ซากขยะอิเล็กทรอนิกส์
ในยุคที่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีมากมาย ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ออกมาแล้วออกมาเล่า แน่นอนว่าปัญหาหนึ่งที่กำลังเป็นปัญหาในเงามืดแต่กำลังเขยิบมาเป็นปัญหาใหญ่ได้เรื่อยกับ ขยะอุตสาหกรรมจากซากโทรศัพท์ กล้องถ่ายภาพและวิดีโอ อุปกรณ์เล่นภาพและเสียง เครื่องพิมพ์และโทรสาร โทรศัพท์มือถือและบ้าน คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เครื่องปรับอากาศและตู้เย็น
เราลองมาดูปริมาณขยะอุตสาหกรรมเหล่านี้ว่ากำลังเป็นภัยคุกคามแค่ไหนในการต้องกำจัดขยะมหาศาลเหล่านี้
โดยปี2555มีปริมาณ19.6ล้านเครื่อง
ปี2556มีปริมาณ 20.8 ล้านเครื่อง
ปี 2557 มีปริมาณ 22 ล้านเครื่อง
ปี 2558 มีปริมาณ 23.4 ล้านเครื่อง
ปี 2559 มีปริมาณ 27.3 ล้านเครื่อง
เฉพาะปี 2556 มีขยะอิเล็กทรอนิกส์ รวม 20.8 ล้านตัน
แบ่งเป็น
โทรทัศน์ 2.4 ล้านเครื่อง
กล้องถ่ายภาพและวิดีโอ 785,000 เครื่อง
อุปกรณ์เล่นภาพและเสียง 3.3 ล้านเครื่อง
เครื่องพิมพ์และโทรสาร 1.5 ล้านเครื่อง
โทรศัพท์มือถือและบ้าน 9.1 ล้านเครื่อง
คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล 1.9 ล้านเครื่อง
เครื่องปรับอากาศ 717,000 เครื่อง
และตู้เย็น 872,000 เครื่อง
กรมควบคุมมลพิษระบุว่า ปัจจุบันมีโรงงานคัดแยกและบดย่อยชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ 35 แห่ง ยังไม่เพียงพอกับปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์แต่ละปี ดังนั้นควรออกกฎหมายเกี่ยวกับการกำจัดซาก การเรียกคืน การคัดแยก และการรวบรวมซากผลิตภัณฑ์จากผู้ใช้ โดยสร้างกลไกเศรษฐศาสตร์การเงิน การคลัง และหลักการผู้ก่อมลพิษ เป็นผู้รับผิดชอบ