เขาจะมีใจให้หรือเปล่า เราจะคิดตรงกันไหม แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาแอบชอบเราจริง หรือแค่กิ๊กเพื่อฆ่าเวลา ลองสำรวจเคล็ดลับเหล่านี้เพื่อพลิกสถานการณ์ให้เป็นโอกาสอย่างที่ต้องการ ไม่แน่ว่าโจทย์สมการรักครั้งนี้อาจลงตัวก็ได้
จำได้ไหมว่าตัวเองตกหลุมรักครั้งแรกตั้งแต่เมื่อไหร่ บางคนอาจเป็นสมัยอายุ 15 ที่เพิ่งแตกเนื้อสาว แต่บ้างก็บอกว่าปิ๊งหัวหน้าห้องมาตั้งแต่สมัยอนุบาลสอง ผู้ชายคนนั้นอาจเป็นคนที่แอบเปิดกระโปรงเรา เทน้ำใส่กล่องข้าว หรือแม้กระทั่งตัดหนังสติ๊กโดดยางของเราเหมือนอย่างหนังเรื่องแฟนฉัน เมื่อเราร้องไห้กลับบ้านด้วยเหตุการณ์พวกนี้ คุณแม่หรือพี่สาวผู้แสนดีก็จะปลอบใจว่า “ที่เขาทำแบบนี้เพราะเขาชอบหนูไงล่ะ” ไม่เถียงว่าพ่อหนุ่มน้อยคนนั้นอาจจะกำลังแอบหลงรักเราอยู่ แต่เขาจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปจริงหรือผู้ชาย (หรือในที่นี้คือเด็กผู้ชาย) จะเริ่มเป็นตัวของตัวเองตั้งแต่เขาเริ่มเป็นหนุ่ม เขาจะมองหาความสัมพันธ์ที่ต้องการการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา เปิดเผย และจริงใจ รวมทั้งใช้
เวลาสบายๆกับผู้หญิงที่เขาแอบชอบมากกว่าการทำให้เธอหัวปั่นหรือหัวเสียอย่างในวัยเด็ก แต่ภาพลักษณ์เด็กผู้ชายจอมเปิดกระโปรงเหล่านั้นยังคงติดอยู่ในความทรงจำของสาวๆ (อาจเพราะไม่เคยมีหนุ่มคนไหนเดินมาบอกเราอย่างตรงไปตรงมาว่า คุณครับ ผมไม่ใช่เด็กแล้ว!) ผู้หญิงจึงยังคงมองหา “ความหมายระหว่างบรรทัด” จากหนุ่มที่เราหมายตา ดังนั้น แม้จะเดินเข้าหาความสัมพันธ์กี่ครั้ง ถูกปฏิเสธเป็นหนที่ 182 หรือโดนหนุ่มที่แอบชอบโฉบไปจีบเพื่อนสาวโต๊ะข้างๆ แทน เราก็ยังพยายามเฟ้นหาเหตุผลเพื่อรองรับพฤติกรรมสุดแสบเหล่านั้นได้อยู่ดีว่า เป็นเพราะเขาไม่ชอบวิธีที่เราสั่งอาหาร เขาจึงไม่ขอเราออกเดตครั้งที่ 2 เป็นเพราะเรามั่นใจเกินไปเขาจึงไม่ส่งอีเมลหา เป็นเพราะเราหาเบอร์โทรศัพท์ไม่เจอ เป็นเพราะๆๆๆ........แต่ที่จริงแล้วเป็นเพราะเขาไม่สนใจเราต่างหาก
Reality Check : ความลับของผู้ชายช่างกิ๊ก
จิตตรัตน์ > ช่างภาพวัย 26 ปี
“ถ้าผมบอกว่า ไม่สะดวกรับโทรศัพท์ แสดงว่าเป็นข้ออ้างที่ผมไม่อยากคุยกับผู้หญิงคนนี้ บอกตรงๆ ครับว่า ถ้าผู้ชายอยากคุยกับคุณจริงๆ ต่อให้เขาต้องวิ่งไปนอกห้องประชุม เขาก็จะทำ”
หนุ่ม > นักเขียนวัย 38 ปี
“ถ้าทุกครั้งที่เขาเจอคุณ เขาไม่เคยไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ และนัดเดตเพื่อจะหาทางแอ้มคุณ นั่นแสดงว่าเขาต้องการจะแอ้มคุณจริงๆ นั่นแหละ”
กั๊ก > นักการเมืองไฟแรง
“ผมไม่เคยเปิดเสียงโทรศัพท์เลยสักครั้งที่ออกเดต ทุกครั้งที่ผู้หญิงถามจะให้เหตุผลว่า “ไม่ชอบมีเสียงรบกวน”
Bad Signs : สัญญาณว่าจริงๆ แล้วเขาไม่ได้ชอบคุณ
1.ถ้าเขาไม่โทรศัพท์หา
2. ถ้าเขาไม่นัดเที่ยว
3. ถ้าเขาไม่อยากมีความสัมพันธ์ด้วย
4. ถ้าเขามีความสัมพันธ์กับคนอื่น
5. ถ้าเขาอยากพบเราแต่ตอนเมา
6. ถ้าเขาไม่ต้องการแต่งงานด้วย
7. ถ้าเขาหายหน้าไป
8. ถ้าเขาแต่งงานแล้ว
9. ถ้าเขาเป็นคนงี่เง่า เห็นแก่ตัว
10. ถ้าเขาโทร.มาเฉพาะคืนวันศุกร์เพื่อชวนไปเที่ยวกลางคืน!
11.ถ้าเขามาสายเป็นประจำเมื่อนัดกัน
12. ถ้าเขาพูดจาหวานใส่เสมอ...เมื่อเขาเมา!
13. ถ้าเขามีเเฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่เเล้ว
14. ถ้าเขาซื้อขนมมาให้... เเต่เป็นขนมที่หาได้ง่ายดายตามเซเว่นอีเลเว่น เเถมเป็นขนมที่เราไม่เคยเอ่ยว่าชอบกินด้วยซ้ำ
15. ถ้าเขาซื้อของให้เรา แต่มันเเสนจะไม่ใช่ตัวเราเลย (เราชอบสีชมพูสุดหัวใจ เเต่เขากลับซื้อกระเป๋าสีส้มเเจ๊ดมาให้ซะอย่างนั้น แถมยังไม่ใช่ยี่ห้อโปรดของเราอีกต่างหาก)
16. ถ้าเขาโพสต์รูปสนิทสนมกับสาวๆคนอื่นในเฟซบุ๊กหน้าตาเฉย เเล้วก็ไม่เคยคิดจะเเก้ตัว
17. ถ้าเขาไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัวกับเรา ไม่เคยบอกว่าบ้านอยู่ที่ไหน ครอบครัวมีกี่คน วางแผนอนาคตว่าจะทำอะไร ฯลฯ
18. ถ้าเขาไม่เคยเเนะนำเรากับเพื่อนๆเมื่อเจอเพื่อนเขาโดยบังเอิญ เขาไม่เเนะนำเราและยังพยายามทำตัวเหมือนไม่ได้มากับเราอีกต่างหาก!
19. ถ้าเขาไม่เคยถามหาว่าที่เราหายไปไม่ได้คุยกันช่วงที่ผ่านมา เราเป็นอย่างไรบ้าง หรือไปทำอะไรมา!
20. ถ้าเขาขอเลิก
อย่าลืมว่าผู้ชายไม่ได้ต้องการการตีโจทย์ พวกเขาไม่ใช่อาจารย์วิชาฟิสิกส์หรือคณิตศาสตร์ที่ต้องใช้ญาณหยั่งรู้เฉพาะทางเสียเมื่อไหร่ แต่เมื่อผู้หญิงอดไม่ได้ที่จะมองว่าวิธีการสื่อสารที่เขามีต่อเรานั้นแสนจะอ้อมค้อมและอ่านยากราวพีชคณิตขั้นสูง