจจัยภายใน คือความพร้อมของตัวเราเอง
2. ปัจจัยภายนอก คือสถานการณ์ที่เอื้อหรือไม่เอื้อต่อการเติบโต
เทคนิคการพัฒนา “ลูกน้อง” ให้เป็น “หัวหน้า”
ฝึกให้ลูกน้องคิดแทนหัวหน้าก่อนที่หัวหน้าจะคิดทำ
ให้โอกาสลูกน้องได้เป็นหัวหน้า (โดยการมอบหมายงานให้ทำ)
ร่วมกับลูกน้องกำหนดเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ
พัฒนาลูกน้องตามความถนัดและเหมาะสม
เทคนิคการทำงานกับผู้บริหารหัวก้าวหน้า
ป้อนข้อมูลใหม่ๆ ให้ผู้บริหารได้มีโอกาสเลือก
คิดและเตรียมสิ่งใหม่ๆ ไว้ล่วงหน้า
อย่าเสี่ยง !! เถียงกับผู้บริหารในขณะที่กำลังร้อนวิชา
จงลองทำเองก่อนและค่อยใช้คนนอกมาช่วย
การบริหารชีวิตในระหว่างเดินทางอยู่บนถนน สายอาชีพลูกจ้าง
มองไปข้างหน้าให้มากกว่ายึดอยู่กับอดีตและติดอยู่กับปัจจุบันคิดเสียว่าไม่มีใครอยู่กับเราตลอดชีวิต
ไม่มีมิตรและศัตรูที่ถาวรในที่ทำงาน
ทุกคนเป็นคนดี แต่เส้นทางเดินอาจจะทับกันบ้าง
คิดว่าเราเพิ่งรู้จักทุกคนในทุกวัน
ลด ละ เลิก ค่านิยม “ใช้ก่อนผ่อนทีหลัง”
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่านิยม“ใช้ก่อนผ่อนทีหลัง”
เกิดขึ้นมากในสังคมไทย มีอยู่ 2 ประการ คือ
1. คนไทยชอบเห่อ หรืออยากได้อยากมี
2. ผู้ทำธุรกิจปล่อยเงินกู้หรือขายสินค้าออกโฆษณาล่อใจเหลือเกิน (เจอโฆษณาแบบนี้ ร้อยทั้งร้อยก็ไม่รอด จอดป้ายเงินผ่อนทุกราย)
ข้อควรพิจารณาก่อนจะผ่อนอะไร
สิ่งที่ผ่อนเป็นภาระหรือการลงทุนจำเป็นต่อชีวิตหรือไม่
มีเงินพอหรือไม่ (หักจากส่วนที่ต้องส่งเงินผ่อนแล้วเหลือพอในการดำรงชีวิตหรือเปล่า?)
การวางแผนการเก็บเงิน
เทคนิคง่ายๆ คือ “หลัก 3 บัญชี” โดยให้เปิดบัญชี 3 บัญชี ดังนี้
บัญชีที่ 1คือบัญชีที่เงินเดือนเข้าไว้กดเอทีเอ็มสำหรับค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน
บัญชีที่ 2 คือบัญชีเงินออมเพื่อฉุกเฉิน เร่งด่วน(อาจจะเป็นออมทรัพย์ก็ได้)
บัญชีที่ 3 คือบัญชีเงินออมเพื่อออกจากงาน หรือออมเพื่ออนาคต
จรรยาบรรณประจำตำแหน่งมนุษย์เงินเดือน
จงตระหนักว่าบทบาทและหน้าที่ของเราคืออะไร
จงพอใจในผลประโยชน์ที่ได้รับ
จงคิดว่ามลทินในชีวิตไม่มีน้ำยาอะไรลบออกได้
จงคิดว่าถ้าบริษัทเป็นของเรา เราจะทำหรือไม่
จงชมตัวเองทุกครั้งที่รักษาจรรยาบรรณไว้ได้
จงสอนตัวเองโดยผ่านการสอนคนอื่น
อย่าเห็นแก่ประโยชน์แม้เพียงเล็กน้อย
อย่าทำเพราะคนอื่นเขาทำกัน
อย่าคิดว่าทำแล้วไม่มีใครรู้ใครเห็น
เทคนิคการทำงานอย่างมีความสุข
การรักงานที่ทำอยู่ คือประตูสู่การทำงานที่เรารัก
เปลี่ยนปัญหาให้เป็นความท้าทาย
อย่าเปิดช่องว่างให้ความเบื่อเข้ามาแทรก
อย่าระบายอารมณ์ลงที่งาน
หาเงินเพื่อใช้ในการเกษียน
ถ้ารายการค่าใช้จ่ายของเราโดยปกติ มีดังนี้...
เช้า : กาแฟ ขนมปัง มาม่า น้ำผลไม้ 10+5+5+10 = 30 บาท
กลางวัน : ข้าวผัดกระเพราไข่ดาว ผลไม้ น้ำดื่ม 30+10+5 = 45 บาท
เย็น: ข้าวไข่เจียวหมูสับ แกงจืด 15+20 = 35 บาท
ค่าใช้จ่ายประจำวันเบ็ดเตล็ด = 60 บาท
รวมค่าใช้จ่ายต่อหนึ่งวันเท่ากับ 30+45+35+60 = 170 บาท
จำนวนวันทั้งหมด ตั้งแต่อายุ 56 (หลังเกษียณ) ถึง 80=25 ปีคูณ 365 วัน = 9,125 วัน
ดังนั้นเงินที่จำเป็น ต้องใช้เพื่อประทังชีวิตอยู่ขั้นต่ำเท่ากับ 9,125 คูณ 170 = 1,551,250 บาท เงินจำนวนนี้ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายที่สำคัญอื่นๆ เช่น ค่ารถ ค่าซ่อมรถ ค่าผ่อนบ้าน ค่าซ่อมบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเสื้อผ้า ฯลฯ และที่สำคัญที่สุดคือ ค่ารักษาพยาบาลสำหรับตัวเอง และครอบครัว (ถ้ามี)
แล้วคุณคิดว่าตอนคุณอายุ 55 คุณมีเงินเก็บขั้นต่ำ หนึ่งล้านห้าแสนบาทหรือยัง?
คำคม..คำคน..
1)“จงภูมิใจกับสิ่งที่ท่านเป็นอยู่ มีอยู่ ได้อยู่มากกว่าถามหาสิ่งที่ยังไม่เป็น ยังไม่มี หรือยังไม่ได้”
2)“คนที่มีแผนที่เดินทางย่อมไปถึงเป้าหมายได้ดีกว่าและเร็วกว่าคนที่ไม่มีแผนที่นำทางอย่างแน่นอน”
3)“ไม่มีความทุกข์ใดจะหนักและหนาเท่ากับการผ่อนหนี้ที่ก่อขึ้นมาจากความโลภและไม่ประมาณตนเอง”
4)“แบ่งหัวใจให้เรื่องสำคัญก่อนความสุขในการทำงานไม่ต้องหาจากที่ไหนมันอยู่ที่ใจของเราเอง”
5)“ความเจ็บปวดช่วยสร้างคุณค่าของการมีชีวิตเป็นปกติฉันใดการขัดแย้งกันบ้าง จะช่วยสร้างคุณค่าของความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันฉันนั้น”
![บริบทมนุษย์เงินเดือน](img7/151381.jpg)
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday