ใครบ้างจะไม่ชอบของหวานๆ แต่ถ้าทานมากเกินไป คุณอาจต้องตามซ่อมสุขภาพ เพราะปัญหาต่อไปนี้ ...
1. ภาวะเลือดเป็นกรด
เกิดจากการที่มีน้ำตาลเชิงเดี่ยวจากน้ำตาลทราย น้ำผึ้ง ผลไม้ นม วิ่งเข้าสู่กระแสเลือดเป็นจำนวนมาก จนทำให้เลือดมีสภาวะเป็นกรด ร่างกายต้องแก้ปัญหาโดยการดึงแร่ธาตุจากส่วนต่างๆ เข้ามาในเลือด เพื่อปรับความเป็นกรดให้สมดุล ร่างกายจึงขาดสารอาหารจนอ่อนเพลีย หมดเรี่ยวหมดแรง กระดูกเปราะ นี่คือเหตุผลว่าทำไมสาวหวานถึงได้บอบบาง ป่วยง่ายหายช้ากันนัก
2. ฟันผุ
คนที่มีน้ำตาลเกาะอยู่ที่ผิวเคลือบฟันตลอดวัน มักจะฟันผุและมีกลิ่นปาก เพราะคราบน้ำตาลที่เกาะอยู่ก็คืออาหารโต๊ะจีนสุดหรูที่แบคทีเรียในช่องปากช้อบ..ชอบ
3. อารมณ์เสีย หงุดหงิด ขี้โมโห
นี่คือลักษณะเด่นของคนที่ชอบความหวานเลยเชียว เพราะการมีน้ำตาลในเลือดมากทำให้ตับอ่อนต้องทำงานหนัก และขับอินซูลินออกมามากเกินไป เมื่อมีอินซูลินในสมองมาก เราจะเครียดจนกลายเป็นคนขี้โมโห ควบคุมอารมณ์ สติ ไม่ค่อยได้
4. ง่วงเหงาหาวนอนตลอดเวลา
เมื่อมีน้ำตาลในเลือดมากจนเลือดเป็นกรด ร่างกายจะไม่ส่งเลือดแบบนั้นขึ้นไปเลี้ยงสมอง ทำให้สมองขาดเลือด เราจึงง่วงซึม คิดอะไรไม่ออกไปทั้งวัน
5. อ้วน
น้ำตาลก็คือคาร์โบไฮเดรตรูปแบบหนึ่ง เมื่อมันเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นไขมันและถูกส่งไปสะสมอยู่ตามหน้าท้อง สะโพก ต้นขา และที่อื่นๆ ที่คุณไม่อยากให้มี
6. เป็นโรคติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
เพราะน้ำตาลก็คืออาหารของเชื้อโรค คนที่ชอบความหวานจึงมักจะแผลหายช้ากว่าคนอื่น และถึงหายก็มักจะเป็นแผลเป็น เพราะเชื้อโรคที่บาดแผลได้ของดีมาเพิ่มพลังนี่เอง
7. ความดันสูง
หลังจากร่างกายเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมันแล้ว กรดไขมันเหล่านี้จะถูกส่งไปเกาะอยู่ตามอวัยวะภายในอย่างหัวใจ ตับ และไต ทำให้อวัยวะสำคัญทำงานไม่สะดวก ความดันเลือดจึงค่อยๆ สูงขึ้นจนอาจเป็นอันตรายร้ายแรงได้
8. ปวดหัวเรื้อรัง
เป็นไมเกรน สิวขึ้น เกิดแผลพุพอง เป็นตะคริว เวลาที่มีรอบเดือน มีโอกาสเป็นเบาหวาน วัณโรค โรคหัวใจ และมะเร็งตับได้ตลอดเวลา