เรื่อง ความรักของแม่
มีหญิงชราผู้หนึ่งซึ่งมีลูกสาวอยู่ 4 คนด้วยกัน
ลูกสาวของนางนั้นแต่งงานออกเรือนไปจนมีลูกมีเต้ากันทุกคนแล้ว
ครั้นพอถึงปีใหม่ หญิงชราคิดถึงลูกๆหลานๆของนางมาก เพราะลูกทั้งสี่ไม่เคยพาหลานมาเยี่ยมเยียนผู้เป็นยายบ้างเลย
นางจึงให้เพื่อนบ้านไปช่วยตามลูกๆ มาพร้อมหน้าพร้อมตากันในวันปีใหม่ โดยหญิงชราก็รีบเข้าครัวปรุงอาหารอย่างดีมาเลี้ยงต้อนรับ
ครั้นเมื่อหญิงชรานำอาหารจานสุดท้ายมาวางที่โต๊ะนางก็เอ่ยขึ้นว่า
“เอาล่ะ กินอาหารกันได้แล้วจ้ะ”
หญิงชรานั่งลงยังไม่ทันที่จะหยิบช้อน ลูกสาวทั้งสี่ของนางก็รีบแย่งกันตักกับข้าวใส่จานลูกของตนอย่างรวดเร็ว
จนในที่สุดอาหารก็หมดลง หญิงชรายังไมได้ตักกับข้าวเลยแม้แต่สักช้อนเดียวเลย
ครั้นเมื่อถึงมื้อเช้าเหตุการณ์ก็เป็นไปเช่นเดิมอีก หญิงชรารู้สึกขมขื่นและหดหู่หัวใจเป็นยิ่งนัก
ครั้นเมื่อถึงมื้อเย็นวันนั้นทันทีที่หญิงชรานำกับข้าวจานสุดท้ายมาวางบนโต๊ะ นางก็มิเอ่ยออกมาว่าให้เริ่มกินอาหารกันได้
แต่หญิงชรารีบเทกับข้าวแต่ละอย่างใส่ลงในจานข้าวของลูกสาวทั้งสี่ของนางจนหมดสิ้น
ลูกสาวทั้งสี่เห็นเช่นนั้นก็งุนงนยิ่ง ลูกสาวคนโตจึงเอ่ยถามแม่ของตนว่า
“ทำไมแม่ทำเช่นนี้”
หญิงชราจึงเอ่ยขึ้นว่า
“พวกเจ้ายังรู้จักที่จะรักและเป็นห่วงลูกของเจ้าได้ ตัวแม่นั้นก็เป็นแม่คนหนึ่งเหมือนกัน แม่ก็อยากที่จะรักลูกของแม่บ้าง
อยากที่จะให้ลูกของแม่ได้กินมากๆ ได้กินอิ่มๆ บ้างนะสิ”
เมื่อได้ฟังเช่นนั้นลูกสาวทั้งสี่ของหญิงชราก็พากันก้มหน้าด้วยความละอายใจและสำนึกผิด
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : คนเราควรจะนึกถึงหัวอกของผู้อื่นและคนผู้เป็นแม่นั้นเมื่อมีลูกก็ควรที่จะย้อนคิดไปถึงผู้เป็นแม่ของตน
มิใช่คิดแต่จะมีหน้าที่เลี้ยงลูกของตนเองเพียงอย่างเดียว