ทดสอบๆ มือหนึ่งมือใดจับหน้าท้อง สังเกตซิว่า ... เมื่อคุณหายใจเข้าหน้าท้องพองหรือหน้าท้องยุบ ใครหน้าท้องยุบ.. เชิญทางนี้ ณ ทุกวันนี้คุณได้หายใจผิดธรรมชาติมาตลอด หรืออาจกล่าวได้ว่าหายใจผิดมาตลอดชั่วอายุเลยก็ว่าได้
สังเกตไหม การหายใจเข้าแล้วหน้าท้องยุบ คุณจะมีอาการเหนื่อยมากกว่าคนปกติ หายใจไม่โล่ง ลมหายใจจะเร็ว สั้น บางทีใจสั่นบ่อยๆ จนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโรคปอดหรือโรคหัวใจได้ ยิ่งโดยเฉพาะเวลาเครียด จะยิ่งหายใจถี่และตื้นมากขึ้นกว่าเดิม เกิดอาการคล้ายถอนหายใจเป็นระยะๆ เพื่อให้ออกซิเจนมากขึ้น การได้ออกซิเจนที่มากขึ้นตรงนี้แหละที่สำคัญ เพราะออกซิเจนเป็นตัวทำให้สมองแจ่มใส หัวใจเต้นช้าลง และถ้าทำได้โดยหายใจออกอย่างช้าๆ ก็จะเป็นตัวปลดปล่อยความเครียดออกจากตัวไปได้จนหมดสิ้น
การหายใจจึงไม่ใช่เรื่องที่จะปล่อยให้ผ่านไปได้ง่ายๆ อีกต่อไป ลองนึกภาพให้ชัดเจนขึ้น สมมติหรือจินตนาการว่าท้องเป็นลูกโป่ง เมื่อหายใจเข้า ลมก็เข้ามาในลูกโป่ง ลูกโป่งก็พองออก ออกซิเจนก็เพิ่มมากขึ้นๆ ยิ่งหน้าท้องพองออกมากเท่าไหร่ ออกซิเจนที่เข้าไปแลกเปลี่ยนก๊าซที่ปอดก็มากขึ้นเท่านั้น และถ้าให้ออกซิเจนแลกเปลี่ยนก๊าซได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ต้องกลั้นลมหายใจไว้สักครู่ก่อนผ่อนลมหายใจออกช้าๆ ให้หน้าท้องค่อยๆ ยุบลง ลูกโป่งก็จะแฟบลง
คราวนี้ลองหาที่นั่งหรือที่นอนให้สบาย หลับตาเอามือประสานกันไว้บริเวณหน้าท้อง ค่อยๆ หายใจเข้าพร้อมๆ กับนับเลข 1 ถึง 4 เป็นจังหวะอย่างช้าๆ 1...2...3...4 ให้รู้สึกว่าท้องพองออกกลั้นหายใจไว้สักครู่ ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ โดยนับ 1 ถึง 8 อย่างช้าๆ 1...2...3...4...5...6...7...8 พยายามไล่ลมหายใจออกให้หมด ให้สังเกตุว่าหน้าท้องแฟบลง ทำซ้ำอีก โดยหายใจเข้าช้าๆ กลั้นไว้แล้วหายใจออก ทุกครั้งที่หายใจออกให้รู้สึกว่าผลักดันความเครียดออกมาด้วยจนหมด เหลือไว้แต่ความรู้สึกโล่งสบายเท่านั้น ขอเน้นและย้ำ ช่วงที่หายใจออกต้องให้ยาวนานกว่าช่วงหายใจเข้า
สำหรับคนที่เริ่มฝึก ขอแนะว่าควรฝึกโดยทำติดต่อกันประมาณ 4-5 ครั้ง ในแต่ละวัน จะทำในช่วงเวลาใดก้ได้ เช้าตรู่ก่อนลุกจากเตียง ขณะรถติดไม่รู้จะทำอะไร หรือทุกครั้งที่เครียด ถ้าเป็นไปได้ทุกครั้งที่นึกได้ ให้บ่อยที่สุด นาทีนี้อยู่ที่คุณแล้วว่าจะพิสูจน์หรือไม่ ... ใจจะเย็นลง สมาธิ ความจำและการคิดแก้ไขปัญหาต่างๆ จะทำให้ดีขึ้น ความดันโลหิตลดลง กล้ามเนื้อคลายตัว ไม่เครียด ....