ตามสิทธิบัตรที่มีการขอจดนั้นบ่งบอกว่า SmartWig ช่วยในการนำทางบนท้องถนน, เปลี่ยนหน้าสไลด์บนพรีเซ็นเทชั่นและเก็บข้อมูลอย่าง ความดันเลือด ทางโซนี่เองก็ยังบอกอีกว่ามันยังสามารถประมวลผลและสื่อสารข้อมูลแบบไร้สายกับอุปกรณ์ตัวอื่นๆ
กูเกิล และซัมซุงก็เป็นอีกสองบริษัทที่ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสวมใส่กับร่างกายซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเติบโต
นักวิเคราะห์เชื่อว่าสินค้าในกลุ่มนี้ ตลาดจะมีการขายตัวอย่างมากภายในช่วงสองปีข้างหน้า ทางโซนี่เองก็พยายามรุกหนักในการทวงคืนสิ่งที่หายไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าและตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในตลาดนี้
Sony บอกว่า SmartWig สามารถสวมใส่ศีรษะ ครอบลงไปบนผมจริงได้
โดยวัสดุหลักที่ใช้ผลิตวิกก็คือหางม้า, ผมของคนจริงๆ, วูล, ขนนก, ขนของจามรี, ขนควายหรือวัสดุสังเคราะห์ นอกจากนี้ยังมีอินเตอร์เฟซการสื่อสารและเซนเซอร์ซ่อนอยู่ด้านในเพื่อไม่ให้คนเห็นว่ากำลังใช้งานอยู่ โซนี่บอกว่าเจ้าวิกอัจฉริยะนี้มีโอกาสที่จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเพราะมันเป็นทั้งของไฮเทคและสินค้าแฟชั่นรวมกัน
ส่วนการใช้งาน ต้องขอบอกว่ามีข้อดีอยู่หลายอย่างเมื่อเทียบกับอุปกรณ์สวมใส่ที่วางขายในตลาดอยู่แล้ว
เช่น เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้, ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนและ Google Glass รวมถึงมีมือว่าง เหลือเอาไว้ทำกิจกรรมอื่นๆ คุณสมบัติของ SmartWig ที่บอกไว้ก็มี ช่วยนำทางคนพิการทางสายตา ด้วยการใช้กล้องและเซนเซอร์นการจับตำแหน่งและพิกัดของผู้สวมใส่ นอกจากนี้ยังสั่งงานได้จากระยะไกลผ่านเครือข่าย ส่งรูปภาพหรือคำสั่งที่ใช้การสั่นเพื่อนำทางผู้สวมใส่แบบแมนนวลได้
ส่วนการพัฒนาขั้นต่อไปก็คือพัฒนาให้ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ในการตรวจจับวัตถุรอบตัวผู้ใช้
รวมถึงต่อยอดไปยังอุตสาหกรรมเกม, เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบเสมือนจริงและอุตสาหกรรมด้านดูแลสุขภาพ เมื่อเพิ่มเซนเซอร์หลายอย่างเข้าไปก็จะช่วยเก็บข้อมูลอย่าง อุณหภูมิ, ชีพจรและความดันเลือดแล้วส่งต่อไปยังคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่อไป