ผู้หญิงสมัยสิทธิสตรีเบ่งบานอย่างเราทำอะไรเท่าเทียมกับผู้ชายเกือบทุกอย่าง แล้วทำไมจะเป็นฝ่ายสารภาพรักก่อนบ้างไม่ได้ แต่เคยมีใครบอกคุณหรือยังว่าถ้าจะบอกรักให้คูลน่ะ ต้องทำยังไง
1. เขาคิดกับเราแบบไหน
การทำตัวเป็นเจ๊สั่งลุยทะเล่อทะเล่อเข้าไปบอกรักโดยไม่เช็คเรทติ้งตัวเองเสียก่อนว่าหมอนี่คิดกับเราประมาณไหน เป็นการเสี่ยงตายที่หน่วยสวาทไม่ขอแนะนำ ก่อนจะปลดปล่อยความลับคับอกออกมาให้เขารู้ คุณจึงควรจะวัดปริมาณน้ำตาลในเลือดของเขาก่อนว่าเวลา อยู่ใกล้ๆ คุณเขามีอาการโรแมนติกแค่ไหน เขินอาย หน้าแดง แต่งหล่อ พูดจาตะกุกตะกักทำอะไรทำนองนี้มีบ้างไหม ถ้ามีมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไปก็แน่ใจได้เลยว่า ตานี่เสร็จคุณแล้ว แต่ถ้าคุณทั้งเบียดทั้งกระแซะจนแทบจะขึ้นไปเกยตื่นอยู่บนตัก เขาก็ยังนั่งแข็งทื่อ ควรจะคิดดูใหม่ เพราะโอกาสลุ้นรักมีน้อยถึงน้อยมาก แต่โอกาสเสียเพื่อนน่ะมีสูง
2. โอกาสเป็นใจ
ไม่ต้องถึงกับออกแรงฉุดเขาไปขังบนเกาะร้างเพื่อสร้างโอกาสทองหรอกน่ะแม่คุณ แต่อย่างน้อยก็ควรจะมองทิศทางลมเสียหน่อยว่าเขากำลังทำอะไร อยู่ในอารมณ์ไหนถ้าพี่เขากำลังจกหมูปิ้งปากมันก็ปล่อยเขาไว้ที่ชอบๆ ไปก่อน ไหนๆ จะสารภาพรักทั้งทีก็ควรจะเซ็ตบรรยากาศให้มันร่มเย็นเป็นสุขน่าอินเลิฟหน่อย เช่นอาจจะชวนเขาเดินเล่นในสวนสวยตอนพระอาทิตย์ตกดิน หรือไปกินลมชมวิวทะเลกันสองต่อสองแล้วค่อยจู่โจม ถึงลุคส์คุณจะไม่เซ็กซี่ขยี้ใจชาย แต่ถ้าได้บรรยากาศดีๆ เป็นตัวช่วย อะไรๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
3. บอกกันซึ่งหน้า
ในฐานะที่คุณเป็นลูกผู้หญิง หนุ่มๆ เขาคงไม่ถือสาอะไรมากนักถ้าคุณจะบอกรักทางโทรศัพท์ เพราะจะให้มาบอกกันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน หญิงไทยหัวใจแพนด้าอย่างเราก็อาจจะเขิน แต่ถ้าจะเอาให้ชัวร์ๆ ว่าพี่เขาเข้าใจในสิ่งที่คุณพูด ไม่ได้รับปากเพราะเมาโอเลี้ยงหรือให้คนขับรถมาคุยโทรศัพท์แทน สาวๆ ก็ควรจะบอกกันตัวต่อตัวไปเลย ขั้นแรกก็เริ่มจากการเกริ่นนำเล็กๆ น้อยๆ พอให้เขารู้ตัวว่าสิ่งที่คุณกำลังจะพูดไม่ใช่เรื่องไก่กาอาราเล่ แต่มันเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตลูกผู้หญิง แล้วค่อยเข้าประเด็นหลัก เช่น “เราเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้วเธอจำได้ไหม” “อยากมีแฟนแบบที่เข้าใจเรา คุยกันได้ทุกเรื่องแบบเธอนี่ล่ะ” … ไม่ว่าคุณจะเกริ่นอะไรก็แล้วแต่ ขอย้ำว่าควรเป็นไปในทำนองยกย่องชมเชยและชเลียพี่เขาเข้าไว้ เพราะถ้าเขามันชั่ว เขามันไอ้ตัวทำโลกร้อน คุณคงไม่บากหน้ามาขอเป็นแฟนหรอกน่า จริงมั้ย
4. โนดราม่าควีน
เก็บอารมณ์นางพญาดราม่าควีนของคุณไว้กำเริบในโอกาสหน้า อย่าปล่อยให้หลุดออกมาเพ่นพ่านเป็นอันขาด เพราะการพูดจาแบบโอเวอร์แอ็คเกินร้อย ใส่อารมณ์เกินจริง มันน่าขนพองสยองเกล้ามากกว่าจะน่าเอ็นดู ตัวอย่างเช่น “หลังจากผ่านความรักมาร่วมๆ สิบแปดครั้ง พบแต่ความหลอกลวงจนเกือบจะสิ้นหวังซะแล้ว ฉันก็พบว่าโลกนี้ยังมีผู้ชายดีๆ เหลืออยู่อีกคน และเขาคนนั้น …(ช้อนสายตาขึ้นมองเหยื่อ) .. ก็คือเธอนั่นเอง” , “คุณแม่ของฉันกำลังนอนรอความตายอยู่ในโรงพยาบาล ความหวังครั้งสุดท้ายของท่านก็คือการได้เห็นลูกสาวท่านมีคนมาดูแล …และฉันก็ไม่เห็นว่ารอบๆ ตัวจะมีใครที่พร้อมจะเดินเคียงข้างฉันตลอดไป นอกจากเธอเท่านั้น” เอ่อ … ก่อนออกจากบ้านพกกระโถนมาสักใบก็ดีนะ พี่เขาต้องการใช้มาก
5. ไม่ห้าวเกินงาม
“เพื่อน กรูรัก...ว่ะ” , “เฮ้ย! มาเป็นแฟนกันดีป่ะ แต่ไม่ต้องซีเรียสนะ ..แค่ขำขำ” อวัจนะภาษาประมาณนี่เป็นสูตรสำเร็จที่หญิงเหล็กทั้งหลายชอบใช้ ซึ่งในเวลาปกติเพื่อนก็คงฟังได้ชิลๆ แต่สำหรับสถานการณ์ที่ต้องการความหวานเป็นพิเศษอย่างนี้ มันจะดูโรแมนติกกว่ากันมากถ้าคุณจะหยุดหยาบคายสักวัน แล้วเปลี่ยนมาพูดจาแบบที่ผู้หญิงธรรมเขาพูดกัน ไม่จำเป็นว่าคุณต้องแอ๊บแบ๊วทำหน้าแป๋วแหวว แต่แค่ลดความแรงของคำพูดลงมาหน่อย คงไม่ถึงกับปวดหัวตัวร้อนประจำเดือนไม่ปกติหรอกมั้ง อย่าลืมว่าผู้ชายทุกคนอยากได้แฟนที่เป็นผู้หญิง ฉะนั้นไม่ต้องแอ็คแมนแข่งกับพี่เขามากนัก
6. เขินอายสไตล์หญิง
เสน่ห์อย่างหนึ่งของผู้หญิงที่เก้งกวางชะนีไม่มีก็คือยางอาย เพราะเป็นประดิษฐกรรมทางธรรมชาติที่จะกี่ยันฮีหรือประตูน้ำก็ไม่สามารถปะผุโป๊วฉาบให้ได้ เวลาสารภาพรักสาวๆ ทั้งหลายจึงควรจะเอายางอายออกมาใช้เสียบ้าง ถึงในชีวิตคุณผ่านการสารภาพรักมาเป็นร้อย แต่ก็ไม่เสียหายหรอกที่จะทำเป็นเขินอายนิดๆ หน่อยๆ ให้สมกับเป็นลูกผู้หญิง หนุ่มๆ เขาจะได้มีแก่ใจเพ้อเจ้อได้ว่าเขาคงจะเป็นรักครั้งแรกๆ ของคุณ แบบว่ามันเป็นการเพิ่มมูลค่าให้สินค้าไปในตัว
7. อย่าเร่งรัดคำตอบ
ขอความรักนะหล่อน ไม่ใช่เอามือถือไปซ่อม ไม่ต้องไปกำหนดหรอกว่าเธอจะต้องตอบฉันภายในวันเสาร์นี้ เวลาบ่ายโมง เรื่องแบบนี้ต้องให้เวลาผู้เสียหายเขาได้บวกลบคูณหารก่อนว่ารู้สึกอย่างไรกับคุณ และถ้ามาคบกันแล้วจะมีผลกระทบกับชีวิตและเรทติ้งของเขาไหม เพราะคุณอาจจะคิดว่าเขาดีพอสำหรับคุณแล้ว แต่เขาล่ะคิดว่าคุณดีพอสำหรับเขาด้วยหรือเปล่า ทางที่ดีคุณจึงควรจะทิ้งท้ายแบบไม่เร่งรัดว่า “ลองเอาไปคิดดูนะ แล้วพร้อมจะตอบเมื่อไรก็บอกมา” เห็นมั้ย .. ฟังดูเป็นหญิงใจกว้างไม่ชอบบังคับใครดีจัง (แม้ที่จริงคุณจะเป็นยายบ้าอำนาจจอมซาดิสม์ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเปิดเผยตัวจริง)
8. ให้โอกาสเขาปฏิเสธ
ไม่จำเป็นว่าบอกรักแล้วจะได้ความรักกลับมาเสมอไป ถึงแม้คุณจะมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเขาก็รักคุณเหมือนกัน แต่ขนาดแห้วยังกลายเป็นสมหวังได้ซะงั้น แล้วทำไมใจผู้ชายจะเปลี่ยนไม่ได้ เพราะฉะนั้นตอนสารภาพรักคุณจึงควรจะแง้มๆ ประตูไว้หน่อยว่า ถึงแม้เขาจะเซย์โน แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ ไม่ใช่ร้องห่มร้องไห้ ถ้าเธอไม่รักฉันจะกินไก่ให้เป็นไข้หวัดนกตายตรงนี้ล่ะ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
