>> มีแต่เสียงชื่นชมยินดี
พอเพื่อนๆ และคนรอบข้างเริ่มรับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่เริ่มจะงอกเงยระหว่างคุณกับเขา ก็มีแต่เสียงชื่นชม ดีใจด้วยว่า คุณตาถึงและโชคดีจัง หรือว่าเขาดูเป็นคนดี น่ารัก ถ้าเป็นอย่างนี้ก็บอกได้ว่า สบายใจไปหนึ่งเปลาะ ที่คุณจะไม่ต้องระคายหู ถ้าคนรอบข้างคุณเห็นว่าเขาไม่ดี หรือดีไม่พอสำหรับคุณ ส่วนที่คุณและใครๆดูว่าเขาดี ก็คงต้องรอ เวลาพิสูจน์กันต่อไปว่าเขาจะดีจริงหรือไม่
>> รู้สึกมีเรี่ยวแรง
มีกำลังใจยามอยู่ใกล้เขา ถึงแม้ว่าจะปวดหัวตัวร้อน นอนเป็นไข้อยู่ก็เถอะ ขอให้เขาแค่โทร.มากริ๊งกร๊างพอให้ได้ยินเสียง หรือแค่ส่งข้อความ SMS มา คุณก็รู้สึกดีขึ้นได้แบบหายทันใจ ไม่ต้องใช้ยา ไม่ต้องหาหมอ มีกำลังกายกำลังใจขึ้นมาได้ในทันที
>> "ให้" และ "รับ" อย่างเหมาะสม
ตรงกลางพอดี ไม่มากไป ไม่น้อยไป ถ้าคุณจะเอาแต่ได้จากเขา ซึ่งปฎิบัติตนประมาณว่า "พี่มีแต่ให้" สักวันเขาอาจจะรู้สึกว่าให้มากเกินไปจนเหนื่อย หรือรู้สึกว่าเป็นฝ่ายเสียเปรียบและเกิดความไม่เท่าเทียมกัน จนไม่อยากจะต่อสัมพันธ์ต่อไป หรือแม้แต่การที่คุณเอาแต่จะเป็นฝ่ายทำให้ทุกแบบ "พี่ไม่ต้องน้องทำเอง" ก็เป็นไปได้ว่าอาจมีสักวันที่คุณขี้เกียจทำหรือเขาคร้านจะได้ไปซะทุกอย่าง ก็อาจทำให้สัมพันธ์ของคุณสองคนสะดุดได้ การให้และรับถ้าเป็นไปอย่างเหมาะเจาะลงตัว ก็ทำให้ความรักไหลลื่นได้ไม่น้อยเลยล่ะ
>> รู้สึกไม่ฝืนตัวเอง และสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เมื่ออยู่ใกล้เขา
ถ้าคุณจะต้องทำเก๊ก หรือเป็นกุลสตรี พูดจาไพเราะ พูดหยาบไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว คงต้องถามว่าคุณจะฝืนตัวเองไปได้นานแค่ไหนแล้วทำใจยอมรับได้หรือเปล่าว่า ผู้หญิงคนที่สะสวยแสนดีตลอดเวลาอย่างที่คุณแสดงอยู่เป็นคนที่เขารักเขาชอบ ไม่ใช่ตัวตนจริงๆของคุณสักหน่อย เหตุผลที่คุณต้องทำอย่างนี้เพราะว่าคุณกลัวเขาจะรับไม่ได้ ถ้าคุณจะทำอย่างที่เป็นคุณ ซึ่งอาจจะไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย แค่สวยบ้างเป็นบางอารมณ์ พูดจาทะเล้นหรือหัวเราะอย่างสุดๆ เวลาที่คุณเกิดความพอใจ ลองค่อยๆปล่อยความเป็นตัวของคุณเองออกมาให้เขาได้รับรู้และยอมรับ แล้วคุณจะสบายใจขึ้นเมื่ออยู่กับเขา และถ้าเขาคือคนที่ใช่ของคุณ เขาก็ควรยอมรับความเป็นคุณได้
>> เขาจริงจังและตั้งใจในการคบหา
เขามีอะไรปิดบังซ่อนเร้นอยู่หรือเปล่า และเขาเปิดเผย เปิดตัว เปิดใจกับคุณหรือไม่ถึงที่มาที่ไป บ้านช่อง พ่อแม่พี่น้อง ถ้าเขาพาคุณไปแนะนำทำความรู้จักกับครอบครัวเขา ก็แสดงว่าความสัมพันธ์ของคุณได้ก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าวแล้ว ลองสังเกตุดูว่าเขากระตือรือร้นอยากรู้จักครอบครัวของคุณบ้างไหม พยายามทำตัวให้พ่อแม่ ผู้ใหญ่ฝ่ายคุณเมตตาเอ็นดูหรือไม่ ถ้าเขาจริงจังและจริงใจ คุณสองคนก็คงจะก้าวหน้าไปด้วยกันได้
>> มองเห็นคุณค่าในตัวของคุณ
อันนี้ผิดกันกับผู้ชายช่างติเลย เขาจะเป็นคนที่ใช่ของคุณอย่างแน่นอน ถ้าเขามองเห็นข้อดีและยกย่องในตัวคุณ (ตามความเป็นจริงนะ ไม่ใช่เพ้อฝัน) เช่น ดีใจกับคุณเวลาที่คุณทำอะไรสำเร็จ เรียนได้ดี หรือได้เลื่อนขั้น ปรับเงินเดือน เขาจะยินดีในทุกข่าวดีของชีวิตคุณอย่างนั้นเลยแหละ
>> คุณรู้สึกขอบใจตัวเองที่เลือกเขามาเป็นแฟน
รู้สึกดีที่มีเขาอยู่ในชีวิต และรู้ตัวว่าคุณไม่ได้หลอกตัวเองว่าเขาเป็นคนดี ถ้าเขาทำให้คุณมีความสุข ไม่มานั่งร้องไห้เสียใจ และยิ้มได้ทุกทีที่มีเขาอยู่ใกล้ๆ เขาก็จะเป็นคนที่ใช่ของคุณอย่างแน่นอน