ทำความสะอาดบ้าน ก่อนโรคถามหา

หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง ทำความสะอาดบ้าน ก่อนโรคถามหา

เรื่องทำความสะอาดบ้าน ทุกคนคงทำกันอยู่แล้วเพื่อความสะอาด แต่หลายๆ คนจะลืมสิ่งใกล้ตัวไปหรือเปล่า สิ่งของที่เรากันอยู่ทุกวัน กำลังเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอย่างดีเลย แม้แต่ของเล็กๆ น้อย ๆ ก็อย่ามองข้ามนะคะ

   สวิทช์ไฟ

      เช่นเดียวกับมือจับประตูและตู้ลิ้นชักนั่นแหละค่ะ ร้อยทั้งร้อยเชื่อว่ามากกว่า 90% อาจไม่เคยใส่ใจมันเลย แต่จุดนี้เชื้อโรคล้วนๆ เลยค่ะ เพราะเราต้องสัมผัสแทบทุกวัน

      >> เช็ดทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์หรือน้ำยาทำความสะอาดสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เช่นกันค่ะ

   แปรงสีฟัน

      ของใช้เข้าปากทุกวันที่ต้องระวังยิ่งชีวิต เพราะแปรงสีฟันแต่ละอันมีจุลินทรีย์อย่างน้อย 10 ล้านตัว (อย่างน้อยนะคะคุ้ณ!) ยิ่งถ้าอยู่ในบริเวณเดียวกับชักโครกด้วยแล้ว โอย! ลองนึกดูว่าเมื่อคุณกดชักโครกละอองน้ำเล็ก ๆ ที่ลอยขึ้นมาก็ไปเกาะที่แปรงสีฟัน (อิ๊) ไม่อยากจะคิดต่อ) นอกจากนี้อาจมีเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับน้ำลายหรือเสมหะซึ่งตกค้างอยู่ที่ขนแปรงสีฟันอีกด้วย

      >> ปิดฝาชักโครกทุกครั้งก่อนกด ไม่เช่นนั้นก็ย้ายแปรงสีฟันไปเก็บไว้ที่อื่นขอให้เป็นที่แห้ง มีอากาศถ่ายเทสะดวก พยายามเก็บแปรงของคนอื่นในบ้านให้ห่างกันอย่างน้อย 1 นิ้ว วางตั้งไว้ให้โดนลม ที่สำคัญควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกครั้งหลังป่วยเป็นหวัดและทุก 3-4 เดือน

   โทรศัพท์บ้าน

      ทั้งฝุ่นผง น้ำลาย คราบแป้ง รวมถึงทั้งมือของเราเองที่พาเอาเชื้อโรคมาปะปนรวมตัวกันอยู่ ซึ่งจุดที่สะสมเชื้อโรคได้ดีที่สุดคือปุ่มกดและหูโทรศัพท์นั่นเอง

      >> เช็ดด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือแอลกอฮอล์สัปดาห์ละ 2 ครั้งค่ะ

   มือจับประตูและตู้ลิ้นชัก

      อีกหนึ่งจุดอันตรายที่ถูกมองข้าม แต่หารู้ไม่ว่าน้องเชื้อโรคชูคอรอสัมผัสตัวคุณอยู่ทุกวัน โดยเฉพาะลูกบิดหรือมือจับประตูบ้าน

      >> หมั่นล้างมือและเช็ดทำความสะอาดด้วย แอลกอฮอล์หรือน้ำยาทำความสะอาดสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งค่ะ

   หัวฝักบัว

      จุดบอดที่หลายคนมองข้ามและไม่เคยทำความสะอาด แต่หัวฝักบัวนี่แหละที่เป็นตัวซุกซ่อนแบคทีเรียที่ไหลมาตามสายน้ำลงมาสู่ใบหน้าและร่างกายก่อให้เกิดโรคปอดได้

      >> วิธีทำความสะอาดด้วยวิธีที่ง่ายที่สุดคือ ถอดหัวฝักบัวออกและใช้แปรงสีฟันเก่าขัดล้างด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจานหรือจะใช้มะนาวผ่าครึ่งซีกถูก่อนแปรงก็ได้ ส่วนฝักบัวที่ถอดไม่ได้ให้ใช้ถุงพลาสติก ใส่น้ำส้มสายชูพอประมาณเอาฝักบัวแช่ไว้ในถุง ผูกถุงให้แน่นทิ้งไว้ถึงเข้าแล้วล้างฝักบัวด้วยน้ำสะอาด

   ตุ๊กตาน้องเน่าสุดเลิฟ

      ที่สุดของแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคค่ะ เพราะหลายคนยอมรับว่าเกิดมาไม่เคยซักทำความสะอาดมันเลยเพราะกลัวกลิ่นเก่าจะหายไป (ยี้สุด ๆ แต่ก็ยังรักว่างั้นเถอะ) ยิ่งเป็นตุ๊กตาขนปุกปุย หรือน้องหมี พี่หมีขนนุ่มด้วยแล้วฝุ่นล้วน ๆ เช่นกันค่ะ

      >> ควรซักทำความสะอาด แต่ถ้าไม่ซักก็ต้องใช้คำว่าขอร้องให้เอาไปตาก ตบเบา ๆ กลางแดด (ในวันที่ฟ้าเป็นใจกับเรา) บ่อย ๆ ค่ะ

   ฝาที่นั่งชักโครก

      ใครว่าไม่สำคัญเราขอด้านค่ะ เพราะบริเวณนี้เป็นตัวอันตรายไม่แพ้โถชักโครก ก็เพราะเชื้อโรค ละอองจากการกดชักโครกกระเด็นกระดอนขึ้นมาบนฝารองนั่งยังไงล่ะคะ ยิ่งอยู่กันหลายคนก็ยิ่งมีสิ่งสกปรกมากมายสะสมปนกันอยู่บนนั้น

      >> ก่อนนั่งและหลังนั่งควรหมั่นเช็ดล้าง ทำความสะอาดทุกครั้งด้วยแอลกอฮอล์ และก่อนกดชักโครกควรยกฝาขึ้นก่อนทุกครั้งเพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกกระเด็นโดนฝารองนั่งชักโครก (ต้องฝึกกันเป็นประจำค่ะ)

   ม่านกันเปียก

      บ้านไหนที่ใช้ม่านกั้นเพื่อแบ่งกั้นส่วนเปียกและแห้ง หากปล่อยให้อับชื้นจะเป็นสาเหตุก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้และการติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่าย

      >> ควรทำความสะอาดม่านกั้นในห้องน้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์โดยนำลงไปซักในน้ำอุ่นและผสมยาซักให้เข้มข้นก่อนตากให้แห้ง อย่าลืมว่าหลังใช้ม่านแล้วควรดึงปิดให้ดึงทุกครั้งเพื่อให้แห้งไวและลดความอับชื้นค่ะ

   โซฟาบุผ้า

      เฟอร์นิเจอร์ที่สวย สบาย อบอุ่น แต่ตลบอบอวลไปด้วยฝุ่นทั่วทุกอณูซึ่งแน่นอนว่าหากใช้เป็นปีไม่มีซัก ตากแดด ก็เสียงต่อโรคภูมิแพ้และโรคทางเดินหายใจค่ะ

      >> หากจะเลือกซื้อเบาะรองนั่งประเภทผ้าควรเลือกที่ถอดซักได้ และเป็นเนื้อผ้าฝ้าย ผ้าคอตตอนที่เนื้อผ้าโปร่ง เบาสบายเหมาะกับอากาศร้อนในบ้านรา รวมถึงใช้เครื่องดูดฝุ่นตัวเล็ก ๆ มาดูฝุ่นด้วยก็จะดีอย่างยิ่งเลยค่ะ

   ผ้ากันเปื้อนสีหวาน

      ผ้ากันเปื้อนสีหวานในห้องครัวที่คุณอาจคิดว่าใส่ทำอาหารแป๊บ ๆ ก็ถอดกองไว้บนโต๊ะนั่นแหละ แต่หารู้ไม่ผ้ากันเปื้อนสีหวานของคุณเต็มไปด้วยคราบน้ำมัน คราบสกปรกสารพัดการที่มือของเราไปสัมผัสเพียงครั้งเดียวก็รับเชื้อโรคมากกว่าพันครั้งแล้วล่ะค่ะ

      >> ทางที่ดีควรถอดแล้วนำไปซักด้วยน้ำยา ซักผ้า สักอาทิตย์ละครั้งก็ยังดี อย่าลืมตากแดดผึ่งในที่แห้งด้วยนะคะ