อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (ซีไอเอ) ที่เผยข้อมูลการสอดแนมข้อมูลประชาชนของรัฐบาลสหรัฐฯ หายตัวไปอย่างลึกลับจากโรงแรมที่พักในฮ่องกง
นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน วัย 29 ปี ทำการเช็คเอาต์จากโรงแรมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 มิ.ย.) และยังไม่ทราบว่าเขาเดินทางไปที่ใด แต่เชื่อกันว่าเขายังคงพำนักอยู่ในฮ่องกง โดยก่อนหน้านี้ เขาเคยกล่าวว่าตนมีพันธะหน้าที่ในการช่วยปลดปล่อยผู้คนจากการกดขี่
ด้านโฆษกสำนักงานผู้อำนวยการความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่า คดีของนายสโนว์เดน ถูกโอนให้แก่กระทรวงยุติธรรมเป็นผู้รับผิดชอบต่อแล้ว ขณะเดียวกัน ได้มีการเปิดการลงชื่อเรียกร้องเพื่อขออภัยโทษต่อนายสโนว์เดนในหน้าเว็บไซต์ของทำเนียบขาว ซึ่งขณะนี้มีมากกว่า 37,000 รายชื่อแล้ว อย่างไรก็ดี ผลโพลของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ชี้ว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่คิดว่าการถูกสอดแนมข้อมูลทางโทรศัพท์โดยรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ หากมีจุดประสงค์เพื่อการต่อต้านการก่อการร้าย
ส่วนสถานีโทรทัศน์ อาร์ทีเอชเคของฮ่องกง รายงานว่า นายสโนว์เดน ทำการเช็คเอาต์จากโรงแรมมิรา เมื่อวันจันทร์ ขณะที่รอยเตอร์อ้างคำกล่าวของพนักงานโรงแรมที่ระบุว่าเขาออกจากโรงแรมในช่วงกลางวัน ขณะที่นายเอวาน แมคอัสคิล ผู้สื่อข่าวของเดอะการ์เดียน เชื่อว่านายสโนว์เดนยังอยู่ในฮ่องกง
ทั้งนี้ ฮ่องกงได้ทำข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนร่วมกับสหรัฐฯ แม้ผู้เชี่ยวชาญจะกล่าวว่า ความพยายามในการนำนายสโนว์เดนกลับไปดำเนินคดีในสหรัฐฯอาจใช้เวลานานหลายเดือน และอาจถูกรัฐบาลจีนสั่งห้าม
นายเอ็ดเวิร์ด สโนวเดน อดีตลูกจ้างสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (ซีไอเอ) ที่ทำงานกับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) เผยต่อหนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียนของอังกฤษว่า เขาคือแหล่งข่าวที่เปิดเผยเรื่องโครงการสอดแนมทางอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ของรัฐบาล เพื่อปกป้องเสรีภาพขั้นพื้นฐานของคนทั่วโลก
นายสโนว์เดนวัย 29 ปีซึ่งกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ที่ฮ่องกงให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษว่า เขาคิดใคร่ครวญอย่างหนักอยู่นานก่อนเปิดเผยรายละเอียดโครงการของเอ็นเอสเอที่มีชื่อรหัสว่า PRISM เพราะทนไม่ได้ที่สหรัฐฯสร้างเครื่องมือสอดแนมชาวอเมริกันทุกคน และตาสว่างแล้วว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา ไม่ได้ต่างจากอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช
เดอะการ์เดียนเผยว่า นายสโนว์เดนทำงานกับเอ็นเอสเออยู่ 4 ปี เขาได้ทำสำเนาเอกสารลับของเอ็นเอสเอที่สำนักงานในฮาวายเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนแล้วขอลางานโดยอ้างว่าจะไปรักษาโรคลมชัก จากนั้นเดินทางเข้าฮ่องกงเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม โดยขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองฮ่องกง ที่มีระยะเวลา 90 วัน
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายแปลกใจว่า เหตุใดเขาจึงหนีไปฮ่องกงทั้งที่ฮ่องกงมีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับสหรัฐฯ ขณะที่นายสโนว์เดนเผยกับเดอะการ์เดียนว่า ฮ่องกงมีเสรีภาพในการแสดงออกและหวังว่าสุดท้ายแล้วเขาอาจได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยในไอซ์แลนด์ เพราะเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเสรีภาพอินเทอร์เน็ต
นายสโนว์เดนเปิดเผยตัวหลังจากเดอะการ์เดียนและวอชิงตันโพสต์ลงข่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เอ็นเอสเอได้สอดแนมข้อมูลการใช้โทรศัพท์และข้อมูลในอินเทอร์เน็ตของผู้คนด้วยการเข้าไปในเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทผู้ให้บริการโดยตรง แต่บริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่พากันปฏิเสธ