"คนเชื่อดวง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อ คำทำนายกลายเป็นความจริง
ชั่วชีวิตนี้ดิฉันได้ประสบกับสิ่งดี-ร้ายต่างๆ นานามาหลายครั้ง ล้วนแต่ไม่เคยคาดฝันมาก่อนทั้งสิ้น แต่เหตุการณ์ครั้งหนึ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว ทั้งแปลกประหลาด ทั้งน่าตื่นเต้นตกใจ ทำให้ดิฉันขนหัวลุกแทบทุกครั้งเมื่อนึกถึง
ขอเล่ารายละเอียดเล็กน้อยนะคะว่าเหตุใดจึงได้ไปประสบกับเรื่องน่ากลัว ดังกล่าว
สามีดิฉันทำงานธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งที่จังหวัดสุรินทร์ มักเดินทางไปประชุมที่กรุงเทพฯ อย่างน้อยเดือนละครั้ง เขาชอบขับรถไปเองและมักจะติดถุงกอล์ฟไปซ้อมมือกับเพื่อนๆ ทุกครั้งไป บางครั้งสามีก็ชักชวนให้ดิฉันร่วมเดินทางไป ด้วยค่ะ
เรามีโรงแรมเจ้าประจำที่สีลม ตกค่ำก็มีเพื่อนสนิทของสามีที่ดิฉันล้วนคุ้นเคยดีมาทานบุฟเฟต์กัน ดิฉันมักมีของฝากเล็กๆ น้อยๆ ติดมือมาด้วยเช่น กุนเชียง หมูยอ หมูแผ่น เป็นต้น อิ่มหนำสำราญแล้วก็ขอตัวพักผ่อนเพราะล้าจากการเดินทาง ส่วนสามีก็ไปสนุกสนานกับเพื่อนฝูงตามประสาผู้ชาย เราไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้กันเลยค่ะ ครั้งที่เกิดเหตุการณ์น่ากลัวก็เช่นกัน!
ก่อนวันจะเดินทางไปกรุงเทพฯ ดิฉันอยู่ในร้านทำผม สามีก็โทร.เข้ามือถือ บอกให้แวะมาที่แบงก์หน่อย มีเรื่องน่าสนใจมาก
ปกติดิฉันจะไม่ค่อยชอบไปที่ทำงานสามี ไม่อยากถูกมองว่าจุ้นจ้าน หรือนินทากันว่า "มาคุมผัว" มีอะไรก็โทรศัพท์คุยกัน ยกเว้นแต่จะมีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น คราวนี้เข้าไปในห้องทำงานสามีก็เห็นชายแปลกหน้า สูงอายุ ผมขาวยาวแทบประบ่า ร่างผอมเกร็ง ผิวดำ แต่งกายชุดขาว นัยน์ตาดำโต เปล่งประกาย มีอำนาจอย่างบอกไม่ถูก พอสบตาก็รู้สึกตัวชาวูบเหมือนถูกสะกดจิต
ได้ยินเสียงสามีแนะนำแว่วๆ ว่าชื่อลุงโสนหรือลุงโตน อะไรประมาณนี้แหละ ดูหมอแม่นมากๆ พวกลูกน้องเล่าลือกันมาหลายคนจนอยากพบตัว...สามียืนยันว่าดูแม่นเหมือนตาเห็นจริงๆ อยากให้ดูดวงดิฉันด้วยค่ะ!
ความจริงก็สนใจทางโหราศาสตร์อยู่ไม่น้อย มีแผ่น ดวงชะตาติดตัวจึงหยิบส่งให้...ชายชรามองดูผาดๆ แล้วจ้องหน้าดิฉันเขม็งจนรู้สึกอึดอัด...จากนั้น เสียงทุ้มห้าว แปร่งนิดๆ ดังขึ้นเชื่องช้า...แทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครล่วงรู้อดีตในวัยเยาว์ของดิฉันอย่างละเอียด รวมทั้งอุบัติเหตุบางอย่างที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย เช่นเรือล่มเมื่อตอนสิบขวบ ต่อมาขี่จักรยานชนต้นไม้พลิกคว่ำ...รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดทั้งสองครั้ง
ความอยากมีบุตรแต่ไม่สมหวัง โรคภัยไข้เจ็บประจำตัว บางอย่างก็ไม่เคยบอกสามีให้ทราบด้วยซ้ำ...ที่น่ากลัวมากๆ คือคำพูดครั้งสุดท้ายของชายชรา!
"ภายใน 3 วัน 7 วันนี้คุณจะมีเคราะห์หนักที่สุด ขอให้ระวังตัวไว้ดีๆ"
แม้ว่าจะไปถึงกรุงเทพฯ ใบหน้าดวงตาโตของชายประหลาดก็ยังฝังแน่นอยู่ในความทรงจำ...คืนนั้นเรากินอาหารแบบบุฟเฟต์ที่โรงแรมเช่นเคย จากนั้นสามีก็แยกไปกับเพื่อนๆ กลุ่มเดิม ดิฉันก็กลับขึ้นนอนหลับๆ ตื่นๆ จนสามีกลับมาเมื่อราวสองยาม สาเหตุเพราะใจคอหมกมุ่นอยู่กับคำทำนาย...หรือว่าจะเกิดอุบัติเหตุตอนกลับสุรินทร์?
รุ่งเช้า เราออกจากห้องชั้น 5 เดินไปรอลิฟต์เพื่อลงไปทานอาหาร สามีต้องเข้าประชุมดิฉันเองก็มีนัดกับเพื่อนสนิทตอนเที่ยงที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ กับโรงแรม มีผู้คนหนาตายืนรออยู่ก่อนเรา จนลิฟต์จากชั้นบนมาถึง!
ก่อนจะก้าวเข้าไปก็ชาวูบถึงหัวใจ เมื่อเห็นชายชราในชุดขาว ผมสีเงินยวงยาวประบ่าดวงตาดำโตจ้องเขม็ง...ภาพต่างๆ ล้วนพร่าพราย ดิฉันยืนโงนเงน คว้าแขนสามีไว้ก่อนจะทรุดฮวบอยู่หน้าลิฟต์ที่เพิ่งปิดสนิทนั่นเอง
สามีมีอาการตกใจ ก้มลงประคองขึ้นมาท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่ลงลิฟต์ไม่ทัน หันมองเราด้วยความประหลาดใจ ดิฉันย้อนถามเขาว่าไม่เห็นหมอดูที่ชื่อลุงโตนหรือ? สามีก็ส่ายหน้างุนงง...
ปรากฏว่าลิฟต์ตัวนั้นไปขาดที่ชั้น 2 หล่นลิ่วลงไปโครมคราม มีคนบาดเจ็บทั้งมากและน้อยเกือบสิบคน...ถ้าดิฉันไม่เห็นชายชราจากสุรินทร์ยืนเด่นอยู่ในลิฟต์ ไม่ทราบว่าเราจะประสบชะตากรรมอะไรบ้าง?
หรือดิฉันอาจจะตาฝาดไปเอง? แต่ก็หาเหตุผลมาอธิบายเรื่องนี้ไม่ได้เลยค่ะ!
ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวสด
คอลัมภ์ ขนหัวลุก