ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ที่วิ่งออกกำลังกาย ต่างหันมาให้ความสำคัญกับการเลือกรองเท้าวิ่งกันอย่างพิถีพิถันมากกว่าแต่ ก่อน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี รองเท้าที่สวมใส่สำหรับการวิ่งมีความสำคัญมากนะครับ เพราะนี่คืออุปกรณ์ที่จะช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บจากการวิ่งได้ อย่างล่าสุดผมเพิ่งไปร่วมงานสนทนาโต๊ะกลม ที่ว่าด้วยเรื่องของความสำคัญของเท้าและรองเท้าสำหรับการวิ่งออกกำลังกาย จัดโดย Adidas ที่สปอร์ต แอนด์ ออร์โธปิดิกส์ เซ็นเตอนร์ บาย สมิติเวช โรงพยาบาลสมิติเวช กรุงเทพฯ ซึ่งงานนี้มีทั้งคุณหมอและผู้ที่รักการวิ่งหลายคนมาร่วมพูดคุยกันในประเด็น นี้ ผมจึงอยากนำความรู้ที่ได้จากการไปร่วมงานมาแบ่งปันต่อให้คุณผู้อ่านครับ
เลือกรองเท้าวิ่งอย่างไรดี
เป็นที่ทราบกันดีครับว่า รองเท้าวิ่งในปัจจุบันให้ความสำคัญกันเนื้อรองเท้ามากเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีความปลอดภัยในการวิ่งมากยิ่งขึ้น ครับ แถมยังมีความนิ่ม ยืดหยุ่น และดูดซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี
1.ดูน้ำหนักรองเท้า
ถ้ารองเท้าหนัก ๆ ก็ถือว่ามีความมั่นคงดีอยู่หรอกครับ แต่จะทำให้คุณวิ่งได้ช้าลงตามไปด้วย คุณจึงควรเลือกรองเท้าที่มีน้ำหนักพอดีไม่หนักเกินไป อย่างไรก็ตามเมื่อใส่วิ่งแล้วควรเช็คดูว่ารองเท้าเกิดการชำรุดบ้างหรือเปล่า เพราะถ้ารองเท้าผิดรูปไปจะทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ง่าย อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ วัสดุที่ห่อหุ้มรองเท้า ซึ่งไม่ควรเป็นวัสดุที่แลดูแข็งจนเกินไป เพราะถ้าแข็งมาก ๆ จะเกิดการเสียดสี ทำให้ผิวหนังของคุณเกิดการพุพองได้ อย่าลืมนะครับว่ารองเท้าวิ่งที่ดีจะต้องระบายความร้อนได้ดีเช่นกันครับ
2.เลือกรองเท้าให้สัมพันธ์กับฝ่าเท้า
หากคุณเป็นคนเท้าแบน ซึ่งตามธรรมชาติของคนเท้าแบนก็คือเวลาวิ่งจะใช้เท้าด้านในเป็นหลัก เป็นผลให้ตอนวิ่งแล้วเลี้ยวอาจจะทำให้ล้มได้ง่ายกว่าคนที่มีฝ่าเท้าแบบอื่น ๆ ดังนั้นเวลาคุณเลือกซื้อรองเท้าต้องซื้อรองเท้าวิ่งในกลุ่มที่เขียนว่า "Motion Control" หรือคำว่า "Stability" คำพวกนี้จะปรากฏอยู่ที่รองเท้าครับ กรณีที่คุณเป็นคนที่เท้ามีส่วนโค้งส่วนเว้าค่อนข้างมาก ให้เลือกซื้อรองเท้าที่มีคำสำคัญเขียนว่า "Flexible" หรือ "Cushioned"
3.ใส่แล้วควรรู้สึกพอดี
นับว่าเป็นสิ่งสำคัญมากครับ คือต้องเลือกสวมรองเท้าที่พอดีกับเท้า ใส่แล้วไม่รู้สึกว่าบีบรัดส่วนใดส่วนหนึ่งของเท้า รองเท้าที่ผิดรูปจะสังเกตได้ง่าย ๆ คือ มักจะยาวและแคบ ทำให้บีบรัดส่วนกว้างที่สุดของฝ่าเท้า ซึ่งจะก่อให้เกิดการบาดเจ็บจากการวิ่งได้ง่ายครับ
4.ให้ความสำคัญกับพื้นส้นเท้า
พื้นส้นเท้าสำหรับนักวิ่งต้องกลม เพราะส้นเท้าเรากลม ถ้ารองรับได้ไม่พอดีอาจเกิดการบาดเจ็บตามมา ขณะที่เรื่องของพื้นรองเท้านั้น ก็ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน โดยพื้นชั้นในที่รองรับฝ่าเท้าควรนิ่มและยืดหยุ่น และมีส่วนนูนรับอุ้งเท้า เพื่อให้ฟิตพอดี อย่างไรก็ตามพื้นรองเท้าบริเวณส้นเท้า อาจเฉียงขึ้นเล็กน้อย เพื่อทำให้เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วขณะวิ่ง นอกจากนี้รองเท้าวิ่งที่ดีควรมีส้นสูงเล็กน้อย เพื่อแบ่งเบาการทำงานของเอ็นร้อยหวาย และกล้ามเนื้อต้นขา
5.ดูพื้นที่วิ่งเป็นหลัก
ถ้าคุณชอบวิ่งบนพื้นไม่เรียบ เช่น พื้นหญ้าหรือทางลูกรัง ถ้าคุณไม่ระวังก็อาจจะลื่นได้ง่าย คุณจึงต้องเลือกรองเท้าประเภทที่เรียกว่า "Trail Shoes" หากคุณเป็นนักวิ่งอาชีพที่ต้องการทำความเร็ว ควรเลือกรองเท้าที่เบา ๆ และมีความยืดหยุ่นสูง รองเท้าพวกนี้อาจจะไม่เน้นการรองรับแรงกระแทกมากนัก ซึ่งอาจทำให้คุณบาดเจ็บได้ง่าย จึงควรเอาไว้วิ่งแข่งอย่างเดียวครับ
อย่างไรก็ตาม เวลาที่คุณไปเลือกซื้อรองเท้า ให้สอบถามพนักงานที่ร้านดูว่ารองเท้าประเภทนี้เหมาะสมกับลักษณะเท้าแบบไหน การเอ่ยปากสอบถามจะเป็นประโยชน์ต่อคุณเองครับ เพราะจะทำให้คุณได้รองเท้าที่เหมาะกับเท้าของคุณอย่างแท้จริง
จำไว้ว่า รองเท้าวิ่งที่ดีจะต้องมีแผ่นรองเท้าที่กันกระแทก และจะต้องมีหุ้มส้นที่พอเหมาะ ซึ่งรองเท้าที่ดีนั้นจะป้องกันเอ็นอักเสบและการปวดส้นเท้าได้ด้วย