ปีที่แล้วทวิตเตอร์ขาดทุนสุทธิ 2 หมื่นล้านบาท

"ทวิตเตอร์" เปิดเผยผลประกอบการของปี 2556 โดยมีรายรับรวมเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 110 ขณะที่ผลขาดทุนสุทธิก็สูงถึงร้อยละ 96 ของรายรับทั้งหมด ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะมาจากอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการที่น้อยลงกว่าเดิมมากนั่นเอง

เว็บไซต์ไมโครบลอกกิงอย่าง "ทวิตเตอร์" ได้เปิดเผยผลประกอบการของปีที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่นำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กมาได้ 3 เดือน โดยมีรายรับรวมทั้งปีอยู่ที่ 665 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 22,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ถึงร้อยละ 110 ขณะที่มีผลขาดทุนสุทธิ 645 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 20,000 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์หลายฝ่ายแล้วว่าทวิตเตอร์จะประสบกับปัญหาเช่นนี้ เนื่องจากอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการน้อยกว่าที่ควรจะเป็น โดยมีปริมาณผู้ใช้ต่อเดือนในไตรมาสสุดท้ายเฉลี่ย 241 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าเพียงร้อยละ 3.8 เท่านั้น เทียบกับอัตราการขยายตัวถึงร้อยละ 10 เมื่อตอนต้นปี 2556 แล้วนับว่าแตกต่างกันมากเกินไป ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนเกิดความกังวลในผลประกอบการของบริษัท

นอกจากนี้ ปริมาณการเข้าดูไทม์ไลน์ยังลดลงถึงเกือบร้อยละ 7 แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้บริการกดรีเฟรชเพื่อดูฟีดของตนเองน้อยลงกว่าที่เคยเป็นมา

อย่างไรก็ตาม แม้การขาดทุนสุทธิของบริษัทจะมีมูลค่าสูง แต่รายรับก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยเมื่อพิจารณาผลประกอบการในไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 จะพบว่า มีรายรับอยู่ที่ 243 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 116 ขณะที่มีผลขาดทุนสุทธิ 511 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 17,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายรับของทวิตเตอร์ส่วนใหญ่มาจากการขายพื้นที่โฆษณาและขายข้อมูลพฤติกรรมการทวีตของผู้ใช้บริการ โดยร้อยละ 90 ของรายรับในไตรมาสสุดท้ายนั้นมาจากโฆษณาทั้งสิ้น และในจำนวนนี้ ร้อยละ 75 ของรายได้จากโฆษณาทั้งหมดมาจากสื่อเคลื่อนที่ เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เป็นต้น​