เมาแล้วดื้อ
เป็นเหมือนทุกผู้คน ที่พอน้ำเมาเข้าปากแล้ว ผู้ชายนิสัยดีๆ คนหนึ่งก็จะเปลี่ยนเป็นคนละคนกันอย่างสิ้นเชิง ภายใต้ฤทธิ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ชายสามารถกล้าพูด กล้าทำและกล้ามีเรื่องกับก็ได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะกับผู้หญิงเรา
แสดงอาการเกลียดตุ๊ด
ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้ชายจะโดนหาว่าเป็นตุ๊ดเป็นเกย์ตามกันหรือเปล่า ผู้ชายมักตั้งท่าทีแสดงอาการชัดเจนว่าตัวไม่ค่อยอยากสนิทสนมกับเพื่อนผู้ชายแต่ใจเป็นหญิงเหล่านี้เอาเสียเหลือเกิน หลายคนบอกว่าไม่ได้อะไร แค่ห่วงภาพพจน์ว่าพอมีเพศที่สามมาพัวพัน ผู้หญิงที่เขาอุตส่าห์จีบจะครหาว่าเขาเป็นเกย์กันหมด
อ่อนแอไม่เป็น
ไม่คิดว่าผู้ชายก็คนเหมือนกัน รู้สึกเจ็บปวด รู้สึกอ่อนแอได้เป็นบางครั้ง พอตัวเองมีความรู้สึกแบบนั้น ก็กลับกลบเกลื่อนด้วยการข่มขู่ ใช้กำลัง เพื่อว่าเป็นการแสดงว่าตัวเองเข้มแข็ง ซึ่งอันที่จริงน่ะคือพยายามกลบเกลื่อนส่วนที่เปราะบางของตัวเองอยู่
ใช้เซ็กส์วัดความเป็นชาย
หลงคิดไปว่าไอ้การที่สนใจสาวหรือสาวสนใจ โอกาสอำนวยหรือว่ามองหน้าสาวแล้วอวัยวะบางส่วนมันแข็งขึ้นมาเนี่ย คือสัญลักษณ์ของการที่จะต้องมี sex วัดความเป็นชายของคุณ ด้วยการมี sex หรือการที่เอาชนะผู้หญิงได้ด้วยการมีเซ็กส์หรือการถึงจุดสุดยอด
ทำตัวว่าข้าแน่
เชื่อว่าคุณผู้หยิงคงได้ประสบพบผู้ชายประเภทนี้บ่อย ประมาณว่า ข้าเจ๋ง ข้าแน่ แต่พอคุณพี่ตำรวจขับรถผ่านมา แม้ตัวเองไม่ได้ทำสิ่งใดผิดกฏหมาย แต่ก็ทำทีประหนึ่งว่าตัวเองจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยตลอดเวลา ผู้ชายแม้จะชอบแสดงความอาจหาญ แต่พอถึงเวลาต้องทำตัวแน่จริงๆ เขาก็จะกลายเป็นคนที่กล้าแสดงความแน่เฉพาะกับเด็ก คนชราและสตรีเท่านั้นแหละ
ไม่คิดให้ดีก่อนแต่งงาน
กว่าจะรู้ว่าการแต่งงานนั้นคืออะไร และรักคนนั้นจริงไหมก็เมื่อสายไปซะแล้ว บางทีพอแต่งกันไปแล้วแถมมีลูกด้วยกันอีกต่างหาก แล้วเพิ่งจะมาคิดทบทวนว่าที่มาและที่เป็นอยู่มันไม่ใช่ความรัก หรือเพิ่งไปเจอรักแท้หลังจากการแต่งงานจึงเป็นเหตุให้ผู้ชายหลายคนประสบชีวิตครอบครัวที่ไม่ค่อยแฮปปี้และชีวิตรักที่ต้องแต่งงานหลายครั้งและมีทายาทไว้หลายบ้านนั่นเอง
ชอบโชว์ความมั่งคั่งมั่งมี
ไม่มีความภูมิใจในตัวเองในฐานะสามีหรือพ่อของลูก แต่ว่าพยายามสร้างภาพให้คนอื่นเห็น หาความสุขด้วยการแสดงให้คนอื่นเห็นว่าตัวคุณมีอำนาจ มีเงิน พูดง่ายๆ ก็เอาความภูมิใจในตัวเองไปผูกอยู่กับสิ่งของนั่นแหละ โดยเฉพาะผู้ชายขี้โอ่ที่ชอบใส่สร้อยทองเส้นโตที่เราเห็นมาแต่ไกล
ไม่ค่อยได้ทำหน้าที่ผู้ให้กำเนิด
คือหลงคิดไปว่าการเลี้ยงลูกคือหน้าที่ของแม่ ส่วนมากผู้ชายก็เลยมีหน้าที่เมคมันนี่ โฟกัสอยู่กับการสร้างฐานะและครอบครัว เลยทำให้พลาดโอกาสการที่จะสอนลูกในขณะที่ลูกนั้นยังสามารถรับความคิดเห็นรับฟังคุณพ่อได้ ดังนั้น ลูกๆ ส่วนใหญ่ก็มักจะใกล้ชิดกับแม่มากกว่าพ่อ