แคสเปอร์สกี้ เตือน!! เช็กอินโลกโซเชี่ยลเสี่ยงอันตราย เหตุเปิดเผยข้อมูลมากไป

เทรนด์ยอดฮิตอีกหนึ่งอย่างในโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กคือ การเช็กอินใน Facebook, Google+, Foursquare และอื่น ๆ อีกมากหน้าหลายตา เพื่ออัพเดตให้เพื่อน ๆ ในโซเชี่ยลรู้ความเป็นไปว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ที่ไหน ฟังดูแล้วเป็นเรื่องสนุกสนาน แต่แท้จริงแล้ว การเปิดเผยข้อมูลสถานที่อยู่ของเราทำให้เกิดเหตุอันตรายร้ายแรงได้

การติดต่อสื่อสารในเฟซบุ๊ก และโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กอื่น ๆ กลายเป็นเรื่องคุยโม้โอ้อวด มากกว่าเพื่อสานความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนกันซะอีก ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดตว่า “ดูรถใหม่ฉันสิ” “ฉันเพิ่งวิ่งมาราธอนมาล่ะ” “ไปทำงานที่โตเกียวอีกแล้ว” ตามด้วยภาพประกอบหรือวิดีโอ และจะยิ่งตื่นตาตื่นใจมากขึ้น เมื่อเช็กอินด้วยสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตประกอบเรื่องด้วย จริง ๆ แล้ว คุณสามารถบอกเพื่อนได้ว่าไปกินอาหารหรูในภัตตาคาร ไปดูฟุตบอลแมตช์สำคัญ หรือเพิ่งถอยรถใหม่ แต่จะต้องไม่ลืมคำนึงเรื่องความปลอดภัยเด็ดขาด!

เรารู้ว่าคุณอยู่ไหน

เมื่อคุณเช็กอินหรืออัพโหลดรูปโดยติดข้อมูลสถานที่ไปด้วย เพื่อน ๆ ในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กก็จะเห็นข้อมูลนี้ด้วย เคยมีเหตุการณ์เช็กอินในเฟซบุ๊กว่าออกไปเที่ยว ไม่อยู่บ้าน ปรากฏว่าบ้านตัวเองถูกโจรงัดเข้าไปขโมยของ 

กรณีการเปิดเผยข้อมูลเช็กอินสู่สาธารณะนี้ ได้รับการหยิบยกมาเล่าในเว็บไซต์ Please Rob Me http://pleaserobme.com เพื่อเป็นตัวอย่างของอันตรายที่เกิดขึ้นด้วย แต่ก็ไม่ทำให้การเช็กอินลดน้อยลง ถ้าอยากทราบว่าที่ผ่านมา เราเปิดเผยข้อมูลสาธารณะนี้มากน้อยแค่ไหน ให้ลองพิมพ์แอคเคาท์ Twitter ลงในเว็บไซต์ Please Rob Me

อันตรายของการเช็กอินอยู่ที่การลิ้งค์ข้อมูลไปยังเว็บเซอร์วิสต่าง ๆ ที่อยู่คุณอาจจะไปโผล่ที่หน้าเว็บไซต์ใดก็ได้ จากนั้นก็ดูรายละเอียดจาก Google Map ว่า คุณอยู่ที่ย่านใด เป็นชุมชนพลุกพล่าน หรือปลอดคน พวกมิจฉาชีพจะโทรศัพท์เข้าบ้านเพื่อเช็กว่ามีคนอยู่บ้านหรือไม่ก่อนงัดแงะเข้าไป นอกจากนี้ยังอาจเช็กข้อมูลอื่น ๆ จากเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ หรือบล็อก ว่าเร็ว ๆ นี้คุณได้ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่หรือเปล่า ซื้อโน๊ตบุ๊ค โทรทัศน์หรือไม่ ซึ่งข้อมูลและรูปภาพที่คุณโพสต์อัพเดตลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก คือ คำเชื้อเชิญมิจฉาชีพนั่นเอง      

การเช็กอินที่ปลอดภัย

การเช็กอินนับเป็นการเปิดเผยข้อมูลที่อันตราย แม้ว่าคุณจะเลือกอ็อบชั่นว่า เฉพาะเพื่อนเท่านั้นที่จะเห็นข้อมูลนี้ (friends only) และไม่เปิดเผยสู่สาธารณะ (public) ก็ตาม แต่ถ้าเว็บเซอร์วิสทั้งหลายเกิดขัดข้อง คนอื่น ๆ ก็อาจเห็นข้อมูลเช็กอินของคุณได้ จิมมี่ ฟง ผู้อำนวยการฝ่ายช่องทางการขายแคสเปอร์สกี้ แลป ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีวิธีที่ปลอดภัยนั่นคือ หยุดอัพเดตข้อมูลที่มากเกินความจำเป็น เช่น ชื่อนามสกุลจริง ที่อยู่ ที่ทำงาน เบอร์โทรศัพท์ และจำเป็นต้องมีแอพพลิเคชั่นความปลอดภัยสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เพื่อป้องกันกรณีดีไวซ์หาย หรือถูกขโมย ข้อมูลส่วนตัวในดีไวซ์ก็จะไม่ถูกเปิดเผย พร้อมป้องกันมัลแวร์ที่จะมาล้วงข้อมูล และพาสเวิร์ดจากดีไวซ์อีกด้วย”