ในความหมายของคำว่า "สังฆราช" แปลว่า ราชาของสงฆ์ ราชาของหมู่คณะ หมายถึง พระมหาเถระผู้เป็นใหญ่สูงสุดในสังฆมณฑล มักเรียกกันสั้นๆ ว่า "สมเด็จพระสังฆราช" ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช มีมานานแล้วตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ตามที่มีหลักฐานปรากฏบนศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ว่า "สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก" เป็นตำแหน่งสมณศักดิ์สูงสุดฝ่ายพุทธจักรของคณะสงฆ์ไทย ทรงเป็นประธานการปกครองคณะสงฆ์ ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชนั้นนำแบบอย่างมาจากลัทธิลังกาวงศ์
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้เพิ่มตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช เป็น "สกลมหาสังฆปริณายก" มีอำนาจว่ากล่าวออกไปถึงหัวเมือง มีพระสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เจ้าคณะใหญ่ฝ่ายคามวาสี เป็นสังฆราชขวา และสมเด็จพระวันรัต เจ้าคณะใหญ่ฝ่ายอรัญวาสี เป็นสังฆราชซ้าย องค์ใดมีพรรษายุกาลมากกว่าก็ได้เป็นพระสังฆราช
ต่อมาปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา พระอริยมุนี ได้ไปสืบอายุพระพุทธศาสนาที่ลังกาทวีป จนมีความชอบ เมื่อกลับมาได้รับสมณศักดิ์สูงขึ้นตามลำดับจนเป็นสมเด็จพระสังฆราช พระเจ้าเอกทัศน์มีพระราชดำริให้คงราชทินนามนี้ไว้ จึงทรงตั้งราชทินนามสมเด็จพระสังฆราชเป็น "สมเด็จพระอริยวงศาสังฆราชาธิบดี" และมาเป็น "สมเด็จพระอริยวงษญาณ" ในสมัยกรุงธนบุรี และใช้ต่อมาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงเปลี่ยนเป็น "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ" ใช้พระนามนี้จนถึงปัจจุบัน
เมื่อย้อนกลับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 9 รัชกาลปัจจุบัน
มีพระมหาเถระได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช แล้ว 19 พระองค์ ประกอบด้วย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า 3 พระองค์, สมเด็จพระสังฆราชเจ้า 2 พระองค์ และสมเด็จพระสังฆราช 14 พระองค์
โดยจะมีพระนามสองอย่าง หากเป็นเจ้านายเชื้อพระวงศ์จะมีคำนำหน้าพระนามว่า "สมเด็จพระสังฆราชเจ้า" หรือ "สมเด็จพระมหาสมณเจ้า"
หากเป็นสามัญชนมีคำนำหน้าว่า "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ" ดังรายละเอียดดังนี้
1.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ศรี) วัดระฆังโฆสิตาราม ปี 2325-2337 ดำรงสมณศักดิ์ 12 ปี
2.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ศุข) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ ปี 2337-2359 ดำรงสมณศักดิ์ 23 ปี
3.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (มี) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ ปี 2359-2362 ดำรงสมณศักดิ์ 3 ปีเศษ
4.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ ปี 2363-2365 ดำรงสมณศักดิ์ 1 ปีเศษ
5.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ด่อน) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ ปี 2365-2385 ดำรงสมณศักดิ์ 19 ปีเศษ
6.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (นาค) วัดราชบูรณะ (วัดเลียบ) ปี 2386-2392 ดำรงสมณศักดิ์ 5 ปีเศษ
7.สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส (พระองค์เจ้าวาสุกรี สุวณฺณรํสี) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ปี 2394-2396 ดำรงสมณศักดิ์ 1 ปีเศษ
8.สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ (พระองค์เจ้าฤกษ์ ปญฺญาอคฺคโต) วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2434-2435 ดำรงสมณศักดิ์ 11 เดือนเศษ
9.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว) วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม ปี 2436-2442 ดำรงสมณศักดิ์ 6 ปีเศษ
10.สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส (พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ มนุสฺสนาโค) วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2453-2464 ดำรงสมณศักดิ์ 10 ปีเศษ
11.สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ (หม่อมเจ้าภุชงค์ ชมพูนุท สิริวฑฺฒโน) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ปี 2464-2480 ดำรงสมณศักดิ์ 16 ปีเศษ
12.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) วัดสุทัศนเทพวราราม ปี 2481-2487 ดำรงสมณศักดิ์ 6 ปีเศษ
13.สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (หม่อมราชวงศ์ชื่น นภวงศ์ สุจิตฺโต) วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2488-2501 ดำรงสมณศักดิ์ 13 ปีเศษ
14.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ) วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ปี 2503-2505 ดำรงสมณศักดิ์ 2 ปีเศษ
15.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทโย) วัดสระเกศฯ ปี 2506-2508 ดำรงสมณศักดิ์ 2 ปีเศษ
16.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฐายี) วัดมกุฏกษัตริยาราม ปี 2508-2514 ดำรงสมณศักดิ์ 6 ปีเศษ
17.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริ) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ปี 2515-2516 ดำรงสมณศักดิ์ 1 ปีเศษ
18.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ปี 2517-2531 ดำรงสมณศักดิ์ 14 ปีเศษ และ
19.สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร ปี 2532-2556 นอกจากทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช ที่มีพระชนมายุยาวนานที่สุด และดำรงสมณศักดิ์ยาวนานในประวัติศาสตร์แล้วนั้น
เมื่อครั้งสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) สิ้นพระชนม์ เมื่อปี 2531 ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชว่างลง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในราชทินนามเดิม "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก"
โดยราชทินนามดังกล่าวนับเป็นราชทินนามพิเศษ เนื่องจากสมเด็จพระสังฆราชที่มิได้เป็นพระบรมวงศานุวงศ์ ตามปกติจะใช้ราชทินนามว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ
ดังนั้น นับเป็นอีกหนึ่งครั้งที่มีการใช้ราชทินนาม สมเด็จพระญาณสังวร สำหรับสมเด็จพระสังฆราช เพื่อเป็นพระเกียรติคุณทางวิปัสสนาธุระของพระองค์ และเป็นสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชพระองค์แรกของประเทศไทย





กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday