จากการสำรวจของคณะกรรมการเศรษฐกิจแห่งแอฟริกา (ECA) พบว่า เมืองที่ติดอันดับค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติปีนี้ คือ "กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์" ที่เบียดแชมป์เก่าอย่างกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่นซึ่งครองแชมป์มาตั้งแต่ปี 2553 ตกไปอยู่อันดับที่ 6 สาเหตุที่ทำให้กรุงออสโลแพงที่สุดในโลก เนื่องจากต้นทุนการผลิตและค่าแรงที่สูง โดยเฉพาะค่าบริการร้านซักแห้ง ร้านซ่อมรองเท้า ร้านเสริมสวยและร้านอาหาร รวมถึงผลกระทบของภาษีที่ทำให้แอลกอฮอล์และบุหรี่มีราคาแพงมาก นอกจากนี้ผลการสำรวจพบว่า ค่าตั๋วหนังที่กรุงออสโลตกใบละ 563 บาท ขณะที่ค่าเบียร์ในผับตก 423 บาทต่อขวด และโซดาขวดละ 103 บาท
ประเทศอะไร? ค่าครองชีพแพงสุดในโลก
จากการสำรวจของคณะกรรมการเศรษฐกิจแห่งแอฟริกา (ECA) พบว่า เมืองที่ติดอันดับค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติปีนี้ คือ "กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์" ที่เบียดแชมป์เก่าอย่างกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่นซึ่งครองแชมป์มาตั้งแต่ปี 2553 ตกไปอยู่อันดับที่ 6 สาเหตุที่ทำให้กรุงออสโลแพงที่สุดในโลก เนื่องจากต้นทุนการผลิตและค่าแรงที่สูง โดยเฉพาะค่าบริการร้านซักแห้ง ร้านซ่อมรองเท้า ร้านเสริมสวยและร้านอาหาร รวมถึงผลกระทบของภาษีที่ทำให้แอลกอฮอล์และบุหรี่มีราคาแพงมาก นอกจากนี้ผลการสำรวจพบว่า ค่าตั๋วหนังที่กรุงออสโลตกใบละ 563 บาท ขณะที่ค่าเบียร์ในผับตก 423 บาทต่อขวด และโซดาขวดละ 103 บาท
กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์
สาเหตุที่ทำให้ญี่ปุ่นเสียแชมป์น่าจะมาจากค่าเงินเยนของญี่ปุ่นที่อ่อนลงจึงทำให้นักท่องเที่ยวมีกำลังซื้อมากขึ้นอย่างไรก็ตามกรุงโตเกียวก็ยังคงครองแชมป์เมืองที่แพงที่สุดในเอเชียอย่างเหนียวแน่น แซงหน้ากรุงโซล กรุงปักกิ่ง สิงคโปร์และฮ่องกงเช่นเดิม
กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ส่วนเมืองที่มีค่าครองชีพสูงรองลงมาได้แก่เมืองลวนดา ประเทศแองโกลา ในแอฟริกาตะวันตกเฉียงใต้ อันดับ 3 คือ สตาเวนเจอร์ ประเทศนอร์เวย์ อันดับ 4 เมืองจูบา ประเทศซูดานใต้ ตามมาด้วยกรุงมอสโก ของรัสเซียเป็นอันดับ 5 และ กรุงโตเกียว ของญี่ปุ่นแชมป์เก่าที่ร่วงมาเป็นอันดับที่ 6 ส่วนอันดับ 7-10 ตกเป็นของซูริค เจนีวา บาเซลและกรุงเบิร์น ของสวิตเซอร์แลนด์ตามลำดับ
ขอบคุณเรื่องและภาพจาก CNN
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!