เท่าที่จำความได้..
เมื่อสมัยที่แนนยังอยู่ตอน ม.ต้น
แนนเคยได้เรียนวิชาภาษาอังกฤษ
มันเป็นวิชาที่ว่าด้วยเรื่องไวยากรณ์
ที่แรียกว่า “กริยา 3 ช่อง” ยังไงล่ะ
มันก็จะพูดถึง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต…
แรกๆอาจจะยากกันสักหน่อย
เพราะไม่รู้ที่มาที่ไปของการเปลี่ยนรูป เปลี่ยนสระ ของพวกคำกริยาต่างๆ
แต่พอเรียนๆ ไปก็เริ่มจะจับทางถูก อิอิ
เพราะมันก็เปลี่ยนไปคล้ายๆกัน
แต่ในนี้แนนจะมาว่าเรื่อง Tense ในแบบของแนนง่ายๆ ลองดูกันนะคะว่าเหมือนกับใครบางคนหรือปล่าว..!!
อดีต…..
….. คือสิ่งที่ผ่านมาแล้ว
ปัจจุบัน…..
….. สิ่งที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้
อนาคต…..
…..สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
{{ Past – Present – Future }}
คนเราทุกคนย่อมมีอดีต เพียงต่างกันที่ว่าแต่ละคนมือดีตยังไง
บ้างก็ดี บ้างก้อแย่ ลดหลั่นกันไปตามเลเวล
บางคนเสียดาย และเสียใจกับสิ่งที่ผ่านมา
จนอยากย้อนกลับไปแก้ไขมัน แต่คุณก็รู้ว่ามัน..
“เป็นไปไม่ได้”
บางคนดีใจ บางคนมีความสุขทุกครั้งที่ได้ย้อนกลับไปคิดถึงอดีต
ดีใจด้วยค่ะ..คุณเป็นคนที่โชคดีมาก
ย้อนกลับไปถึงคนที่เสียใจกับอดีต…
ต้องเข้าใจว่าบางทีสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราแย่ๆนั้น
มันก็ยังมีสิ่งดีๆ เรื่องดีๆ อยู่..
เพียงแต่เราไม่คิดที่จะจับโฟกัสไปยังจุดๆนั้นเอง
มัวแต่จมปลักอยู่กับความเสียใจ กับเรื่องเลวร้ายที่ผ่านมา
อยากให้ลองคิดกันดูว่า…
ถ้าเรื่องแย่ๆนั้นมันไม่เกิดกับเรา
เราอาจจะเจอเรื่องที่แย่กว่านั้นก็ได้ จริงมั้ย??
ตัวอย่าง เช่น…..
เราเคยประสบอุบัติเหตุ เสียโฉม
จากคนหน้าตาดี กลายมาเป็นคนมีตำหนิ
จากที่มีคนเข้ามาจีบ มาพูดคุยด้วย
กลายเป็นคนที่ต้องอยู่คนเดียว ไม่กล้าไปไหน ไม่กล้าพบปะกับใคร
เพราะว่าคุณก็รับในสิ่งที่ตัวคุณเผชิญอยู่ไม่ได้เช่นกัน
แต่ในทางกลับกัน…
มันเป็นเรื่องที่ดีอีกอย่างหนึ่งคือ…
คุณสามารถหาความจริงใจได้ง่ายขึ้น
คนที่จะมาผูกมิตรกับคุณคนนั้น เขาได้มองคุณผ่านรูปลักษณ์ภายนอกไปชั้นนึงแล้ว
ซึ่งคนเราสมัยนี้ หาความจริงใจกันได้ยากมากกกกกก
ใครมีแฟน เพื่อนๆก้อมักจะถามว่า “หล่อมั้ย” “สวยมั้ย” “รวยป่าว”
อะไรกันเนี่ย..!!!!
แต่ก้อต้องยอมรับว่ามันเป็นอย่างนี้จริงๆ
ถ้าสุดท้ายคนพวกนั้นเขากลับมาทำร้ายคุณล่ะ..คุณยังจะปลื้มอยู่มั้ย??
มันอาจจะใช้เวลานานสักหน่อยในการที่จะมีคนที่จริงใจกะเราจริงๆ
แต่ถ้าบวกลบกันแล้ว..
คนที่หน้าตาดี จะมีสักกี่ครั้งที่จะได้คบใครนาน
พวกเขาต้องใช้เวลาพอๆ หรือมากกว่าเราที่จะมีคนที่รักเขาจริง
แต่กลับน่าสงสารพวกเขาซะอีก
พวกเขาต้องเสียใจ เสียเวลา เสียความรู้มาอีกสักกี่ครั้ง
กว่าที่พวกเขาจะเจอคนที่รักเขาจริง
เหมือนกับคำที่มักจะได้ยินกันจนชินหูที่ว่า
“ความจริงใจ เพื่อนแท้ คู่แท้ มักจะมาตอนที่เราถึงจุดต่ำสุด”
ถ้าเป็นไปได้อย่างนี้..
คุณจะไม่เสียใจกับอดีตที่ผ่านมา
อาจจะพลาดบ้าง เสียเวลาไปบ้าง
แต่มันจะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณเข้าใจโลกมากขึ้น
อย่าเอาอดีตมาซ้ำเติมตัวเอง
นำอดีตนั้นมาเป็นเครื่องช่วยเตือน หรือเป็นบทเรียน
เพื่อที่จะให้เราไม่ทำสิ่งนั้นพลาดเป็นครั้งที่สองอีกดีกว่า
พลาดได้ค่ะ…แต่ขอให้มันเป็นบทที่ 2 พยายามอย่ากลับไปพลาดในบทที่ 1 อีก
ดำเนินชีวิตต่อไปเพื่อตัวคุณเองและคนที่คุณรัก และคนที่รักคุณดีกว่านะ
อดีตเป็นตัวขับเคลื่อนปัจจุบัน และส่งผลไปยังอนาคต
อนาคตจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่า..
วันนี้คุณทำอะไร วันนี้จะเป็นอย่างไร
วันนี้คุณได้ทำสิ่งต่างๆนั้นอย่างไร และผลลัพธ์นั้นคุณอยากจะให้เป็นเช่นไร
อนาคต เราไม่สามารถรู้ได้ ไม่อยากให้ขายฝัน
อยากให้คิดซะว่า…
ปัจจุบันนี้ วันนี้คือ “วันพิเศษ” ที่เป็น “ของขวัญ” สำหรับเรา
ไม่งั้นเขาจะเรียก ปัจจุบันว่า “Present” กันทำไมล่ะ
จริงมั้ย??? ^_____^
ขอบคุณวันนี้ค่ะ