ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา สตูดิโอจิบลิได้สร้างผลงานที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่นไว้มากมาย ผู้กำกับภาพยนตร์อะนิเมะวิสัยทัศน์ไกล ฮะยะโอะ มิยะซะกิ ได้ฝากฝังผลงานที่ส่งให้วงการภาพยนตร์ญี่ปุ่นก้าวขึ้นสู่เวทีโลก พิพิธภัณฑ์จิบลิ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทำหน้าที่เป็นเสมือนอนุสรณ์สถานถึงความยื่งใหญ่ของสุดยอดผลงานการสร้างสรรค์เหล่านั้น ที่จะทำให้ผู้เข้าชม ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ต่างก็สนุกสนานและหลงรักโลกแฟนตาซีอันเป็นเอกลักษณ์ของฮะยะโอะ มิยะซะกิกันได้ทั้งนั้น
หลายๆคนเรียก สตูดิโอจิบลิ ว่าเป็น ดีสนีย์ของญี่ปุ่น แต่อันที่จริงแล้ว สตูดิโอจิบลิ นั้นแตกต่างและน่าหลงไหลกว่ามาก ทั้งสตูดิโอเน้นสร้างสรรค์ผลงานจากลายเส้น นำโดยผู้กำกับหนึ่งเดียวผู้มีวิสัยทัศน์ที่แตกต่าง ซึ่งเป็นใครอื่นไม่ได้เสียนอกจาก ฮะยะโอะ มิยะซะกิ นั่นเอง เขาไม่เป็นแค่เบื้องหลังทุกความสำเร็จ ทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก ของสตูดิโอเท่านั้น แต่เขายังใส่เอกลักษณ์ความเป็นตัวเองที่แปลกแตกต่างเข้าไปในกระบวนการผลิตผลงานภาพยนตร์ สรรค์สร้างเป็นตัวละครที่กลายเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมแห่งชาติญี่ปุ่น และกลายเป็นสัญลักษณ์ทางศิลปะของประเทศไปโดยปริยาย
สตูดิโอจิบลิ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1985 หลังความสำเร็จของภาพยนตร์อะนิเมะเรื่อง Nausicaä of the Valley of the Wind มีผลงานภาพยนตร์มาแล้ว 17 เรื่อง ซึ่งแต่ละเรื่องต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ชวนให้ผู้ชมมากมายต่างก็หลงรักกันถ้วนหน้า ผลงานภาพยนตร์ของสตูดิโอจิบลิจะผสมผสานทั้งความแฟนตาซีและความแอคชั่นได้อย่างแตกต่าง เป็นเรื่องราวในโลกแฟนตาซี ที่มีสัตว์/ตัวประหลาดในจินตนาการนานาชนิด รวมทั้งเครืองจักรกลในฝันมากมาย บ้างมีการสอดแทรกประเด็นจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมของทวีปยุโรป และมีการกล่าวถึงความศักดิ์สิทธิ์ของธรรมชาติ ภายใต้กลิ่นอายของวัฒนธรรมและตำนานญี่ปุ่น ทำให้ภาพยนตร์ของ มิยะซะกิ โด่งดังไปทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่นผลงานภาพยนตร์ในปี 1986 เรื่อง Laputa: Castle in the Sky และเรื่อง Princess Mononoke ในปี 1997 ที่เล่าเรื่องราวการต่อสู้กันระหว่างความเป็นท้องถิ่นดั้งเดิม กับยุคสมัยใหม่แห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม มีตัวละครหนุ่มสาวที่พยายามลุกขึ้นต่อต้านกองทัพจักรกลที่มุ่งหมายจะทำลายความสวยงามของชนบทดั้งเดิม ซึ่งแนวการเล่าเรื่องเช่นนี้แหละที่สามารถเข้าถึงผู้ชมที่เป็นเยาวชน และทำให้ มิยะซะกิ ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเล่าเรื่องชั้นเลิศ ผู้สามารถสร้างสรรค์ผลงานให้เป็นที่หลงรักได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อย่างแท้จริง สตูดิโอจิบลิสามารถเข้าถึงอารมณ์และซาบซึ้งได้โดยไม่น่าสะอิดสะเอียนหรือเล่าเรื่องเร็วเกินไปได้อย่างดี ผิดกับภาพยนตร์สำหรับเด็กส่วนใหญ่ที่มักจะล้มเหลวในจุดนี้ ผลงานที่เป็นที่ชื่นชอบที่สุดของสตูดิโอจิบลิน่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่อง My Neighbor Totoro แต่เรื่องที่ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงจริงๆคงต้องเป็นเรื่อง Spirited Away ที่สื่อถึงโลกในจินตนาการของเขาได้อย่างเต็มที่ และยังเป็นภาพยนตร์ที่เบิกทาง สามารถไปประสบความสำเร็จได้ แม้ในหมู่ชาติตะวันตก สร้างฐานผู้ชมใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีกมากมายทั่วโลก