ใกล้สิ้นสุดปี 2556 ปีใหม่รออยู่ข้างหน้าผนวกกับการเข้ามาใกล้อีกนิดของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทีมข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ประมวลข่าวร้อนของอาเซียนในรอบปีที่ผ่านมา
นับแต่หัวปียันท้ายปี อาเซียนมีทั้งข่าวดีข่าวร้ายปะปนกัน
เริ่มต้นที่ข่าวดีของ สปป.ลาว ที่ได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก หรือ WTO อย่างเป็นทางการในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ หลังจากพยายามปรับกฎระเบียบต่าง ๆ ในประเทศมาอย่างยาวนาน นับแต่ความพยายามเข้าเป็นสมาชิก
ครั้งแรกเมื่อ 15 ปีก่อน ลาวเป็นสมาชิก WTO ชาติสุดท้ายในอาเซียน หลังจากเวียดนามเข้าไปเมื่อปี 2550 ความพยายามนี้จึงเป็นความภาคภูมิใจของ สปป.ลาว ที่ปรับกฎระเบียบทางการค้าได้ทัดเทียมประเทศเพื่อนบ้านและนานาชาติ
พอใกล้เข้ากลางปี 5 พฤษภาคม มาเลเซียเลือกตั้งใหญ่ หลังนายกฯ นาจิบ ราซัก ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรไปวันที่ 3 เมษายน ท่ามกลางความหวาดวิตกของรัฐบาลขณะนั้นว่าจะเสียอำนาจให้กับหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน นายอันวาร์ อิบราฮิม
การเลือกตั้งเป็นไปอย่างดุเดือดและสูสี ผลปรากฏออกมาว่า พรรคแนวร่วมแห่งชาติ ที่นำโดยพรรคอัมโนของนายราซักเป็นรัฐบาลต่ออีกสมัย แม้ว่าจะเป็นพรรคที่ครองอำนาจมาอย่างยาวนานนับแต่ปี 2510 ที่ได้รับเอกราชจากอังกฤษ ทั้งนี้ รัฐบาลได้ที่นั่งในสภาลดลงมาที่ 133 ที่นั่ง ส่วนพรรคฝ่ายค้านได้ที่นั่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จำนวน 89 ที่นั่ง
การเมืองมาเลเซียแข่งกันดุเดือด แต่ที่ยิ่งกว่าคือ การเลือกตั้งใหญ่กัมพูชาในวันที่ 28 กรกฎาคม นับแต่ก่อนการเลือกตั้ง บรรดาผู้สนับสนุนฝ่ายค้านได้รับข่าวดี เมื่อกษัตริย์สีหมุนีได้พระราชทานอภัยโทษให้แก่ นายสม รังสี คู่แข่งคนสำคัญของนายฮุน เซน ซึ่งลี้ภัยการเมืองอยู่ฝรั่งเศสให้สามารถกลับเข้าประเทศได้ เขามาช่วยพรรคหาเสียงได้แต่ยังไม่สามารถลงเลือกตั้งได้ แม้คนรุ่นใหม่และชาวกัมพูชาในพนมเปญจะสนับสนุนพรรคฝ่ายค้านอย่างเหนียวแน่น แต่ท้ายที่สุด นายฮุน เซน ก็ขึ้นเป็นนายกฯอีกสมัย พรรคประชาชนกัมพูชาฝ่ายรัฐบาลได้ 68 ที่นั่งในสภา ส่วนพรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชาฝ่ายค้านได้ 55 ที่นั่ง
ท่ามกลางการกังขาของนานาชาติว่า การเลือกตั้งเป็นไปอย่างยุติธรรมหรือไม่
ปัญหาร้อนการเมืองกัมพูชายังไม่จบ เพราะหลังการเลือกตั้ง ประชาชนผู้สนับสนุนฝ่ายค้านออกมาประท้วงอย่างไม่หยุดหย่อน กระทั่งวันที่ 22 ธันวาคมที่เพิ่งผ่านมา มีคนมารวมกันมากที่สุด เพื่อกดดันให้นายฮุน เซน ลาออกจากตำแหน่ง เรื่องนี้จึงยังจะเป็นประเด็นร้อนไปจนถึงต้นปี 2557 แน่นอน
เข้าโค้งท้ายปี มีข่าวเศร้าครั้งใหญ่ของชาวเวียดนามและชาวฟิลิปปินส์ 4 ตุลาคม เป็นวันสูญเสียครั้งใหญ่ของชาวเวียดนามทั้งประเทศ เมื่อพลเอกโว เหงียน ยัป หรือที่คนไทยรู้จักในนามโว เหงียน เกี๊ยบ ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 102 ปี นายยัปเป็นเสมือนมือขวาของโฮจิมินห์ เขาเป็นผู้บัญชาการกองทัพเวียดนามเข้าต่อต้านกับเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสและสหรัฐในสงครามอินโดจีน เป็นผู้บัญชาการทหารในยุทธการเดียนเบียนฟูเมื่อปี 2497 จนได้รับชัยชนะ
เขายังเป็นผู้ทำให้เวียดนามเหนือได้รับชัยชนะเหนือเวียดนามใต้ จนรวมชาติสำเร็จในปี 2518 ตามเป้าหมายสูงสุดของโฮจิมินห์ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2512 โว เหงียน ยัป ได้รับการยกย่องให้เป็นนักการทหารผู้มีอิทธิพลระดับโลกในศตวรรษที่ 20 เขาเป็นที่รักเคารพของชาวเวียดนามอย่างสูง รองจากโฮจิมินห์
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
