รถไฟญี่ปุ่นที่เรียกกันว่ารถไฟหัวกระสุน หรือบุลเลตเทรนนั้น ครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นรถไฟที่ทำความเร็วได้สูงที่สุดในโลก ก่อนที่จะถูกโค่นแชมป์ความเร็วลงในเวลาต่อมา แต่ถึงตอนนี้บุลเลตเทรนกลับมาครองแชมป์ความเร็วอีกครั้งหนึ่ง ด้วยสถิติความเร็วสูงสุดถึง 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (กม./ชม.) พอๆ กับเครื่องบินเลยทีเดียว
รถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ยุคแรกสุดของญี่ปุ่นเริ่มใช้งานเมื่อปี 1964 รับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพในปีนั้น หรือเมื่อประมาณ 49 ปีที่ผ่านมา เส้นทางสายแรกเชื่อมระหว่างกรุงโตเกียวกับโอซากา โดยแวะเพียง 2 สถานี คือ นาโงยาและเกียวโต ความเร็วที่เป็นสถิติสูงสุดของมันในเวลานั้นเกิดขึ้นระหว่างการทดสอบในรางพิเศษที่ทำขึ้นเพื่อทดสอบประสิทธิภาพคือ 256 กม./ชม. แต่ในการใช้งานจริงขบวนรถนี้วิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ยราว 163 กม./ชม. โดยมีความเร็วสูงสุดระหว่างเส้นทางที่ 210 กม./ชม. ทำให้สามารถครอบคลุมระยะทาง 515 กม.ได้เพียง 3 ชั่วโมงกับ 10 นาทีเท่านั้น
นับแต่นั้นมาชื่อรถไฟ "ชินกังเซน" ก็เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก
บุลเลตเทรน หรือชินกันเซน ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนที่เรียกว่า "แม็กเลฟ" ซึ่งเป็นคำย่อจากภาษาอังกฤษว่า "แม็กเนติค เลวิเตชั่น" ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่อาศัยสนามแม่เหล็กยกขบวนรถให้ลอยอยู่เหนือราง อาศัยหลักการการสลับขั้วแม่เหล็กกลับไปกลับมาก่อให้เกิดแรงผลักทำให้รถไฟเคลื่อนที่ได้ต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง เงียบและไม่กระเทือน เหมือนอย่างการวิ่งด้วยล้อบดบนรางอย่างรถไฟทั่วไป ในเวลาเดียวกันก็สามารถเร่งความเร็วขึ้นสูงได้อย่างรวดเร็วและลดความเร็วให้ต่ำลงได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน นอกจากนั้นสภาวะดินฟ้าอากาศยังส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีนี้น้อยมาก
ชินกันเซน ขบวนแรกสุดที่มี 12 ตู้ (รวมทั้งหัวรถจักรที่เป็นหัวกระสุนด้วยรูปลักษณ์ตามหลักแอโรไดนามิกของมัน) นั้น ถือเป็น "ซีรีส์0" ของรถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่นที่ผลิตโดยบริษัทคาวาซากิ เฮฟวี่อินดัสทรี ของญี่ปุ่น ส่วนรถไฟหัวกระสุนที่เพิ่งทำสถิติในรางทดสอบใหม่ที่ 500 กม./ชม.นี้ เป็นรุ่น "แอล0 ซีรีส์" ที่ถือเป็นซีรีส์ล่าสุดที่จะนำมาใช้งานจริงในปี 2027 บนเส้นทางสายโตเกียว-นาโงยา ระยะทาง 351 กม. ซึ่งถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ขบวนรถไฟใหม่ที่มีความเร็วสูงที่สุดในโลกนี้จะใช้เวลาเดินทางเพียง 40 นาที แทนที่จะเป็น 90 นาทีเหมือนที่ผ่านมา
รถไฟความเร็วสูงในระยะหลังนั้นมีใช้กันแพร่หลายในหลายประเทศ อาทิ เกาหลีใต้, จีน และในภาคพื้นยุโรป แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีความเร็วเฉลี่ยอยู่ไม่เกิน 322 กม./ชม. โดยทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 350 กม./ชม. โดยก่อนหน้าที่จะเกิดสถิติโลกใหม่นี้รถไฟความเร็วสูงที่เร็วที่สุดในโลกเป็นสถิติของรถไฟความเร็วสูงของเซี่ยงไฮ้ ซึ่งทดสอบความเร็งสูงสุดได้ 442.4 กม./ชม. แต่ใช้งานจริงที่ความเร็วเฉลี่ย 240 กม./ชม.เท่านั้น
ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ผู้โดยสารจะรู้สึกอย่างไร ถ้าหากรู้ว่ารถไฟขบวนที่ตนโดยสาร มีความเร็วสูงพอๆ กับเครื่องบิน นิยมชมชอบหรือกลัว ไม่กล้าขึ้นกันแน่?
ที่มา นสพ.มติชน



กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday