โดยนักวิจัย ได้ทำการศึกษาจนพบว่าการรับประทานอาหารในปริมาณที่มากเกินไปจะให้โทษ แต่ในทางตรงข้ามการอดที่พอดีกลับช่วยให้สุขภาพ ดีได้แถมยังช่วยบำบัดโรคน่า รำคาญได้ อาทิ เป็นหวัด ปวดหัว ท้องผูกหรือนอนไม่หลับ
อดดีกว่าอิ่ม ว่างั้น ฟังแล้วแสนจะแปลกใจว่าเป็นไปได้อย่างไร แต่ในการศึกษาอย่างละเอียดพบว่าเป็นเช่นนั้นซึ่งสอดคล้องกับหลักบัญญัติทาง ศาสนาที่ให้มีการอดบ้างหรือให้งดอาหารเย็น เป็นเรื่องที่พระศาสดาทรงสอนมานาน แต่วิทยาศาสตร์เพิ่งได้ข้อสรุปที่เป็นรูปธรรมเมื่อเร็วๆนี้จึงเป็นข้อสรุป ที่น่าตื่นเต้นมากเพราะพลิกความเชื่อเก่าๆของเราโดยสิ้นเชิง
แต่กลับสนับสนุน หลักปฏิบัติของบรรพชนหลายแห่งทั่วโลก ยกตัวอย่างชาวโอกินาว่าในประเทศญี่ปุ่นที่รับประทานแบบ “ไม่เต็มกระเพาะ” แล้วมีสุขภาพดีอายุยืนจนติดอันดับหนึ่งของโลก ดังนั้นเรื่องการกิน 3 มื้ออาจต้องดูกันเป็นรายๆไปให้เหมาะสม เพราะความลับอยู่ที่ “กินเป็น” มากกว่า
เทคนิค “อดบำบัด” เพื่อสุขภาพ ดี
การกินอยู่ที่เรียกว่า “กินเป็น” นั้นชาติต่างๆล้วนมีอยู่ แต่จะขอยกที่ดูแล้วใกล้ตัวที่สุดก็คือชาติไทยของเราเองครับ คนไทยกินเป็นอย่างน่าภาคภูมิใจที่สุดไม่แพ้ชาติไหน ลองดูง่ายๆ
กินมะม่วงอกร่องกับข้าวเหนียวมูน
สาเกเชื่อมราดกับกะทิ
ส้มตำกินคู่กับไก่ย่างอย่างนัว
สะเดากับน้ำปลาหวาน
นี่ยังไม่รวมสารพัดน้ำพริกที่มีผักให้เลือกจิ้มเหมาะๆอีกมาก แต่แม้จะดูเป็นชาตินักกิน คนไทยเราแต่ก่อนก็ไม่อ้วนกันมากนะครับ ที่จะเจอแบบหุ่นลงพุงนั้นมีน้อยนั่นเป็นเพราะวิถีชีวิตที่ไม่นอนดึกและการ จัดสำรับแบบไทยนี่แหละครับที่เป็นคำตอบของปริศนา
อาหารไทย มีลักษณะ ตรงกับหลักการกิน “ฮาระ ฮาชิ บุ(Hara hachi bu)” ซึ่งแปลว่ากินแค่ 80% ไม่อิ่มจนเกินไปสไตล์โอกินาว่า และมีลักษณะที่ตรงกับงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์เมื่อไม่นานมานี้ที่ ว่าการอดแบบ “เว้นวัน (Alternate Day Fasting, ADF)” ช่วยให้ “เคมีแก่” ลดลง โดยอานิสงส์ของมันหลักๆมีอยู่ 3 ประการคือ ลดน้ำหนัก คุมไขมันและสำคัญสุดคือช่วยให้ “อายุยืน”
พูดง่ายๆว่าอดคือการ “ล้างพิษ” นั่นเอง ดร.คริสตา วาราดี ผู้ที่ทำงานวิจัยชิ้นนี้ได้ทดลองปฏิบัติเองจนเห็นผล ซึ่งได้ทดลองทั้งแบบหนักและแบบเบาจนรู้ถึงข้อดีข้อเสียอย่างละเอียดในงาน วิจัย สำหรับท่านที่อยากลองทำดูเองนะครับ ผมได้ลองแปลงงานวิจัยของ ดร.วาราดีมาเป็นเทคนิคง่ายๆ 2 แบบดังนี้
1) อดวันเว้นวัน อันนี้จะหนักและโหดพอดู จนแม้ดร.วาราดีเจ้าตำรับเองยังบอกศาลาว่าไม่ไหวเพราะต้องอดวันกินวัน โดยวันที่อดนั้นกินได้เพียง 600 กิโลแคลอรีเท่านั้น (ประมาณเท่ากับกินมื้อเช้าเบาๆ กับมื้อเย็นเล็กๆ) แล้วดื่มน้ำสะอาดตามให้มาก ส่วนวันกินนั้นก็ให้รับประทานได้ตามที่เหมาะสมคือราว 2,000 กิโลแคลอรี
2) อดด้วยสูตร 5:2 สูตรนี้เป็นแบบที่ง่ายกว่า ไม่บาดใจมากครับคือในหนึ่งสัปดาห์ให้รับประทานปกติธรรมดา 5 วันติดกัน ส่วนวันอดนั้นคืออีก 2 วันให้รับประทานแค่วันละ 600 กิโลแคลอรีดังที่บอกไป สูตรนี้จะทำให้ท่านมีชีวิตใกล้เคียงกับปกติหน่อยแต่ให้ผลดีไม่ต่างกับสูตร แรกเลย
สุดท้ายนี้ขอหมายเหตุไว้สักนิดครับสำหรับการอดเพื่อให้ สุขภาพ ดีก็คือควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญสักนิดนะครับ จะเป็นด้านอายุรวัฒน์ก็ได้ ถ้าอดเป็นเวลาสั้นๆยังไม่พอเป็นไรครับเพราะจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยแวนเด อร์บิลท์ชี้ว่าทำเองได้ แต่ในกรณีที่ต้องคอยดูใกล้ชิดสักนิดก็มี คุณแม่ตั้งครรภ์ ท่านที่เป็นเบาหวาน มะเร็งหรือรับประทานยาหลายๆ ชนิดอยู่ ต้องดูกันเป็นกรณีไปนะครับ ความลับของการอดเพื่อบำบัดก็คือการรู้จัก “เลือกกิน” และ “กินเป็น”



กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว