แม้ เราจะหมั่นทำความสะอาดบ้านทั้งบริเวณให้สะอาดหมดจด แต่ก็อย่างที่รู้ ๆ กันว่าความสกปรกก็ยังคงหลงเหลือในบ้านอยู่ไม่น้อย และส่วนมากก็เป็นความสกปรกแบบสะสม แอบซ่อนอยู่ตามจุดต่าง ๆ โดยที่เราไม่ทันไหวตัว ซึ่งสิ่งที่เราจะใส่ใจในเรื่องความสกปรกมักจะเป็นบริเวณที่หน้าตาดูสกปรก มีคราบน้ำ หรือฝุ่นเกาะอยู่มากมาย แต่เชื่อไหมว่าบางทีของในบ้านที่เรา คิดว่าสกปรก ก็อาจจะสกปรกได้ไม่เท่าที่เราเข้าใจก็ได้ อย่างของใช้ในบ้านต่อไปนี้ก็เช่นกัน ที่ดูเหมือนจะมีเชื้อโรคสะสมอยู่มากมาย แต่จริง ๆ แล้วสะอาดกว่าที่เราคิดเยอะเลย
1. ลูกบิด หรือหูจับประตู
พื้นที่ที่ผ่านการสัมผัสจับต้องบ่อย ๆ เป็นพื้นที่ที่มักจะถูกตัดสินว่า มีเชื้อโรคสะสมอยู่เยอะกว่าพื้นที่อื่น ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี อย่างลูกบิดประตูบ้านซึ่งดูเหมือนจะได้รับการจับต้องบ่อย ๆ แต่ถ้าเกิดบ้านคุณเปิดประตูทิ้งไว้เสมอ ส่วนลูกบิดก็เลยแทบจะไม่ค่อยมีใครสัมผัส อย่างนี้ก็เท่ากับว่าเชื้อโรคก็ไม่มีโอกาสได้ไปเอ้อระเหยอยู่แถวลูกบิดประตู ล่ะสิ ส่วนประตูห้องน้ำที่ยังไงก็ต้องถูกสัมผัสแน่ ๆ ผลการวิจัยก็พิสูจน์มาแล้วว่า ลูกบิดประตูด้านในห้องน้ำ จะสะอาดกว่าลูกบิดประตูด้านนอกห้องน้ำเสมอ ด้วยเหตุผลที่ว่า 67% ของคนที่เข้าห้องน้ำ มักจะล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้งก่อนจะออกจากห้องน้ำนั่นเอง ซึ่งเราก็ได้ข้อสรุปว่า หากสมาชิกในบ้านใส่ใจความสะอาดที่มือตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ๆ ลูกบิดประตูและหูจับประตูทุกส่วนในบ้าน รวมทั้งพื้นผิวที่มีโอกาสได้จับต้องบ่อย ๆ ก็จะได้รับอานิสงค์ความสะอาดนั้นไปด้วยนะจ๊ะ
2. ชักโครก
เชื่อไหมว่า ชักโครกมีเชื้ออีโคไลน้อยกว่าอ่างล้างหน้า และอ่างล้างจาน และที่น่าตกใจก็คือ เชื้อโรคชนิดนี้ยังถูกค้นพบบนเขียงมากกว่าจะถูกค้นพบในชักโครกถึง 200 เท่า ! (ในกรณีที่ชักโครกเราว่างเปล่า ไร้สิ่งปฏิกูลใด ๆ นะจ๊ะ ) โดยนักวิจัยก็สันนิษฐานว่า ชักโครกเป็นของใช้ที่เรามักจะตระหนัก และเห็นได้ชัดถึงความสกปรกจริง ๆ เราก็เลยหมั่นทำความสะอาดบริเวณนี้อยู่เสมอ จากที่คิดว่าสกปรก ก็เลยกลายเป็นสะอาดกว่าส่วนที่ดูเผิน ๆ แทบจะไม่มีความสกปรกเลยยังไงล่ะ
3. เหรียญและธนบัตร
ถึงแม้จะไม่ใช่ของที่ใช้ในบ้าน แต่เหรียญ และธนบัตรก็ติดตัวเราอยู่เสมอ ๆ และเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องสัมผัสกับเขาตลอดทั้งวันเลยด้วย เหตุผลนี้ก็เลยทำให้หลายฝ่ายตัดสินว่า เหรียญและธนบัตรมักจะสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรียไว้อย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งทางด้านนักวิทยาศาสตร์ก็ชี้แจงว่า เชื้อโรคและแบคทีเรียจะเจริญเติบโตได้ดีและมีชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมที่ชื้น และพื้นผิวที่นุ่มนิ่ม แต่เหรียญเป็นโลหะ ที่มีคุณสมบัติแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสถานที่โปรดของเชื้อโรคและแบคทีเรีย หนำซ้ำโลหะยังมีคุณสมบัติพิเศษในด้านต้านเชื้อจุลชีพ หรือที่รู้จักกันในนามว่า ยาปฏิชีวนะอีกด้วย และแม้ธนบัตรจะเป็นกระดาษ และมีลักษณะนุ่มนิ่มกว่าเหรียญก็จริง แต่กระดาษที่ใช้ทำธนบัตร ก็เคลือบสารต้านจุลชีพไว้ด้วยเหมือนกัน เชื้อโรคที่เราคิดว่าจะหลงเหลืออยู่บนเหรียญและธนบัตรเหล่านี้ ก็เลยน้อยกว่าที่เราคิดนั่นเองจ้า
4. เตาอบ ตู้เย็น และของใช้ประเภทเครื่องเงิน
ของใช้ทั้งหมดที่ว่ามาก็มีแนวโน้จะสะสมเชื้อโรคอยู่จำนวนไม่น้อย แต่จริง ๆ แล้วเขาก็สะอาดกว่าที่คิดไว้อีกเช่นกัน เนื่องจากพื้นผิวประเภทเงิน ทองแดง นิกเกิล และโลหะทุกชนิด จะมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อจุลชีพเหมือน ๆ กัน ทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียไม่สามารถลอยนวลอยู่ในพื้นผิวเหล่านี้ได้จ้า
5. สวนหลังบ้าน
อย่าสับสนระหว่างสิ่งสกปรก และเชื้อโรค สิ่งสกปรกบางทีก็ไม่มีเชื้อโรคและแบคทีเรีย ส่วนเชื้อโรคมักจะมีจุลชีพอยู่มากมาย และส่วนมากความสกปรกในสวนหลังบ้าน ทั้งดินโคลนต่าง ๆ และเศษฝุ่นและใบไม้ก็ไม่ได้มีเชื้อโรคมากพอที่จะทำร้ายมนุษย์อย่างเรา ๆ ได้ หรือถึงจะมีเชื้อโรคและแบคทีเรีย ผู้เชี่ยวชาญก็ชี้แจงว่า ส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อโรคที่ไม่ก่อโรคในมนุษย์ด้วย นอกเสียจากว่าในสวนหลังบ้านของคุณจะเป็นสวนที่มีกองอุจาระของสุนัขและแมว รวมทั้งสัตว์อื่น ๆ อยู่เต็มไปหมด และเป็นสวนที่ใช้ยาฆ่าแมลงและยากำจัดศัตรูพืชอยู่เป็นประจำ
6. ถังขยะ
นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์มาแล้วว่า อ่างอาบน้ำมีเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อโรคมากกว่าถังขยะ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือเท่าไร ถ้าไม่มีเหตุผลสนับสนุนที่ว่า เชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคไม่สามารถมีชีวิตรอดในที่ที่แห้ง ไร้ความชื้น ซึ่งแม้ในถังขยะจะมีเชื้อสิ่งมีชีวิต หรือจุลินทรีย์หลายชนิดอยู่ในนั้น แต่ก็มักจะเป็นจุลชีพที่ไม่มีความอันตรายมากพอจะเป็นสาเหตุให้เราป่วยไข้ได้ แต่ถ้าเมื่อไรที่ถังขยะของคุณส่งกลิ่นเหม็น หรือมีน้ำเยิ้มอยู่ กรณีนี้ก็ควรระวังได้เลย เพราะเป็นไปได้ที่จุลินทรีย์ทั้งหลายจะเติบโต และรวมตัวกันได้มากพอจนส่งกลิ่นออกมา ซึ่งทุกครั้งที่ล้างทำความสะอาดถังขยะ ควรจะใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรค หรืออย่างน้อย ๆ ก็ใช้น้ำส้มสายชูกับน้ำร้อนจัด ทำความสะอาดถังขยะ และบริเวณเคาน์เตอร์ครัว รวมทั้งพื้นรอบ ๆ ถังขยะ เพื่อฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ แบบปลอดภัยต่อสุขภาพของเราด้วย
7. น้ำลายสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงในบ้าน โดยเฉพาะน้องหมาขนปุย มักจะชอบมาคลอเคลีย เผลอ ๆ ก็เลียหน้าเลียตา จุ๊บปากเราอีกต่างหาก แต่ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องสุขอนามัย เพราะผู้เชี่ยวชาญบอกว่า จริง ๆ แล้วน้ำลายของสัตว์เลี้ยงสะอาดกว่าที่เราคิด หนำซ้ำยังมีเชื้อต้านแบคทีเรีย และจุลชีพอยู่ในน้ำลายของเขาเอง เขาจึงชอบเลียขนทำความสะอาดลำตัวของเขายังไงล่ะ ส่วนเด็ก ๆ ที่มักจะเป็นเหยื่อน้ำลายน้องหมาน้องแมวอยู่บ่อยครั้งก็ไม่น่าห่วงเท่าไร เนื่องจากเด็กก็มีภูมิคุ้มกันในร่างกาย แถมการสัมผัสกับสัตว์ที่มีจุลชีพชนิดไม่รุนแรงอยู่ในตัว ก็จะช่วยเสริมภูมิต้านทานให้เด็กได้อย่างดี นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังบอกอีกด้วยว่า ถ้าถูกมนุษย์ด้วยกันเองกัดยังมีโอกาสได้รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ มากกว่าถูกสุนัขกัดซะอีก
อย่าง ไรก็ตาม พื้นที่ทุกตารางนิ้วในบ้านเรา ต่างก็มีเชื้อโรค และจุลินทรีย์กระจายตัวอยู่อย่างทั่วถึง ขึ้นอยู่กับว่า จุลชีพชนิดไหนจะมีความรุนแรงมากกว่ากันเท่านั้นเอง แต่ไม่ว่าจะอย่างไร หากเรารู้จักป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ด้วยการล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนจะรับประทานอาหาร หรือสัมผัสร่างกายของเราเอง อีกทั้งก่อนเข้าบ้านก็ล้างเท้าล้างมือจนสะอาดหมดจด แค่นี้ก็ลดความเสี่ยงกับเชื้อโรคและแบคทีเรียไปได้กว่าครึ่งแล้วล่ะค่ะ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
