โดย ฐาปน คำทา Team Content www.thaihealth.or.th
"ฤดูฝนเป็นเรื่องธรรมดา ฤดูน้ำตา ก็เช่นกัน" คำคมจาก...นิ้วกลม ซึมลึกบาดใจผู้อ่าน และดูเหมือนว่า ทุกครั้งที่หยาดฝนรวยรินมักมาพร้อมอารมณ์คุกรุ่นไปด้วยความโศกาอาดูร...
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องดราม่าที่มากับหน้าฝน เชื่อว่าลำดับต้น ๆ ที่หลายคนพูดถึงคือ รถติด โดยเฉพาะชาวกรุงที่ต้องเผชิญกับการเดินทางไปทำงานย่านธุรกิจใจกลางเมือง
เพราะลำพังฝนไม่ตก รถก็ติดมากจนทำให้สุขภาพจิตเสียไปตาม ๆ กัน ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง มองโลกในแง่ร้าย หงุดหงิดง่าย ไปจนถึงขับถ่ายไม่คล่อง ฯลฯ
เพราะมนุษย์ไม่ใช่หุ่นยนต์ เรื่องสุขภาพใจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดูแล
นพ.ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล นายแพทย์ทรงคุณวุฒิกรมสุขภาพจิต และผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมสุขภาพจิตเพื่อสุขภาวะสังคมไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แนะนำวิธีรับมือในภาวะกดดันในเวลาฝนตกรถติด ว่า ฝนตก รถติด ตัวเปียก คนเบียดเสียดกันในรถประจำทาง เป็นสภาพภายนอกที่ไม่สบายตัว
นอกจากนี้ บางคนยังต้องทนอยู่กับความหิวข้าว หิวน้ำ ปวดปัสสาวะ แต่ต้องติดอยู่บนถนนไปไหนไม่ได้ ซึ่งทั้งหมดเป็นความเครียดทางร่างกาย ปัญหาเรื่องหิวน้ำ ปวดปัสสาวะ ควรหาทางแก้ไขให้รู้สึกสบายตัวขึ้น แต่เรื่องรถติด ตัวเปียก อาจต้องอยู่ที่การรู้จักทำใจ
โดยทั่วไปความไม่สบายทางกายจะกระทบใจมากน้อยเพียงใดขึ้นกับแต่ละคน บางคนเครียดง่ายในสภาวะเช่นนี้ บางคนก็รู้วิธีทำใจยอมรับกับสภาพที่เป็นอยู่ เรื่องนี้เป็นทักษะที่ฝึกฝนได้ว่าจะทำอย่างไร ให้เราไม่ต้องเครียดทางใจในเวลาที่เรากำลังพบกับความเครียดทางกาย
เทคนิคที่คนใช้กันส่วนใหญ่จะเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ หาอะไรเพลิน ๆ ทำ เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือแชทกับเพื่อน อีกวิธีการง่าย ๆ ที่อยากแนะนำ คือ ฝึกหายใจคลายเครียด เพื่อให้ร่างกายกับจิตใจสัมพันธ์กัน โดยหายใจออกให้ยาวกว่าหายใจเข้า หรือการใช้วิธีหายใจเข้าให้สุดออกให้สุด ซึ่งจะช่วยให้เราอยู่กับสภาพไม่สบายทางกายได้ด้วยความผ่อนคลายมากขึ้น