ความทุกข์ คือ ความไม่สบายกายไม่สบายใจ เมื่อไม่สบายกายบางครั้งแค่ซื้อยากินเองก็หาย แต่บางครั้งก็ต้องหาหมอให้เยียวยารักษาจึงจะหายจากการไม่สบาย หรือความทุกข์ใจความไม่สบายใจก็เช่นกัน ถ้าเป็นมาก ๆ ก็อาจต้องไปพบจิตแพทย์นักจิตวิทยา หรือผู้เชี่ยวชาญทางสุขภาพจิต เพื่อขอความช่วยเหลือแต่ถ้ายังเป็นไม่มากเป็นความไม่สบายใจ
ความทุกข์ใจที่ผ่านมาในชีวิตประจำวันไม่รุนแรงจนทำให้เจ็บป่วยทำงานทำการไม่ได้แต่ก็ทำความรำคาญและริดรอนความสุขในชีวิตไป ความไม่สบายใจหรือความทุกข์ใจ กรณีแบบนี้น่าจะเยียวยาได้ด้วยตัวเองวันนี้จึงอยากจะเสนอแนะวิธีการระบายความทุกข์ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ ดังนี้
ความทุกข์ที่เกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่ว่าจะเป็นลูกที่น้อยใจพ่อ – แม่ว่ารักพี่หรือน้องมากกว่า ลูกน้องที่น้อยใจหัวหน้าที่ไม่เคยเห็นความสำคัญของเธอมากกว่างาน เป็นต้น ควรระบายความทุกข์เหล่านี้ ด้วยคำว่า “ช่างเขา” ใครจะเป็นอย่างไรก็ช่างเขา ปล่อยเขาไป เขาได้ดีกว่า มีคนรักมากกว่า มีชื่อเสีย มีเงินทองมากกว่าก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเรา เขาได้ดีก็เพราะว่าเขาทำบุญมามากกว่า ถ้าเราอยากได้ดีอย่างเขาก็ควรเร่งทำตัวเสียใหม่ให้เป็นที่พอใจของพ่อ – แม่, ปู่-ย่า, ตา-ยาย และสามี
ความทุกข์จากการถูกนินทา ถูกวิพากษ์วิจารณ์ลับหลังซึ่งความจริงก็แค่ลมปากแต่เมื่อได้สัมผัสด้วยการได้ยินแล้วกลับทำร้ายจิตใจได้ชงัดนัก เกิดความเจ็บร้อนขึ้นมาทีเดียว วิธีผ่อนคลายความทุกข์จากการนินทาก็คือให้บอกตัวเองว่า “ฉันไม่แคร์” ไม่ต้องเก็บมาคิด ไม่เอาใจใส่ให้เจ็บใจจนนอนไม่หลับซึ่งถ้าเราไม่แคร์แล้วลมปากเหล่านั้นก็จะพัดผ่านหายไปเอง
ความทุกข์จากการกระทำผิด ควรคิดอยู่เสมอว่า “คนเราผิดกันได้” ในโลกนี้ไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิด อยุ่ที่ว่ารู้ตัวว่าผิดแล้วคิดแก้ตัว พยายามทำสิ่งที่ถูกต้องใหม่หรือเปล่า ความผิดทุกอย่างแก้ไขได้เสมอถ้ามความพยายามและตั้งใจจริง
ความทุกข์จากความขลาดกลัว ควรรู้จักสร้างความเชื่อมั่นในตัวเอง ค้นหาข้อดีของตัวเองแล้วยึดไว้เป็นความภาคภูมิใจและกล้าเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่าง ๆ จะช่วยให้กำลังใจมากขึ้น
ความทุกข์ที่ไม่สามารถบอกใครได้ เป็นความลับคับอกจริง ๆ ต้องทนทุกข์อยู่คนเดียว ไม่ควรเก็บไว้คนเดียวควรระบายออกให้มากที่สุดด้วยวิธีต่าง ๆ จะทำให้นอนหลับสบายกายและใจมากขึ้น
จากวิธีทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นคงพอชี้แนะถึงวิธีการปฏิบัติตัวเพื่อให้มีสุขภาพจิตดีขึ้นได้ไม่มากก็น้อย อย่างน้อย ๆ ก็ช่วยเราได้ในระยะยาว