Vegan Diet ต่างจากมังสวิรัติตรงที่คุณต้องละเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทั้งปวง รวมทั้งนม น้ำตาล แป้งขัดสี กาเฟอีน น้ำอัดลม และทุกสิ่งทุกอย่างที่มีสารเคมีชื่อยาวเหยียด แม้ในด้านหนึ่ง Vegan Diet จะมีชื่อเสียงในแง่ลบ เนื่องจากเป็นการลดน้ำหนักที่หักโหม
แต่ความจริงก็คือ ผู้ที่ต้องทำตามแบบ Vegan Diet นั้น สามารถแข็งแรงได้ด้วยพลังงาน 1,500 แคลอรีต่อวัน (ซึ่งจะช่วยให้น้ำหนักลดสัปดาห์ละ 0.75 กิโลกรัม) และการกินอาหารให้สมดุลครบทุกหมู่ ซึ่งประกอบไปด้วยธัญพืช 6 หน่วยบริโภค ผักและผลไม้อย่างละ 3 หน่วยบริโภค และกินโปรตีนวันละอย่างน้อย 6 ออนซ์ (ถั่ว 1 ออนซ์จะมีปริมาณประมาณอุ้งฝ่ามือหนึ่ง)
กินอะไรได้บ้าง
คุณไม่จำเป็นต้องนับแคลอรี เพียงแต่เลือกผักและผลไม้ หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองที่มีใยอาหารสูง คุณไม่จำเป็นจะต้องอดมื้อเช้า กลางวัน หรือมื้อเย็น และถ้าหิวขึ้นมาก็กินของว่างได้ด้วย ซึ่งอาหาร Vegan Diet แท้ ๆ ได้แก่
1.ผักและผลไม้ออร์แกนิก
2.ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองและถั่วชนิดต่าง ๆ
3.น้ำมันคาโนล่า น้ำมันมะกอก น้ำมันงา
4.พาสต้า ซีเรียล หรือขนมปังโฮลเกรน ข้าวบาร์เลย์ มันฝรั่ง มันเทศ ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ
5.เต้าหู้ ไอศกรีมหรือของหวานซึ่งใช้น้ำเชื่อมเมเปิ้ล น้ำตาลไม่ขัดสี
6.น้ำเปล่า ชาเขียว ไวน์แดงออร์แกนิก (ในบางโอกาส)
7.ผักใบเขียวที่มีธาตุเหล็กและผลไม้ เช่น มะนาว สตรอวเบอร์รี่ จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุนั้นได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างหน้าตาของกับข้าวในหนึ่งวันอาจจะเริ่มด้วยผลไม้สด เช่น มะม่วง กล้วย กีวี กินคู่กับโยเกิร์ตหรือนมถั่วเหลือง มื้อกลางวันกินสลัดออร์แกนิก น้ำสลัดต้องไม่มีส่วนผสมของไข่ ส่วนมื้อว่างจะเป็นผลไม้อบกรอบ และมื้อเย็นเป็นผัดไทมังสวิรัติ ซึ่งหาได้ไม่ยากในบ้านเรา
ระงับความอยาก
ถึง Vegan Diet จะฟังดูแทบเป็นไปไม่ได้สำหรับคนรักเนื้อ แต่มันอาจจะเป็นการไดเอ็ตที่ง่ายที่สุดก็ได้ ในปี 2009 วารสาร American Dietetic เปิดเผยผลวิจัยการเปรียบเทียบการไดเอ็ตของผู้ป่วยเบาหวานประเภทสอง ระหว่างคนที่ไดเอ็ตแบบดั้งเดิม กับไดเอ็ตโดยใช้วิธีแบบ Vegan Diet ปรากฏว่า คนกลุ่มหลังนั้นสามารถอดทนกับการไดเอ็ตได้มากกว่า และยังรายงานว่ามีความอยากอาหารน้อยกว่าคนกลุ่มแรก นอกจากนี้ คนที่ไดเอ็ตแบบ Low-Fat Vegan นั้นยังลดน้ำหนักได้มากกว่า และมีระดับคอเลสเตอรอลกับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่าผู้ที่ไดเอ็ตแบบดั้งเดิมอีก ด้วย
รักษาน้ำหนักให้คงที่
ความยากลำบากของการลดน้ำหนัก ส่วนหนึ่งอยู่ที่การรักษาน้ำหนักที่เราลดได้ให้คงที่ ซึ่ง Vegan Diet อาจช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณรักษาระดับน้ำหนักนั้นเอาไว้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งในปี 2006 วารสาร International Journal of Obesity เปิดเผยว่า Vegan Diet นั้นทำให้น้ำหนักกลับคืนมาน้อยกว่าการไดเอ็ตแบบมังสวิรัติ รวมถึงคนที่ไดเอ็ตโดยการกินปลาหรือเนื้อ และเมื่อผ่านไป 5 ปีพบว่าน้ำหนักขึ้นมาโดยเฉลี่ยเพียง 0.75 กิโลกรัมเท่านั้น อย่างไรก็ตาม American Dietetic Association ก็ออกมาเตือนว่า คนที่สนใจ Vegan Diet ควรจะปรึกษาแพทย์และกินอาหารเสริม เพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุนกับโรคโลหิตจางด้วย...
แต่ความจริงก็คือ ผู้ที่ต้องทำตามแบบ Vegan Diet นั้น สามารถแข็งแรงได้ด้วยพลังงาน 1,500 แคลอรีต่อวัน (ซึ่งจะช่วยให้น้ำหนักลดสัปดาห์ละ 0.75 กิโลกรัม) และการกินอาหารให้สมดุลครบทุกหมู่ ซึ่งประกอบไปด้วยธัญพืช 6 หน่วยบริโภค ผักและผลไม้อย่างละ 3 หน่วยบริโภค และกินโปรตีนวันละอย่างน้อย 6 ออนซ์ (ถั่ว 1 ออนซ์จะมีปริมาณประมาณอุ้งฝ่ามือหนึ่ง)
กินอะไรได้บ้าง
คุณไม่จำเป็นต้องนับแคลอรี เพียงแต่เลือกผักและผลไม้ หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองที่มีใยอาหารสูง คุณไม่จำเป็นจะต้องอดมื้อเช้า กลางวัน หรือมื้อเย็น และถ้าหิวขึ้นมาก็กินของว่างได้ด้วย ซึ่งอาหาร Vegan Diet แท้ ๆ ได้แก่
1.ผักและผลไม้ออร์แกนิก
2.ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองและถั่วชนิดต่าง ๆ
3.น้ำมันคาโนล่า น้ำมันมะกอก น้ำมันงา
4.พาสต้า ซีเรียล หรือขนมปังโฮลเกรน ข้าวบาร์เลย์ มันฝรั่ง มันเทศ ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ
5.เต้าหู้ ไอศกรีมหรือของหวานซึ่งใช้น้ำเชื่อมเมเปิ้ล น้ำตาลไม่ขัดสี
6.น้ำเปล่า ชาเขียว ไวน์แดงออร์แกนิก (ในบางโอกาส)
7.ผักใบเขียวที่มีธาตุเหล็กและผลไม้ เช่น มะนาว สตรอวเบอร์รี่ จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุนั้นได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างหน้าตาของกับข้าวในหนึ่งวันอาจจะเริ่มด้วยผลไม้สด เช่น มะม่วง กล้วย กีวี กินคู่กับโยเกิร์ตหรือนมถั่วเหลือง มื้อกลางวันกินสลัดออร์แกนิก น้ำสลัดต้องไม่มีส่วนผสมของไข่ ส่วนมื้อว่างจะเป็นผลไม้อบกรอบ และมื้อเย็นเป็นผัดไทมังสวิรัติ ซึ่งหาได้ไม่ยากในบ้านเรา
ระงับความอยาก
ถึง Vegan Diet จะฟังดูแทบเป็นไปไม่ได้สำหรับคนรักเนื้อ แต่มันอาจจะเป็นการไดเอ็ตที่ง่ายที่สุดก็ได้ ในปี 2009 วารสาร American Dietetic เปิดเผยผลวิจัยการเปรียบเทียบการไดเอ็ตของผู้ป่วยเบาหวานประเภทสอง ระหว่างคนที่ไดเอ็ตแบบดั้งเดิม กับไดเอ็ตโดยใช้วิธีแบบ Vegan Diet ปรากฏว่า คนกลุ่มหลังนั้นสามารถอดทนกับการไดเอ็ตได้มากกว่า และยังรายงานว่ามีความอยากอาหารน้อยกว่าคนกลุ่มแรก นอกจากนี้ คนที่ไดเอ็ตแบบ Low-Fat Vegan นั้นยังลดน้ำหนักได้มากกว่า และมีระดับคอเลสเตอรอลกับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่าผู้ที่ไดเอ็ตแบบดั้งเดิมอีก ด้วย
รักษาน้ำหนักให้คงที่
ความยากลำบากของการลดน้ำหนัก ส่วนหนึ่งอยู่ที่การรักษาน้ำหนักที่เราลดได้ให้คงที่ ซึ่ง Vegan Diet อาจช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณรักษาระดับน้ำหนักนั้นเอาไว้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งในปี 2006 วารสาร International Journal of Obesity เปิดเผยว่า Vegan Diet นั้นทำให้น้ำหนักกลับคืนมาน้อยกว่าการไดเอ็ตแบบมังสวิรัติ รวมถึงคนที่ไดเอ็ตโดยการกินปลาหรือเนื้อ และเมื่อผ่านไป 5 ปีพบว่าน้ำหนักขึ้นมาโดยเฉลี่ยเพียง 0.75 กิโลกรัมเท่านั้น อย่างไรก็ตาม American Dietetic Association ก็ออกมาเตือนว่า คนที่สนใจ Vegan Diet ควรจะปรึกษาแพทย์และกินอาหารเสริม เพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุนกับโรคโลหิตจางด้วย...
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
