หลายคนที่ได้ใช้บริการรถแท็กซี่อยู่เป็นประจำคงเคยพบกับปัญหารถแท็กซี่ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสารไปส่งยังจุดหมายปลายทางด้วยเหตุผล เช่น รถติด ส่งรถ หรือแก๊สใกล้จะหมด รวมถึงการไม่บอกเหตุผลที่ไม่รับ
จากข้อมูลของศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ กรมการขนส่งทางบก พบว่ามีผู้โดยสารร้องเรียนถึงการปฏิเสธไม่รับผู้โดยสารของรถแท็กซี่ในช่วงเดือนตุลาคม 2554 ถึงเดือนกันยายน 2555 จำนวน 13,039 ราย ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในบรรดาเรื่องร้องเรียนทั้งหมด ซึ่งการปฏิเสธไม่รับผู้โดยสารของรถแท็กซี่เป็นเรื่องที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้โดยสารรถแท็กซี่เป็นอย่างมาก และยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายในมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติการจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ที่กำหนดห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ปฏิเสธไม่รับจ้างบรรทุกคนโดยสาร เว้นแต่การบรรทุกนั้นน่าจะ ก่อให้เกิดอันตรายแก่ตนหรือแก่คนโดยสาร หากผู้ขับขี่รถแท็กซี่ มีความประสงค์จะไม่รับจ้างบรรทุกคนโดยสารให้แสดงป้ายงดรับจ้างบรรทุกคนโดยสารไว้ สำหรับความผิดในการไม่รับผู้โดยสารของรถแท็กซี่นั้น มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท นอกจากนี้ ในส่วนของกองบังคับการตำรวจจราจรยังถือว่าเป็นข้อหาที่ต้องถูกบันทึกคะแนน 20 คะแนน และถูกยึดใบอนุญาตขับขี่ 15 วันอีกด้วย ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่ถูกปฏิเสธสามารถแจ้งทะเบียนและชื่ออผู้ขับรถซึ่งติดอยู่ในใบอนุญาตหน้ารถ โดยแจ้งได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ สายด่วนเบอร์ 1584 หรือกองบังคับการตำรวจจราจร สายด่วนเบอร์ 1197 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามกฎหมาย
อย่างไรก็ดี แม้การปฏิเสธไม่รับผู้โดยสารของรถแท็กซี่จะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนก็ตาม แต่บางกรณีก็เป็นเรื่องที่ผู้ขับแท็กซี่ก็กังวลถึงความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่เองด้วย เช่น การรับผู้โดยสารในช่วงดึกไปยังส่งยังสถานที่เปลี่ยว หรือสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย หรืออาจเป็นกรณีที่ผู้โดยสารมีท่าที่ไม่น่าไว้วางใจอีกด้วย ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการที่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ตนซึ่งได้แก่ผู้ขับขี่เอง เป็นกรณีมีเหตุที่ยกเว้นความผิดตามกฎหมาย แต่การที่จะเข้าข่ายข้อยกเว้นดังกล่าวได้รถแท็กซี่จะต้องแสดงป้ายงดรับจ้างไว้ด้วย แต่ที่เราๆ ท่านๆ พบเจอกันอยู่ คือ ป้ายว่างแต่คนขับรถปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร ซึ่งกรณีเช่นนี้คนขับรถมีความรับผิด ดังนั้น ผู้โดยสารเองก็สามารถร้องเรียนเพื่อรักษาสิทธิของตนเองตามสมควรเพื่อไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากกรณีดังกล่าวได้