20 ความลับ ที่จะทำให้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันยาวนาน

หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง 20 ความลับ ที่จะทำให้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันยาวนาน

งานแต่งงานเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่คล้าย ๆ จะบอกกับทุกคนว่า ความรัก ครั้งนี้ของคุณกับเขาผลิบานออกดอกออกผลเต็มที่แล้ว ก่อนที่เจริญเติบโตก้าวข้ามไปสู่จุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าในวันพิเศษแบบนี้ทุกคนต่างก็ปีติยินดีกันถ้วนหน้า แต่ทางข้างหน้าจะมีความสุขแบบนี้อีกหรือไม่นั้นไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้ นอกจากการกระทำกับความรู้สึกของเขาและตัวคุณเอง ซึ่งถ้าหากคุณอยากจะอยู่เคียงข้างกันและกันตลอดไป ก็ลองนำ 20 ความลับของชีวิตหลังแต่งงานทั้ง 20 คู่ ที่เรานำมาฝากไปใช้กันดูนะคะ

1. “พวกเรากลายมาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด และต่างฝ่ายต่างรู้สึกตกหลุมรักกันและกันมากขึ้น เมื่อให้ความสำคัญกับเรื่องเซ็กส์น้อยลง พร้อมทั้งสนุกสนานกับชีวิตหลังแต่งงานมากขึ้น ด้วยกิจกรรมอื่น ๆ ที่ต่างออกไป”

2. “กุญแจที่นำพาไปสู่ความสำเร็จในชีวิตคู่ ก็คือ ยอมแพ้ให้กับเรื่องการตกแต่งบ้าน เพราะสิ่งของที่ซื้อเข้ามาใช้ในบ้าน ไม่มีของสิ่งใดที่จะจับมาแมชท์กันได้เลย ตั้งแต่หลอดไฟ โปสเตอร์ ชุดเตียงนอน โซฟา หรือแม้กระทั่งชั้นวางหนังสือ”

3. “เราต่างให้คำสัญญาว่าจะไม่ทะเลาะกันเรื่องเงิน เพราะอย่างที่รู้กันดีว่า การทะเลาะกับคู่ชีวิตเรื่องเงินจะนำไปสู่การหย่าร้าง ซึ่งเราไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นกับตัวเอง ที่สำคัญมันไม่คุ้มค่าเลยที่ทำให้ความรัก พังลงต่อหน้าจากปัญหาเรื่องการเงิน ดังนั้น เราเลยคิดอยู่เสมอว่าการเงินมีขึ้นก็ต้องมีลงเป็นธรรมดา และไม่มีการตำหนิฝ่ายตรงข้ามหลังจากที่มีปัญหาเกิดขึ้น”

4. “ไม่เคยพูดกันในเรื่องเซนซิทีฟ ถ้าหากในตอนนั้นกำลังรู้สึกหิวหรือเหนื่อย และกินมาร์ชเมลโล่เพื่อทำให้การพูดคุยราบรื่นขึ้นด้วย เพราะคุณไม่สามารถจะพูดได้ในขณะที่มีมาร์ชเมลโล่อยู่เต็มปาก ซึ่งนั่นทำให้คุณตั้งใจฟังคำพูดของคู่ชีวิตไปโดยปริยาย อย่างที่ทุกคนรู้กฎการสนทนาที่ดีอยู่แล้วว่า การสื่อสารควรจะฟังมากกว่าพูด และหากมี 2 ทางเลือกให้พูด ก็จะเลือกการพูดที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกสบายใจมากกว่าเสียใจหรือโกรธ”

5. “ครั้งหนึ่งฉันเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับการแต่งงาน ในหนังสือเล่มนั้นบอกเอาไว้ว่า ให้ปฏิบัติกับคู่ชีวิตเหมือนแขกคนหนึ่ง ซึ่งหมายความว่า หมั่นหันด้านดีของตัวเองเข้าหาคู่ชีวิตทั้งตอนที่อยู่ต่อหน้าและลับหลัง ซึ่งวิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ใช้ได้ผลมาตลอด พร้อมกับทำให้คิดได้ว่า การแต่งงานที่ดีเกิดขึ้นจากความเห็นอกใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ค่อย ๆ เพิ่มพูนขึ้นมาทีละนิด” ความลับที่ทำให้คู่ของ รูดี้ กับ พอล ยืนยาวถึง 35 ปี

6. “พวกเราเลือกที่นั่งอยู่เคียงข้างกันบนโซฟาในทุก ๆ คืน เพราะพอลเคยพูดไว้ว่า เป็นไปไม่ได้ที่ต่างคนจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย หรือไม่มีการตอบสนองใด ๆ จากร่างกาย เมื่อคน 2 คนได้อยู่ใกล้กัน”

7. “เรามักจะหาเรื่องตลก ๆ มานั่งหัวเราะด้วยกันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ค่อนข้างรุนแรง เรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัว หรือจากความผิดพลาดต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้น แต่เราก็ยังสามารถหามุมตลกมาทำให้ต่างคนต่างหัวเราะออกมา และเป็นเคล็ดลับที่ทำให้สามารถเอาชนะปัญหาต่าง ๆ ได้”

8. “คู่แต่งงานควรจะแยกห้องน้ำกัน ไม่ใช่เพราะอยากใช้ชีวิตหรูหราอะไรหรอกนะ แต่การได้ยินเสียงคนรักกลั้วคอหรือร้องเพลงในห้องน้ำตลอดทุกวันคงจะทำให้คุณรู้สึกแย่มากทีเดียว และยังไม่รู้สึกโรแมนติกเลยสักนิดเมื่อต้องเห็นคนรักในขณะที่เขากำลังดึงขนจมูก เพราะมั่นใจได้เลยว่า เสียงร้องของเขาทำให้อาหารหมดอร่อยไปเลยล่ะ”

9. “จำเอาไว้ว่าผู้หญิงต้องการความรัก และการดูแลใส่ใจ ส่วนผู้ชายยังคงต้องการการเคารพ แม้ว่าพวกเขาจะตกหลุมรักซึ่งกันและกันแล้วก็ตาม ความคิดนี้อาจจะฟังแปลกไปสักนิด แต่มันคือความจริง ขณะเดียวกันก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องยอมอ่อนข้อให้กับผู้ชาย หรือตามใจผู้หญิงมากจนเกินไปนัก ไม่อย่างนั้นชีวิตคู่จะยุ่งยาก น่าเบื่อ และเต็มไปด้วยความเครียด นอกจากนี้ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรที่สามารถทำให้พวกคุณหัวเราะไปพร้อมกันได้ช่วงแรก ๆ ของชีวิตแต่งงาน ก็ควรหาเวลาทำสิ่งเดียวกันนี้ต่อไปทั้ง 10 20 หรือ 30 ปี อย่างเช่น อ่านหนังสือตลกร่วมกัน หรือดูหนังตลกด้วยกัน เป็นต้น”

10. “รักษาเดทไนท์เอาไว้ตั้งแต่เริ่มแต่งงาน พวกเรามักจะออกไปเดทกันอย่างน้อย 1 คืนต่อเดือน และเดทไนท์ที่พวกเราทำไม่ใช่การนั่งดูโทรทัศน์ในบ้านอย่างแน่นอน แต่พวกเราออกจากบ้านไปเดทกันแบบคู่รักอื่น ๆ ทั่วไป โดยมีข้อแม้ว่าไม่ควรจะพาลูกไปด้วย และหลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องที่เป็นปัญหาหรือเรื่องซีเรียส นอกจากนี้ กิจกรรมที่ทำก็ไม่จำเป็นต้องเป็นสถานที่แพง ๆ แค่สถานที่ที่ทำให้รู้สึกมีความสุขก็เพียงพอแล้ว ที่สำคัญการเดทนอกบ้านยังไม่ต้องกังวลเรื่องทำความสะอาดบ้านด้วย”

11. “แต่ละคนควรมองหาข้อดีของอีกฝ่าย แทนที่จะทะเลาะกันเพราะมัวแต่คิดถึงความรู้สึกของตัวเอง ต่างฝ่ายควรวิธีมาเป็นการแชร์และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันดีกว่า”

12. “การร่วมทุกข์ร่วมสุขไปพร้อม ๆ กัน ช่วยให้พวกเราอยู่ด้วยกันมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะลูก ๆ ถือว่าเป็นแรงบันดาลใจที่ดีเลยทีเดียว และครอบครัวจะมั่นคง แข็งแรงยิ่งขึ้น เมื่อวันหนึ่งที่ครอบครัวเริ่มมีหลานตัวน้อย”

13. “ความลับของชีวิตคู่ ก็คือ การวางแผนเพื่ออนาคตข้างหน้า และมองย้อนกลับไปเฉพาะช่วงเวลาดี ๆ เท่านั้น ทุกคนต่างก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าหากคุณคิดถึงมันก็จะทำให้ชีวิตคู่ยุ่งยาก ขอแค่จดจำความลำบากเฉพาะเวลาที่ประสบความสำเร็จ และมองหาเฉพาะทางออกของปัญหาเพื่อนำมาใช้แก้ไขสถานการณ์เท่านั้น นอกจากนี้ ความรักก็เหมือนกับบูมเมอแรง เพราะเมื่อคุณขว้างออกไปแล้ว มันก็จะกลับมาหาคุณเอง”

14. “คู่รักควรจะจดจำเอาไว้ว่า สิ่งใดที่ทำให้พวกเขาตกหลุมรักกันและกัน พร้อมกับรู้จักยืดหยุดและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้อยู่แก่ใจ แต่เราก็ยังคงเห็นคู่รักหลายคู่เลิกรากันไป เพราะมีคนใดคนหนึ่งหรือทั้ง 2 คน ปฏิเสธที่จะทำตามสิ่งได้กล่าวไปแล้วนี้”

15. “การหย่าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของชีวิตคู่ ฉะนั้น ไม่ควรจะคิดถึงมันหรือพูดออกมาเพื่อใช้แก้ไขปัญหา และถ้าเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเงิน ควรจะขอคำแนะนำหรือปรึกษาจากคนที่เชี่ยวชาญทางด้านการเงินทันที”

16. “เหตุผลที่ทำให้ทุกคนมีมือ 2 ข้าง เพราะว่าข้างซ้ายเอาไว้จูงมือคนรักเข้าพิธีแต่งงาน ส่วนมือข้างขวาเอาไว้คอยช่วยเหลือลูกทั้ง 3 คนยังไงล่ะ”

17. “คอยเป็นทั้งคนสนับสนุน ให้กำลังใจ และยอมรับกับทุกเรื่อง ๆ ที่คู่รักทำ เพราะต่างคนต่างก็มีสิ่งที่ตัวเองชอบ และเป็นการรักษาความเป็นส่วนตัวไปพร้อมกันด้วย เขาเคยสนับสนุนฉันในเรื่องการศึกษาและหน้าที่การงาน ตอนนี้ฉันก็เลยสนับสนุนการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างแดนของเขา เพราะรู้ว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเขามาก ๆ เลยทีเดียว”

18. “ลืมเพื่อนที่ดีที่สุดคนเก่าของคุณไปซะ เพราะตอนนี้คุณมีเพื่อนที่ดีที่สุดแล้ว แต่ทั้งนี้ต้องมั่นใจว่าพวกคุณมีเวลาดี ๆ ร่วมกันด้วยนะ”

19. “สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ชีวิตคู่ของคุณประสบความสำเร็จ คือ รู้จักตัวเองให้ดีก่อนที่จะแต่งงาน”

20. “บ่อยครั้งที่พวกเราให้ความเคารพคนแปลกหน้ามากกว่าคนที่เรารัก เช่นเดียวกับการที่พ่อแม่คาดหวังให้ลูก ๆ เคารพพวกเรา แต่ก็น้อยคนนักที่จะทำแบบนั้น ฉะนั้น บางครั้งอาจจะต้องปรับเปลี่ยนคำพูด เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าคุณแคร์พวกเขาบ้าง อย่างเช่น คำว่า “ขอโทษ” หรือ “ขอร้อง” แค่ได้ยินคำเหล่านี้พวกเขาก็ดีใจมากแล้ว”

ที่มา...idomodern