ความขี้เกียจ สร้างปัญหาให้แก่ดวงตาทว่าดวงตาจะเป็นหน้าตาของหัวใจ…หากคุณไม่ดูแลรักษาดวงตาให้ดีอาจจะก่อให้เกิดความรำคาญใจได้เช่นกัน ทราบหรือไม่ว่าลักษณะการใช้ชีวิตของคุณที่อาจจะปฏิบัติต่อเนื่องจนกลายเป็นความเคยชิน จะส่งผลก่อให้เกิดปัญหาทางสายตาได้
การใช้สายตาไปกับกิจกรรมต่างๆเช่น นอนอ่านหนังสือ , เพ่งมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ , นอนดูโทรทัศน์ , ปิดไฟแล้วเปิดคอมพิวเตอร์และโทรทัศน์ใช้งาน และอีกหลากหลายพฤติกรรม ที่คุณมองข้ามไป กำลังส่งสัญญาณว่าคุณกำลังตกอยู่ในอันตราย มีข้อมูลระบุว่าพฤติกรรมเหล่านี้ ทำให้คนไทยกว่า 15 ล้านคน มีปัญหาทางสายตาโดยที่คุณเองไม่รู้ตัว ซึ่งโรคที่เกิดจากสายตาที่พบเห็นทั่วไปเช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง ซึ่งอาจเกิดจากโรคทางพันธุกรรม หรือโรคทางสายตาอื่นๆ การฝืนใช้สายตาเพ่งมองติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้กล้ามเนื้อตาล้า ตาแดง ตาแห้ง น้ำตาไหล หนักเข้าอาจจะทำให้เกิดโรคจอประสาทตาได้ การเพ่งเล็งวัตถุขนาดเล็ก และหากเป็นสายตาสั้นระยะนานโดยไม่รู้ตัวอาจจะเกิดโรคต้อหิน
ข้อควรปฏิบัติในกิจวัตรประจำวัตร เพื่อถนอมดวงตาให้สามารถใช้งานได้ระยะยาว คือ การเลิกพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อดวงตา เช่น เปลี่ยนจากการนอนอ่านหนังสือ เป็นการนั่งบนโต๊ะในท่าทางที่ถูกต้อง , ผู้ที่นั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก็ควรนั่งในท่าทางที่เหมาะสม ไม่เพ่งมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ในระยะใกล้จนเกินไป และปรับแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้เป็นแสงในสภาพปกติ ไม่มืดหรือสว่างมากจนเกินไป , หลายคนอาจจะคิดว่าการปิดไฟดูโทรทัศน์อาจจะช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าได้ แต่ส่งผลกระทบต่อดวงตาของคุณได้เช่นกัน , ระวังอุบัติเหตุที่มีโอกาสเกิดได้ทั้งในที่ทำงานและที่บ้าน , สวมแว่นกันแดดทุกครั้งที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง เนื่องจากแสงแดดในปัจจุบันส่งผลอันตรายต่อดวงตาคุณได้ง่าย
หากคุณเมื่อยล้าจากการใช้สายตามาทั้งวัน เนื่องจากกล้ามเนื้อดวงตาประกอบด้วยการบริหารกล้ามเนื้อเล็กๆ ที่อยู่รอบๆ ดวงตา การบริหารกล้ามเนื้อดวงตาจะช่วยให้ดวงตาได้ผ่อนคลายและยังเป็นการฝึกการเคลื่อไหวของดวงตาให้เกิดความสัมพันธ์กับสมองอีกด้วย
- ลองใช้มือปิดตาข้างหนึ่ง และใช้ตาที่เหลือจ้องมองที่วัตถุที่ต่างๆ ใกล้ ไกล เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
- เปิดตาสองข้าง มือถือปลายดินสอหรือปากกายืดออกเท่าความยาวช่วงแขน บังคับดวงตาให้จ้องมองที่ปลายปากกาโดยให้เห็นเป็นจุดๆเดียว แล้วค่อยๆเคลื่อนปลายปากกาเข้าใกล้ดวงตาขึ้นอย่างช้าๆ ในขณะเดียวกัน บังคับให้ดวงตาทั้งสองข้างมองตามมาและให้เห็นเป็นจุดเดียว ไม่ให้เกิดเป็นภาพซ้อนจนใกล้ดวงตามากที่สุด ทำเช่นนี้อย่างน้อย 10-20 ครั้งเป็นประจำทุกวัน เป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อในการมองใกล้ และช่วยให้ดวงตาตรงไม่เขออก
นอกจากข้อปฏิบัติข้างต้นแล้ว การดูแลจากภายในสู่ภายนอก ด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าต่อดวงตา และช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากดวงตาได้
- อาหารในกลุ่มที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ในอาหารเสริม เช่น วิตามินซี วันละ 500 มิลลิกรัม , วิตะมินอี วันละ 400 IU , เบตาแคโรทีน วันละ 15 มิลลิกรัม , สังกะสี (zinc oxide) วันละ 500 มิลลิกรัม , ไบโอฟลาโวนอยด์ (bioflavonoid) เพื่อป้องกันโรคจอตาเสื่อม โรคต้อกระจก และยังช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน โรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน
- กรดไขมันชนิด Omega 3 เช่น ปลาแซลมอน แมคเคอเรล ซาร์ดีน ซึ่งควรรับประทานอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้งช่วยรักษาอาการตาแห้ง และโรคหัวใจ หลอดเลือด ไขมันสูง ความดันโลหิตสูง และป้องกันมะเร็งหลายชนิด เนื่องจากเป็นต้นกำเนิดของกรดไขมันอิสระสองชนิดคือ EPA และ DHA ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
- สาร lutein และ zeaxanthin เป็นกลุ่มแคโรทีนอยด์ซึ่งทำให้พืชมีสีเหลือง สารเหล่านี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคต้อกระจก และโดยเฉพาะโรคจอตาเสื่อมไม่เพียงป้องกันเท่านั้น แต่สามารถรักษาได้ด้วย สารเหล่านี้มีมากในผักใบเขียว ควรได้รับ lutein 20 มิลลิกรัมต่อวัน และ zeaxanthin 6-10 20 มิลลิกรัมต่อวัน หรือสามารถรับประทานเป็นเม็ดเสริมได้
เพียงแค่คุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของคุณจากเดิมเล็กน้อย ก็จะสามารถถนอมดวงตาของคุณให้ยาวนานได้…