แค่ไหนถือว่าเป็นความผิดสำเร็จ


การชี้ชัดว่ากรณีใดอยู่ในขั้นพยายามกระทำผิด และขั้นใดถือว่าความผิดสำเร็จ

ท่านที่เป็นนักกฎหมายอาจจคุ้นเคยกับคำว่า “การพยายามกระทำความผิด” หรือ “การกระทำที่เป็นความผิดสำเร็จแล้ว”  แต่การที่จะชี้ชัดลงไปว่ากรณีใดแค่อยู่ในขั้นพยายามกระทำผิด และขั้นใดถือว่าความผิดสำเร็จคงต้องพิจารณาข้อเท็จจริงเป็นรายกรณี เพราะมีผลต่อการลงโทษผู้กระทำความผิดอยู่พอสมควร จะขอยกตัวอย่างกรณีความผิดฐานลักทรัพย์ ที่มีข้อเท็จจริงเกิดขึ้นในปัจจุบัน คือ มอเตอร์ไซค์หาย ถ้าใครที่เคยมีประสบการณ์แบบนี้คงรู้ซึ้งดีว่ามันทั้งเจ็บใจ เสียใจขนาดไหนและถ้ายังติดสัญญาลิสซิ่ง เพราะเงินก็ต้องจ่ายรถก็ไม่ได้ใช้ ความผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญาตามมาตรา 334 บัญญัติไว้ว่าผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่นหรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีและปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท ซึ่งคำว่า “เอาไป” ก็คือการเอาทรัพย์เคลื่อนที่ไปจากที่เดิมในลักษณะที่จะพาทรัพย์นั้นไปได้ และทรัพย์นั้นเข้ามาอยู่ในความยึดถือครอบครองเพื่อตนแล้ว แม้ทรัพย์นั้นเคลื่อนที่เพียงเล็กน้อยก็ถือว่าเป็นการเอาไปแล้ว ถึงแม้ผู้กระทำจะยังไม่ได้เอาทรัพย์นั้นไปหรือถูกขัดขวางในภายหลังและเอาทรัพย์นั้นไปไม่ได้ก็ตามต้องถือว่าเป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จ แล้วถ้าหากเป็นการขโมยจักรยานยนต์ล่ะ อย่างไรจึงจะถือได้ว่ามีความผิดฐานลักทรัพย์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3011/2551 เกี่ยวกับการลักจักรยานยนต์วางหลักไว้ว่า จำเลยขึ้นนั่งคร่อมและเข็นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายมาจากจุดที่จอดเดิมประมาณ 1 เมตร แต่จำเลยยังไม่ทันติดเครื่องรถขับเอาไป เพราะผู้เสียหายมาพบเห็นเสียก่อน จำเลยจึงทิ้งรถวิ่งหนีไป ถือได้ว่าจำเลยเข้ายึดถือครอบครองและเอาทรัพย์เคลื่อนไปในลักษณะที่พาเอาไปได้เป็นการลักทรัพย์สำเร็จแล้ว และยังมีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2537 วางหลักไว้ว่า จำเลยเพียงแต่นั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ยังไม่ได้เอารถออกเป็นการลงมือลักทรัพย์แล้ว เมื่อกระทำไปไม่ตลอดเพราะผู้เสียหายเข้ามากอดเอาไว้ทำให้จำเลยเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปไม่ได้เป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ จึงจะเห็นได้ว่าการนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์และเข็นออกจากจุดที่จอดเดิมเป็นการเข้ายึดถือครอบครองแล้ว แม้ยังไม่ทันติดเครื่องก็เป็นความผิดสำเร็จ แต่ถ้ายังไม่ได้เคลื่อนที่จะเป็นการพยายามลักทรัพย์

ดังนั้น เจ้าของจักรยานยนต์จึงต้องใช้ความระมัดระวังที่จะต้องหาที่จอดที่ปลอดภัยและป้องกันด้วยตนเอง เพราะคนร้ายสมัยนี้เก่งกันเหลือเกินใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็สามารถลักจักรยานยนต์ได้แล้ว

แค่ไหนถือว่าเป็นความผิดสำเร็จ

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์