ซัด ปู ไม่เคยโหวตกฎหมายในสภาแม้แต่ครั้งเดียว

เมื่อเวลา 09.05  น. วันที่ 25 ก.ย. ที่รัฐสภา  มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณารับทราบรายงานแสดงผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปีที่ 1 (วันที่ 23 ส.ค. 2554 ถึง วันที่ 23 ส.ค.2555 ) เป็นวันที่สอง

โดยนายเจริญ จรรย์โกมลย์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ซึ่งได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้เวลาในการอภิปราย และชี้แจงของ ส.ส.พรรร่วมรัฐบาล และ ครม.ยังเหลือ 3 ชั่วโมง  50 นาที ขณะที่ฝ่ายค้านเหลือเวลาอภิปรายอีก 4 ชั่วโมง 46 นาที และยังมีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 อย่างต่อเนื่อง

นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายถึงประเด็นการฟื้นฟูประชาธิปไตยของรัฐบาล โดยการทำงานในสภา ซึ่งมีการลงมติในกฎหมายสำคัญ 55 ครั้ง นายกฯ ซึ่งมาเซ็นต์ชื่อแค่ 9 ครั้ง แต่ไม่ร่วมลงมติเลยแม้แต่ครั้งเดียว จึงเห็นว่าเป็นคนที่ไม่ความพร้อม ทั้งที่บอกว่ามีอะไรให้มาพูดกันในสภาฯ แต่กลับใม่ให้ความร่วมมือกับการประชุมสภาฯ เลย  ส่วนในเรื่องความปรองดอง ทาง คอป.ที่ตั้งขึ้นในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เสนอรายงานการศึกษาให้รัฐบาล  แต่รัฐบาลก็เลือกใช้เพียงบางส่วนคือเรื่องเยียวยา และยังบิดเบือนด้วย เพราะเจตนาต้องการให้จ่ายเงินเป็นรายเดือน รัฐบาลกลับจ่ายเป็นก้อนจำนวน 7.5 ล้านบาท

ทำให้มีม็อบเกิดขึ้นจำนวนมาก และเมื่อในรายงานระบุว่า ไม่ควรนิรโทษกรรมให้กับผู้กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และรมว.กลาโหม ก็โยนรายงานทิ้งลงถังขยะ แล้วหันมาเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม เข้าสภาฯ  และอีกทางก็ตั้งสภาปฏิรูปการเมืองเพื่อหาทางออกให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณให้ได้

วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือว่าสวมหมวก 2 ใบ คือเป็นนายกฯ และเป็นน้องสาวที่แสนดี จึงขอให้ทบทวนหน้าที่ของตัวเอง โดยเลือกสักทางว่าจะทำเพื่อประเทศ หรือเพื่อครอบครัว
 

ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ความปรองดองที่รัฐบาลทำอยู่นี้ถือว่าเป็นความปรองดองที่จอมปลอม โกหก ลวงโลก ทั้งที่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความสมานฉันท์ปรองดองระดับโลก อย่างนายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกฯ อังกฤษ เสนอว่า การสร้างความปรองดอง ต้องค้นหาความจริงของเหตการณ์การชุมนุม แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่เคยทำ กลับหันมาออกกฎหมายนิรโทษกรรม โดยไม่พยายามค้นหาความจริง ว่ามีชายชุดดำจริงหรือไม่ และรัฐบาลไม่ควรเลือกปฎิบัติ ขอให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ดูได้จากการชุมนุมหน้าสภาฯ มีประชาชนชุมนุม ประมาณ 20 คน แต่มีตำรวจนับร้อยคน

ขณะที่คนเสื้อแดงก็ชุมนุมหน้าสภาฯ และอยู่เป็นเดือน แต่ไม่มีตำรวจมาดูเลย  ถ้าปรองดองเพื่อประโยชน์ตัวเอง ชาติไหนก็ไม่มีวันปรองดอง.