กินเจอย่างไร ไม่ป่วยไม่อ้วน
ในช่วงเทศกาลกินเจที่ต้องงดทานเนื้อสัตว์ หากคุณเลือกปฎิบัติไม่ถูกวิธี
สามารถนำพาโรคร้ายทั้งความดัน เบาหวาน หัวใจ และไขมันมาสู่ตัวคุณเองได้ง่ายๆเรามาเรียนรู้หลักในการกินเจที่ถูกต้อง ให้ได้บุญและไม่ป่วยไม่อ้วน
ดื่มนมถั่วเหลืองดับหิว การทานแต่ผักและผลไม้ไม่อยู่ท้องเหมือนการทานเนื้อสัตว์แต่หากทานเนื้อสัตว์ แต่หากในยามหิวคุณเลือกทานอาหารจำพวกแป้งอย่างเดียวคงได้อ้วนแน่ๆ นมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้จะช่วยดับหิวเพราะมีพลังงานแบบไร้ไขมันอยู่มากทำให้อิ่มท้องแถมยังไม่ต้องกลัวว่าจะอ้วนอีกด้วย
เน้นถั่วเป็นหลัก หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วไม่ว่าจะเป็น ถั่ว เหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ หรือม้แต่ผลิตภัณฑ์จากถั่ว อย่างเต้าหู้แข็ง ล้วนเป็นเมนูอาหารที่คุณควรนึกถึงควบคู่ไปกับการทานผักเพราะในถั่วมีทั้งดปรตีนและพลังงานช่วยทดทแนโปรตีนที่คุณเคยได้จากการทานเนื้อสัตว์เพื่อไม่ให้ร่างกาของคุณต้องขาดสารอาหาร
เน้นผักผลไม้ไร้แป้ง ไม่ว่าผักหรือผลไม้ล้วนมีทั้งแป้งและไม่แป้งอยู่เลย อาทิจับฉ่าย กะหล่ำปลี ผักโสภณ ผักเสฉวน กาน้าไฉ่และผักดองจีนแบบอื่นๆ ส่วนผักและพืชที่ควรเลี่ยงคือ เผือก มันเทศ มะม่วงสุก ทุเรียนและผักผลไม้กระป๋องที่มีน้ำเชิ่อมไม่งั้นน้ำตาลในเลือดพุ่งปรี๊ดแน่
เลี่ยงของผัดทอดของทอด จะเห็นว่าอาหารเจที่ขายสำเร็จรูปมักเป็นในรูปแบบผัด ทอด พยายามหลีกเลี่ยงอาหารมันๆเหล่านี้ ไม่ควรบริโภคน้ำมันเกินวันละ 4 ช้อนเโต๊ะ เลือกทานเมนูพวกตุ๋น ต้ม ปิ้งย่าง หรือนึ่งจะดีกว่า
นอนให้พอ เพราะร่างกายที่ขาดโปรตีนจากเนื้อสัตว์มักจะรู้สึกอ่อนเพลียได้ง่าย เหมือนขาดพลังงานจากเลือดและเนื้อ เราจึงควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเป็นการเติมเต็มพลังงานให้กับร่างกาย
ออกกำลังกาย ระหว่างทานเจขอให้ออกกำลังเหมือนกับช่วงปกติแต่ให้ออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา อย่างเช่น วิ่งสัก 2 นาที สลับกับการเดิน 2 นาที แล้วเหลือวันละประมาณ ครึ่งชั่วโมงก็พอ เพื่อให้ร่างกายยังคงมีภูมิต้านทานเหลืออยู่
การทานเจควรปฎิบัติแบบพอดีอย่าหักโหม ดูร่างกายของเราเองด้วยว่าไหวหรือไม่ หากไม่ไหวก็อย่าฝืนต่อ การสร้างบุญไม่จำเป็นต้องเฉพาะในช่วงกินเจเท่านั้นม่ว่าวันไหนๆ คุณก็ลด ละ เลิก การทานเนื้อสัตว์ได้เหมือ
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!