เราต้องรู้ก่อนว่า
พ่อ คือ ผู้บังเกิดเกล้า
แม่ คือ ผู้ให้กำเนิด
ลูก คือ เลือดเนื้อเชื้อไขของพ่อแม่
แม่คือใคร ? ขี้ข้า ! หรือนายทุน !
ที่ได้ชื่อว่า พ่อ แม่ เพราะ . . .
สุหทา มาตา มารดาเป็นผู้มีใจดี
ชนยนฺตี มาตา มารดาเป็นผู้ให้เกิด
โปเสนฺติ มาตา มารดาเป็นผู้เลี้ยงดู
โคเปนฺติ มาตา มารดาเป็นผู้คุ้มครองรักษา
วิหญฺญติ มาตา มารดาเป็นผู้เดือดร้อนเป็นห่วงใย
อนฺกมฺปกา ปติฏฐา จ ปุพฺเพ รสทที
จ โนมคฺโค สคฺคสฺสโลกสฺส
มารดาเป็นผู้เอ็นดู เป็นที่พึ่ง เป็นผู้ให้รส
แม่เปรียบเหมือน
พรหมของลูก เพราะมีพรหมวิหาร ๔
บูรพาจารย์ เพราะเป็นครูสอนลูกคนแรก
เทวดา เพราะคอยปกปักรักษาลูก
อาหุเนยยบุคคล เพราะท่านทำดังกล่าวมาแล้ว ลูกจึงควรบูชา
หน้าที่ของพ่อแม่
- ห้ามไม่ให้ลูกทำความชั่ว
- สอนให้ลูกตั้งอยู่ในความดี
- ให้ศึกษาศิลปวิทยา
- มอบทรัพย์สมบัติให้ในสมัยที่สมควร
คุณธรรมของพ่อแม่
คุณธรรมชั้นต่ำ ทำให้ลูกเกิด
คุณธรรมชั้นกลาง เลี้ยงดูลูกให้โต
คุณธรรมชั้นสูง เลี้ยงดูลูกให้เป็นคนดี
ลูกคือใคร ? คนใช้ ! หรือเจ้านาย !
ที่จริงแล้ว
ลูก คือ แก้วตาดวงใจของพ่อแม่
ลูก คือ ความอบอุ่นของพ่อแม่
ลูก คือ ความหวังของพ่อแม่
ลูก คือ กำลังใจของพ่อแม่
ลูก คือ อนาคตของพ่อแม่
ลูกมี ๓ ประเภท คือ
อวชาตบุตร บุตรที่มีฐานะและคุณธรรม ต่ำกว่า พ่อแม่
อนุชาตบุตร บุตรที่มีฐานะและคุณธรรม เท่า พ่อแม่
อภิชาตบุตร บุตรที่มีฐานะและคุณธรรม สูงกว่า พ่อแม่
หน้าที่ของลูก
- ท่านเลี้ยงเรามา เราต้องเลี้ยงท่านตอบ
- ช่วยทำกิจของท่าน
- ดำรงวงศ์ตระกูล
- ทำตนให้สมควรรับทรัพย์มรดก
- เมื่อท่านล่วงลับไปแล้วทำบุญอุทิศไปให้
เด็กดี ๕ จำพวก
๑. เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่
๒. เป็นศิษย์ที่ดีของครูอาจารย์
๓. เป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน
๔. เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ
๕. เป็นสาวกที่ดีของพระศาสดา
อานิสงฆ์การมีความกตัญญู
๑. ทำให้รักษาคุณความดีเดิมไว้ได้
๒. ทำให้สร้างคุณความดีใหม่เพิ่มได้อีก
๓. ทำให้เกิดหิริโอตตัปปะ
๔. ทำให้เกิดขันติ
๕. ทำให้จิตใจผ่องใส มองโลกในแง่ดี
๖. ทำให้เป็นคนน่ารัก น่าเอ็นดู
๗. ทำให้ทั้งมนุษย์และเทวดาอยากช่วยเหลือ
๘. ทำให้เป็นที่สรรเสริญของบัณฑิต
๙. ทำให้เป็นที่น่าคบหาของคนดี
๑๐. ทำให้บรรลุมรรค ผล นิพพาน ได้โดยง่าย
สำนึกถึง "วันเกิด"
งานวันเกิด ยิ่งใหญ่ ใครคนนั้น
ฉลองกัน ในกลุ่ม ผู้ลุ่มหลง
หลงลาภยศ สรรเสริญ เพลินทะนง
วันเกิดส่ง ชีพสั้น เร่งวันตาย
อีกมุมหนึ่ง ซึ่งเหงา น่าเศร้าแท้
หญิงแก่ ๆ นั้นหงอย และคอยหาย
โอ้ . . วันนั้น เป็นวัน อันตราย
แม่คลอดสาย โลหิต แทบปลิดชนม์
วันเกิดลูก เกือบคล้าย วันตายแม่
เจ็บท้องแท้ เท่าไหร่ มิได้บ่น
กว่าอุ้มท้อง กว่าจะคลอด รอดเป็นคน
เติบโตจน บัดนี้ นี่เพราะใคร
แม่เจ็บเจียน ขาดใจ ในวันนั้น
กลับเป็นวัน ลูกฉลอง กันผ่องใส
ได้ชีวิต แล้วก็หลง ระเริงใจ
ลืมผู้ให้ ชีวิต อนิจจา
ไฉนจึง เรียกกัน ว่า "วันเกิด"
วันผู้ให้ กำเนิด จะถูกกว่า
คำอวยพร ที่เขียน ควรเปลี่ยนมา
ให้มารดา คุณเป็นสุข จึงถูกแท้
เลิกจัดงาน วันเกิด กันเถิดนะ
ควรที่จะ คุกเข่า กราบเท้าแม่
ระลึกถึง พระคุณ อบอุ่นแท้
อย่ามัวแต่ จัดงาน ประจานตัว
การถนอมดวงใจแม่ ๑๐ ประการ
ลูกที่ดีมีหัวใจแบ่งให้แม่ ต้องดูแลเลี้ยงดูชูใจท่าน
เพียงแต่ลูกถามไถ่ให้ชื่นบาน ด้วยคำหวานก็แสนสุดสบายใจ
ต้องรักษาความดีไม่มีพร่อง และยังต้องเพิ่มความดีที่สดใส
มีหิริโอตตัปปะชนะภัย รู้สึกความละอายในสิ่งทราม
ต้องรู้จักอดกลั้นและอดทน ต้องเป็นคนจิตผ่องใสไม่เกรงขาม
ต้องน่ารักน่าเอ็นดูทุกโมงยาม เป็นคนงามทั้งกิริยาและน้ำใจ
ทั้งมนุษย์เทวดาอยากช่วยเหลือ อยากจุนเจือให้เป็นสุขทุกสมัย
ทั้งบัณฑิตสรรเสริญเจริญใจ อยู่แห่งใดใครก็อยากผูกสัมพันธ์
ผลสุดท้ายอาจได้ถึงมรรคผล บรรลุจนนิพพานเมื่อดับขันธ์
จบคุณงามความดีที่รำพัน ได้ช่วยกันสรรเสริญลูกคนดี
"ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง"
พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จำจากเจ้าไม่อยู่นาน
จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววารของคืนวัน
ใจจริงไม่อยากจาก เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน
แต่ชีพมิทนทาน ย่อมร้าวรานสลายไป
ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ
คนแก่ชะแรวัย คิดเผลอไผลเป็นแน่นอน
ไม่รักก็ไม่ว่า เพียงเมตตาและอาทร
ให้กินและให้นอน คลายทุกข์ผ่อนพอสุขใจ
เมื่อยามเจ้าโกรธขึ้ง ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย
ร้องไห้ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน
เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ย่อมทน
หวังเพียงจะได้ยล เติบโตจนสง่างาม
ขอโทษถ้าทำผิด ขอให้คิดทุกทุกยาม
ใจแท้มีแต่ความ หวังติดตามช่วยอวยชัย
ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง มีหรือหวังอยู่นานได้
วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง
นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา
ความเป็นผู้รู้จักบุญคุณของทุกสิ่ง และทำตอบแทน
เป็นนิมิตเครื่องหมายของคนดี