Facebook ปรับอัลกอริทึมในการดึงเรื่องราวมาแสดงใน News Feed
อัลกอริธึมในการเลือกโพสต์ (Facebook เรียกว่า "story") ออกมาแสดงใน News Feed ของผู้ใช้นั้น เป็นที่สงสัยกันมานาน และเมื่อวานก็มีงานเชิญสื่อมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมเปิดตัวระบบใหม่ที่จะช่วยดึงโพสต์เก่าๆ ที่น่าสนใจและผู้ใช้อาจมองข้ามขึ้นมาแสดงให้ผู้ใช้เห็นใน News Feed ได้ ซึ่งสิ่งนี้ Facebook เรียกว่า "Story Bumping"
อัลกอริทึมในการดึงสตอรี่มาแสดงใน News Feed นั้น Facebook ใช้สารพัดวิธีมาคำนวณ แต่ก็ยกตัวอย่างให้เห็น 4-5 วิธีคือ
ความถี่ในการติดต่อกับเพื่อน, เพจ หรือผู้มีชื่อเสียงที่เรากดติดตาม
จำนวนไลค์, แชร์ และคอมเมนต์โพสต์ ที่มีจำนวนมากพอสมควร และมีเพื่อนของเราไปมีปฏิสัมพันธ์ด้วย
จำนวนสตอรี่ประเภทไหนที่เรามีปฏิสัมพันธ์ด้วยมากที่สุดในอดีต ก็จะถูกนำมาแสดงบ่อยๆ
ถ้าเรากดไลค์อะไรก็ตาม ระบบจะจำไว้ว่าเราอยากจะเห็นเรื่องราวเหล่านั้นมากขึ้นใน News Feed
เช่นเดียวกัน ถ้าเรากดซ่อนอะไรออกไป ระบบก็จะจำไว้ว่าจะโชว์เรื่องราวเหล่านั้นใน News Feed ของเราน้อยลง
นอกจากนี้สิ่งที่ Facebook เรียกว่า Story Bumping นั่นคืออัลกอริทึมใหม่ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถเห็นเรื่องราวเก่าๆ แต่เราอาจจะสนใจได้มากขึ้น โดยปกติตามธรรมชาติของผู้ใช้เวลาอ่าน News Feed นั้น จะไม่ได้เลื่อนหน้าจอลงมาเพื่อดูเรื่องราวเก่าๆ เท่าไหร่ แต่ด้วยกระบวนการของ Story Bumping จะทำให้เรื่องเก่าๆ ที่เรายังไม่ได้อ่าน แต่ระบบคำนวณแล้วว่ามันมีคุณค่า (อาจจะเป็นเพราะมีคนมามีปฏิสัมพันธ์กับเรื่องนั้นมาก) ก็มีสิทธิ์ที่จะโชว์ขึ้นมาใน News Feed ของเราอีกครั้งได้
Facebook กล่าวไว้ว่าระบบนี้ทำให้เรื่องราวที่โพสต์โดยเพื่อนหรือบุคคลมีจำนวนไลค์, คอมเมนต์ และแชร์เพิ่มขึ้น 5% และเรื่องราวโดยเพจจะมีจำนวนปฏิสัมพันธ์เพิ่ม 8% และเปอร์เซ็นต์ความน่าจะเป็นที่โพสต์ต่างๆ จะได้ถูกอ่านและรับรู้เพิ่มเติมนั้นเพิ่มขึ้น 70%
อัลกอริธึมในการเลือกโพสต์ (Facebook เรียกว่า "story") ออกมาแสดงใน News Feed ของผู้ใช้นั้น เป็นที่สงสัยกันมานาน และเมื่อวานก็มีงานเชิญสื่อมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมเปิดตัวระบบใหม่ที่จะช่วยดึงโพสต์เก่าๆ ที่น่าสนใจและผู้ใช้อาจมองข้ามขึ้นมาแสดงให้ผู้ใช้เห็นใน News Feed ได้ ซึ่งสิ่งนี้ Facebook เรียกว่า "Story Bumping"
อัลกอริทึมในการดึงสตอรี่มาแสดงใน News Feed นั้น Facebook ใช้สารพัดวิธีมาคำนวณ แต่ก็ยกตัวอย่างให้เห็น 4-5 วิธีคือ
ความถี่ในการติดต่อกับเพื่อน, เพจ หรือผู้มีชื่อเสียงที่เรากดติดตาม
จำนวนไลค์, แชร์ และคอมเมนต์โพสต์ ที่มีจำนวนมากพอสมควร และมีเพื่อนของเราไปมีปฏิสัมพันธ์ด้วย
จำนวนสตอรี่ประเภทไหนที่เรามีปฏิสัมพันธ์ด้วยมากที่สุดในอดีต ก็จะถูกนำมาแสดงบ่อยๆ
ถ้าเรากดไลค์อะไรก็ตาม ระบบจะจำไว้ว่าเราอยากจะเห็นเรื่องราวเหล่านั้นมากขึ้นใน News Feed
เช่นเดียวกัน ถ้าเรากดซ่อนอะไรออกไป ระบบก็จะจำไว้ว่าจะโชว์เรื่องราวเหล่านั้นใน News Feed ของเราน้อยลง
นอกจากนี้สิ่งที่ Facebook เรียกว่า Story Bumping นั่นคืออัลกอริทึมใหม่ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถเห็นเรื่องราวเก่าๆ แต่เราอาจจะสนใจได้มากขึ้น โดยปกติตามธรรมชาติของผู้ใช้เวลาอ่าน News Feed นั้น จะไม่ได้เลื่อนหน้าจอลงมาเพื่อดูเรื่องราวเก่าๆ เท่าไหร่ แต่ด้วยกระบวนการของ Story Bumping จะทำให้เรื่องเก่าๆ ที่เรายังไม่ได้อ่าน แต่ระบบคำนวณแล้วว่ามันมีคุณค่า (อาจจะเป็นเพราะมีคนมามีปฏิสัมพันธ์กับเรื่องนั้นมาก) ก็มีสิทธิ์ที่จะโชว์ขึ้นมาใน News Feed ของเราอีกครั้งได้
Facebook กล่าวไว้ว่าระบบนี้ทำให้เรื่องราวที่โพสต์โดยเพื่อนหรือบุคคลมีจำนวนไลค์, คอมเมนต์ และแชร์เพิ่มขึ้น 5% และเรื่องราวโดยเพจจะมีจำนวนปฏิสัมพันธ์เพิ่ม 8% และเปอร์เซ็นต์ความน่าจะเป็นที่โพสต์ต่างๆ จะได้ถูกอ่านและรับรู้เพิ่มเติมนั้นเพิ่มขึ้น 70%
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
